สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 3 ส.ค. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.ตาก (47 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.กาฬสินธุ์(63 มม.) ภาคกลาง : จ.นนทบุรี (27 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (29 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ประจวบคีรีขันธ์ (82 มม.) ภาคใต้ : จ.สุราษฎร์ธานี (95 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย
คาดการณ์ : ในช่วงวันที่ 5 – 8 ส.ค. 68 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบน เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (52,124 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 48% (28,005 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
3. พื้นที่ประสบอุทกภัย : สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 2 ส.ค. 68 ในพื้นที่ 4 จ. 10 อ. ได้แก่ จ.เชียงราย (อ. เชียงของ และขุนตาล) จ.น่าน (อ.เวียงสา) จ.สุโขทัย (อ.เมืองสุโขทัย ศรีสำโรง สวรรคโลก ศรีสัชนาลัย และศรีนคร) และ จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ และพรหมพิราม)
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (2 ส.ค. 68) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 3/2568 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ณ ศาลากลางจังหวัดหนองคาย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีข้อสั่งการในประเด็นสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนี้
(1) ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการข้อมูลผ่านศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ เฝ้าระวังและเผยแพร่สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลในการประสานงานร่วมกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
(2) ให้จังหวัด กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังแนวกั้นน้ำชั่วคราวที่ได้ดำเนินการแล้วให้มีความมั่นคง เพื่อป้องกันพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากร เช่น เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ และชุดปฐมพยาบาล รวมถึงต้องดำเนินการด้านจุดศูนย์พักพิงชั่งคราว เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ทันที
(3) ให้จังหวัดบูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิต่าง ๆ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วให้ความช่วยเหลือลงพื้นที่ตามแผนเผชิญเหตุ ด้านการช่วยเหลือ การพยาบาลและการบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชน
(4) ให้จังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมประชาสัมพันธ์ ใช้ระบบแจ้งเตือนภัย เช่น Cell Broadcast ควบคู่กับช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันสถานการณ์ และลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
(5) การแก้ไขปัญหาระยะยาวให้ จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เช่น การปรับปรุงระบบระบายน้ำของชุมชนเดิม การสร้างแนวคันป้องกันน้ำท่วมแบบถาวร การก่อสร้างประตูระบายน้ำตามลำน้ำสาขาเพิ่มเติม เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ส.ค. 68