โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดความจริงเบื้องลึกที่ต้องรู้ ทำไมทัวร์จีนนิยมมาไทยลดลง

เดลินิวส์

อัพเดต 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.23 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เปิดความจริงเบื้องลึกนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ทำไมไทยถึงไม่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันอีกต่อไป

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับคำถามสำคัญที่ว่า ทำไมนักท่องเที่ยวจีนถึงเดินทางมาน้อยลง ทั้งๆ ที่ไทยเคยเป็นตลาดของนักท่องเที่ยวจีนที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีกำลังซื้อสูง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ปัจจัยหลายประการได้กัดเซาะความเชื่อมั่นและความน่าดึงดูดใจของไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีน ไม่ว่าจะเป็นความกังวลด้านความปลอดภัย ภาพลักษณ์ที่ล้าสมัยของแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงนโยบายของไทยเอง

ความกังวลด้านความปลอดภัยนับเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความมั่นใจของนักท่องเที่ยวจีนอย่างมาก กรณีของดาราจีน "ซิงซิง" ที่ถูกหลอกเข้ามาร่วมงานในไทย แต่กลับถูกพาไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามแดน แม้จะเป็นข่าวใหญ่และได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว แต่ข่าวนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวาง และตามมาด้วยข่าวการถูกหลอกลวงของคนจีนทั่วไป เดินทางผ่านไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายกรณีอย่างต่อเนื่องแม้ในเดือนที่ผ่านมา

เหตุการณ์เหล่านี้ตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านลบว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด นอกจากนี้กระแสการปราบปรามธุรกิจสีเทาในไทยในช่วงหลังยังส่งผลย้อนกลับ ทำให้คนจีนหวาดกลัวและรับรู้ว่ามีธุรกิจผิดกฎหมายในไทยเป็นจำนวนมากจากสื่อต่างๆ ยิ่งเพิ่มความไม่มั่นใจในความปลอดภัย

อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปในสายตานักท่องเที่ยวจีน การมาเที่ยวไทยไม่ได้ "เท่" อีกต่อไปเหมือนเมื่อก่อน มีนักท่องเที่ยวจีนหลายรายเล่าว่าเมื่อกลับจากไทยมักจะถูกคนรู้จักทักท้วงด้วยคำถามเชิงขบขันว่า "มาไทยทำไม" ซึ่งสะท้อนว่าการมาเที่ยวไทยอาจไม่สามารถแสดงความภาคภูมิใจหรือไม่ได้สร้างความประทับใจเหมือนเดิมในสังคมจีน

ปัญหาที่ตามมาคือ แหล่งท่องเที่ยวของไทยยังคงเป็นแบบเดิมๆ ไม่ได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงให้ทันสมัยเหมือนประเทศอื่นๆ นักท่องเที่ยวจีนมองว่าไทยเหมือนประเทศที่ยังไม่ค่อยเจริญ ขาดจุดท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติมากเกินไปจนขาดการต่อยอดและสร้างสรรค์ ในขณะที่เวียดนามกลับโดดเด่นในการนำพื้นที่ธรรมชาติมาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวคิดของไทยที่เหมือนจะ "หวง" สถานที่มากเกินไป จนไม่สามารถใช้ประโยชน์เชิงการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่

ในด้านพฤติกรรมการท่องเที่ยว การมาท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ได้ลดลงไปมาก โดยเป็นผลต่อเนื่องมาจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งแม้จะมีจุดประสงค์ที่ดี แต่กลับกระทบผู้ประกอบการทัวร์รายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องไปด้วย จนสังเกตได้เลยจากเราจะไม่ค่อยเห็นรถทัวร์ของผู้ประกอบการไทยที่ปกติรับนักท่องเที่ยวจีนเจ้าใหญ่ๆ บนท้องถนนอีกต่อไป

นโยบายที่เข้มงวดของจีนก็มีส่วนสำคัญ จีนไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวของตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและกาสิโน แม้แต่ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าเอง รัฐบาลจีนก็ยังคงควบคุมการเข้าถึงของนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่และพยายามลดการพึ่งพิงธุรกิจกาสิโนอย่างต่อเนื่อง นโยบายเหล่านี้ส่งผลทางอ้อมต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนไปยังประเทศที่อาจมีภาพลักษณ์เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่น่าสนใจ นั่นคือ ปัจจุบันมีนักศึกษาจีนในไทยประมาณ 30,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสื่อสารและเชิญชวนครอบครัวของตนให้เดินทางมาเยี่ยมเยือนและท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อีกมาก หากสามารถใช้ช่องทางนี้ให้เกิดประโยชน์ ก็อาจช่วยฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ตลาดนักท่องเที่ยวจีนยังคงสำคัญกับไทย เพราะเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ชอบทานอาหารท้องถิ่น และ ชอบการซื้อของฝาก และการนวดสปา

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและภาครัฐของไทยสามารถวางแผนกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาอีกครั้งได้อย่างตรงจุดและยั่งยืนต่อไป.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘ตร.บางพลี’ ซิว ‘สาวแสบ’ โพสต์เฟซฯรับสมัครลูกจ้าง เหยื่อหลงเชื่อ เจอเชิดเงินมัดจำเผ่นหนี

33 นาทีที่แล้ว

ล่า ‘หนุ่มสุราษฎร์’ ปืนดุ! คิดว่าญาติรุกล้ำสวนยาง ปืนรัวยิงดับสลด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“สาลิกาดง” สะดุ้ง “อิซัค” ขอขึ้นค่าจ้าง 3 แสนปอนด์ต่อวีก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทลายเครือข่ายค้ายา “ไอ้มุ้ย” มือบงการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ยึดทรัพย์ 408 ล้าน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วัยรุ่นยกพวกทะเลาะกัน ชายถูกยิง20แผลไม่ระคายผิวเดินหน้าตาเฉย

Khaosod

‘ตร.บางพลี’ ซิว ‘สาวแสบ’ โพสต์เฟซฯรับสมัครลูกจ้าง เหยื่อหลงเชื่อ เจอเชิดเงินมัดจำเผ่นหนี

เดลินิวส์
วิดีโอ

ตำรวจภูธภาค 3 พร้อมทุกด้าน ตรวจเข้มกลางวัน กลางคืน ดูแลประชาชนแนวชายแดน ย้ำปลอดภัย

BRIGHTTV.CO.TH

โคคา-โคล่า เตรียมเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ใช้น้ำตาลอ้อย ตามการผลักดันของทรัมป์

JS100

อุบัติเหตุรถพ่วงชนรถตู้รับส่งนักเรียน มีผู้บาดเจ็บหลายราย จ.นครศรีธรรมราช

สวพ.FM91

ทลายเครือข่ายค้ายา ไอ้มุ้ย มือบงการอุ้มฆ่าดีเจเตเต้ ยึดทรัพย์ 408 ล้านบาท

Khaosod

รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถบรรทุกน้ำ ถนนบรมราชชนนี ก่อนถึงต่างระดับฉิมพลี อาสากู้ภัยเร่งนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.

สวพ.FM91

หลายเมืองในฝรั่งเศสประกาศเคอร์ฟิวสำหรับเด็กๆ ป้องกันความรุนแรงจากยาเสพติด

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดโผ ‘อัยการ’ โต๊ะเล็กแต่งตั้ง ‘โชคชัย-โกวิท’ รอง อสส. จ่อส่งโต๊ะใหญ่เคาะ 25 ก.ค.

เดลินิวส์

สุดงง! ตำรวจจับโจรรุ่นลุง เลือกขโมยแต่รองเท้าข้างขวากว่าครึ่งร้อย

เดลินิวส์

‘เป็กกี้ ศรีธัญญา’ ค้างค่าส่วนกลางคอนโด 5 ปี ยอดทะลุแสน อุทาหรณ์ให้อยู่ฟรี ‘เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด’

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...