ย้อนเหตุปี 46 เฟกนิวส์ "กบ สุวนันท์" ลุกลามถึงขั้นเผา แต่จบเรื่องแล้ว ทักษิณสนิทฮุนเซน
เหตุการณ์พิพาทไทย-กัมพูชา 2546: เบื้องหลังข่าวลือ “กบ สุวนันท์” ถึงวิกฤตเผาสถานทูตและการเมืองภูมิภาค
จุดเริ่มต้น: ข่าวลือและอารมณ์ชาตินิยม
มกราคม 2546 ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเกิดรอยร้าวจาก “ข่าวลือ” ที่ไม่มีมูล เมื่อหนังสือพิมพ์ รัศมี อังกอร์ ของกัมพูชาเผยแพร่บทความอ้างว่า “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” นักแสดงสาวชื่อดังของไทย ดูหมิ่นกัมพูชาด้วยการกล่าวว่านครวัดเป็นของไทย และจะไม่เหยียบแผ่นดินเขมรจนกว่าจะได้คืน
แม้ไม่มีหลักฐาน แต่สื่อกัมพูชาหลายสำนักกลับขยายข่าวนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในโรงเรียนและสถานีวิทยุ จนกลายเป็นกระแสความไม่พอใจอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน
การยั่วยุทางการเมืองและวัฒนธรรม
วันที่ 27 มกราคม 2546 ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวโจมตี “กบ สุวนันท์” อย่างรุนแรงว่า “ไม่มีค่าเทียบเท่าใบหญ้า” พร้อมประกาศแบนสื่อไทยทุกชนิดจากประเทศ ส่งผลให้กระแสโกรธเคืองต่อดาราไทยยิ่งลุกลาม จนเธอถูกเรียกขานด้วยฉายาว่า “เนียงประกายพฤกษ์” หรือ “ดาวพระศุกร์” ในเชิงดูแคลน
วิกฤตปะทุ: จลาจลและการเผาสถานทูต
วันที่ 29 มกราคม 2546 กลุ่มผู้ชุมนุมชาวกัมพูชาราว 500 คน ปิดล้อมสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ พังประตู ทุบทำลายทรัพย์สิน และจุดไฟเผา ขณะเดียวกันก็เกิดการบุกปล้นร้านค้าและทรัพย์สินของคนไทยอย่างโกลาหล ท่ามกลางความหวาดกลัวของชาวไทยในพื้นที่
เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยต้องหนีเอาชีวิตรอด โดยบางส่วนได้รับความช่วยเหลือจากสถานทูตญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เคียง
การตอบโต้ของรัฐบาลไทย: ปฏิบัติการโปเชนตง
รัฐบาลไทย นำโดย ทักษิณ ชินวัตร ตอบโต้ด้วย “ปฏิบัติการโปเชนตง” แบ่งเป็น 2 ระยะ:
- โปเชนตง 1: ส่งเครื่องบิน C-130 อพยพคนไทยและเจ้าหน้าที่สถานทูตกลับประเทศ
- โปเชนตง 2: เตรียมกำลังคอมมานโดและฝูงบิน F-16 ไว้ที่กองบิน 1 โคราช พร้อมเข้าช่วยเหลือหากเหตุการณ์ลุกลาม
ทักษิณยังโทรสายตรงถึงฮุน เซน เรียกร้องให้ควบคุมสถานการณ์ภายใน 1 ชั่วโมง มิฉะนั้นจะส่งหน่วยรบเข้าไปเอง พร้อมขับทูตกัมพูชาออกจากประเทศ และสั่งปิดด่านชายแดนทันที
ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการทูต
เหตุการณ์จลาจลส่งผลให้ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และธุรกิจไทยในพนมเปญเสียหายยับเยิน กัมพูชาต้องชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้น 6 ล้านดอลลาร์สำหรับสถานทูต และเจรจาจ่ายชดเชยให้ภาคเอกชนเพิ่มเติม
ชายแดนไทย-กัมพูชากลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 21 มีนาคม 2546 หลังสถานการณ์คลี่คลาย
บทบาทของ “กบ สุวนันท์” และอิทธิพลของ Fake News
กบ สุวนันท์ ออกมายืนยันว่าไม่เคยพูดดูหมิ่นกัมพูชา พร้อมประกาศว่าจะขอโทษทันทีหากมีหลักฐาน แต่สุดท้ายก็ไม่พบข้อมูลใดยืนยันว่าข่าวนั้นเป็นจริง กลับพบว่าเป็นข่าวปลอมที่สร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นกระแสชาตินิยม ซึ่งส่งผลให้เธอถูกถอนโฆษณาในกัมพูชาทั้งหมด
เหตุการณ์นี้กลายเป็นตัวอย่างชัดเจนของพลังทำลายล้างจาก เฟกนิวส์ ที่สามารถสร้างความเสียหายทั้งในระดับบุคคลและระดับชาติได้อย่างมหาศาล
ผลลัพธ์ทางการเมือง: ทักษิณ-ฮุน เซน กับมิตรภาพหลังวิกฤต
แม้เหตุการณ์จะเริ่มจากความรุนแรง แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ “มิตรภาพ” ระหว่างผู้นำสองประเทศ ทักษิณกับฮุน เซน สานสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นภายหลังจากการจัดการวิกฤต ทำให้สามารถพูดคุยเรื่องเขตแดนได้อย่างราบรื่นในช่วงต่อมา
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจส่วนตัวระหว่างผู้นำทั้งสอง มีบทบาทสำคัญในการลดความรุนแรงของความขัดแย้งและส่งเสริมการเจรจาอย่างสร้างสรรค์
บทเรียนและความทรงจำ
- เฟกนิวส์ สามารถจุดชนวนความขัดแย้งระดับชาติได้
- คนดังมีอิทธิพลข้ามชาติ และอาจกลายเป็นชนวนทางการเมืองได้โดยไม่รู้ตัว
- การตอบสนองเชิงยุทธศาสตร์จากรัฐบาล เป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมวิกฤต
- ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจำเป็นต้องสร้างบนความไว้วางใจส่วนบุคคล
แม้เวลาผ่านไปกว่า 20 ปี เหตุการณ์นี้ยังคงถูกพูดถึง และใช้เป็นกรณีศึกษาในวงการการเมือง การทูต และสื่อสารมวลชน โดยเป็นตัวอย่างอันชัดเจนว่า “ข่าวลือ” เพียงหนึ่งบรรทัด สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล