หดหู่ สพฐ.เผย เหตุปะทะชายแดน คร่าชีวิตเยาวชน 5 ราย
วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ได้มีการหารือเร่งด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อครู นักเรียน และโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง
รายงานจากพื้นที่ระบุว่า มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิตถึง 5 รายจากเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดได้รับการรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว ส่วนโรงเรียนในบางจุดก็ได้รับความเสียหาย ซึ่งสพฐ.จะจัดงบประมาณเพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน
ในด้านการจัดการเรียนการสอน สพฐ.ได้รับพระเมตตาจากกรมสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ที่ทรงห่วงใยต่อการศึกษาของนักเรียนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการเรียนและการสอบกลางภาคที่อาจต้องชะงักลง สพฐ.จึงอยู่ระหว่างออกแบบแนวทางการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ด้วยการนำแนวทางการเรียน 5 รูปแบบที่เคยใช้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาปรับใช้ ได้แก่
1. Onsite เรียนในโรงเรียนสำหรับพื้นที่ปลอดภัย
2. On-air เรียนผ่านระบบ DLTV
3. Online เรียนผ่านอินเทอร์เน็ต
4. On-demand เรียนผ่านแอปพลิเคชันตามเวลาที่สะดวก
5. On-hand เรียนผ่านใบงานหรือแบบฝึกหัดที่โรงเรียนจัดให้
พร้อมกันนี้ สพฐ.ได้ย้ำว่า ไม่มีนโยบายสั่งให้ครูอยู่เฝ้าโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงโดยลำพัง และจะต้องรอคำสั่งจากฝ่ายความมั่นคงก่อนจึงจะสามารถกลับเข้าพื้นที่ได้ ขณะเดียวกัน ยังมีการประสานงานกับหน่วยงานด้านสุขภาพจิตในพื้นที่ เพื่อช่วยดูแลสภาพจิตใจของครูและนักเรียนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ สพฐ.ได้ยกย่องและให้กำลังใจนักเรียนชายระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากโรงเรียนกันทรลักษณ์วิทยา จังหวัดศรีสะเกษ ที่กล้าหาญเข้าช่วยเพื่อนนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน จนกลายเป็นกระแสชื่นชมในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง
สำหรับกลุ่มนักเรียนและครูที่ต้องอพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว สพฐ.ได้เตรียมส่งทีมผู้บริหารจากส่วนกลางลงพื้นที่ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ เพื่อดูแลบริหารจัดการด้านการศึกษา พร้อมจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน
ส่วนการสอบบรรจุครูผู้ช่วยของสพฐ.ในวันที่ 16-17 สิงหาคมนี้ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ ระบุว่า จะมีการเลื่อนการสอบในเขตพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันจะมีการจัดทำข้อสอบใหม่ที่ใช้มาตรฐานเดียวกับทั่วประเทศมาทดแทน เพื่อความเป็นธรรม ส่วนพื้นที่อื่นยังคงดำเนินการสอบตามกำหนดเดิม