สมาคมนักข่าวฯ จับมือ TDJ แถลง 6 ผลงานข่าวเชิงลึก ด้านสังคม ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและชมรมเครือข่ายนักสื่อสารข้อมูลเชิงลึกแห่งประเทศไทย (TDJ) ได้จัดงานแถลงข่าว “เปิดผลงาน 6 กลุ่ม ข่าวเจาะดาต้าเชิงลึกขับเคลื่อนนโยบายรัฐไทยให้ดีกว่าเดิม” เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าว ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนม.ค.–ก.ค. 2568 สำหรับผู้สื่อข่าว และทีมนักเทคโนโลยีจิตอาสาจาก ODDS –TEAM กว่า 60 คนเข้าร่วม ทั้งนี้ข่าวสืบสวนเชิงลึกจำนวน 6 ชุด ที่มีความครอบคลุมประเด็นความมั่นคง สังคม สิ่งแวดล้อม
ด้านความมั่นคง คือปัญหาทุ่นระเบิดตกค้างในพื้นที่ 17 ล้านตารางเมตร บนพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด 15 อำเภอ ในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณอีสานใต้ สุรินทร์ ศรีสะเกษ สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทยังไม่สามารถปักปันเขตแดนได้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเหยียบทุ่นระเบิดเฉลี่ยปีละ 55 ราย โดยจังหวัดสระแก้วมียอดผู้ได้รับผลกระทบสะสมมากที่สุดถึง 165 ราย ทางออกคือ 1. ผลักดันให้การเจรจาเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นวาระเร่งด่วนผ่านกลไกระหว่างประเทศ เช่น GBC 2.ปรับบทบาทการเก็บกู้ให้เป็นภารกิจพลเรือน ภายใต้กฎหมายที่สร้างความเชื่อมั่นระดับสากล 3.สร้างการรับรู้ในสังคมว่าทุ่นระเบิดคือปัญหาชีวิต ไม่ใช่แค่ปัญหาเชิงอาณาเขต
ด้านสิ่งแวดล้อม เรื่อง “ตำงบละลายโขงสำรวจความคุ้มค่าเขื่อนป้องกันตลิ่ง 4 หมื่นล้านบาท” รวมกว่า 500 โครงการในปี 2558–2567 แต่ละโครงการใช้งบซ่อมสูงกว่าค่าก่อสร้างถึง 2-3 เท่า การออกแบบเขื่อนไม่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น ไม่มีการรับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง, กรณีความคุ้มค่าของโครงการก่อสร้างเขื่อนในจีนและลาว ทำให้ระดับน้ำผันผวน ตลิ่งพัง และชุมชนกว่า 8 จังหวัดริมโขงได้รับผล, ปัญหานายทุนปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 386 ล้านตัน CO₂ ด้วยการฟอกเขียว ทำให้คนไทยรับผลกระทบจากโลกร้อน อุณหภูมิที่พุ่งสูง 4-5 องศาในฤดูร้อน และฝนตกหนักรุนแรง ซื้อขายคาร์บอนเครดิตอย่างลับลวงพรางจากโครงการป่าไม้ ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ดันเป็นวาระชาติและเปิดเผยข้อมูลอย่างจริงจัง
ด้านสังคม เรื่อง เกี่ยวกับปัญหาการสอบว่า O-NET ที่ใช้งบประมาณมาก ปรับปรุงหลายครั้งแต่ ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาการของระบบการศึกษาไทย นักเรียกยังมีปัญหาคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จน O-NET ถูกมองเป็นเครื่องมือกดดันมากกว่าเครื่องมือพัฒนา จึงเสนอให้ปรับบทบาท O-NET เป็นเครื่องมือเข้าใจความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการจ้างงานผู้สูงอายุของภาครัฐเพียง 2% หรือ 1.3 แสนคน ของจำนวนผู้สูงอายุ 14 ล้านคน ถือว่าน้อยมาก จึงขอให้รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเป้าชัดเจนในการจ้างผู้สูงวัยรายใหม่ในหน่วยงานรัฐ คุ้มครองสิทธิแรงงานสูงอายุ จัดทำฐานข้อมูลกลาง
ส่วนเรื่องอาชญากรรมไทย 5 ปีคดีพุ่ง 143% โดยเฉพาะฉ้อโกงออนไลน์เพิ่ม 759.2% สวนทางจำนวนบุคลากรกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เพียงพอพบปัญหาจึงเสนอปฏิรูปเชิงโครงสร้าง 4 ด้าน 1. ปฏิรูปงานสอบสวนตำรวจ: ปรับปรุงระบบอัตรากำลัง การฝึกอบรม และเทคโนโลยีสนับสนุน 2.ปฏิรูปกฎหมายลดความล่าช้าโดยการปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัย และให้ความสำคัญกับการใช้ดุลพินิจอย่างเป็นธรรม 3.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมลดภาระคดีสะสมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอัยการ–ศาล 4.ปฏิรูปการเข้าถึงความยุติธรรมสร้างระบบที่ประชาชนเข้าถึงง่าย โปร่งใส และเชื่อถือได้