เปิดความจริงเบื้องลึกที่ต้องรู้ ทำไมทัวร์จีนนิยมมาไทยลดลง
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับคำถามสำคัญที่ว่า ทำไมนักท่องเที่ยวจีนถึงเดินทางมาน้อยลง ทั้งๆ ที่ไทยเคยเป็นตลาดของนักท่องเที่ยวจีนที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีกำลังซื้อสูง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ปัจจัยหลายประการได้กัดเซาะความเชื่อมั่นและความน่าดึงดูดใจของไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีน ไม่ว่าจะเป็นความกังวลด้านความปลอดภัย ภาพลักษณ์ที่ล้าสมัยของแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงนโยบายของไทยเอง
ความกังวลด้านความปลอดภัยนับเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความมั่นใจของนักท่องเที่ยวจีนอย่างมาก กรณีของดาราจีน "ซิงซิง" ที่ถูกหลอกเข้ามาร่วมงานในไทย แต่กลับถูกพาไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามแดน แม้จะเป็นข่าวใหญ่และได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว แต่ข่าวนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวาง และตามมาด้วยข่าวการถูกหลอกลวงของคนจีนทั่วไป เดินทางผ่านไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายกรณีอย่างต่อเนื่องแม้ในเดือนที่ผ่านมา
เหตุการณ์เหล่านี้ตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านลบว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด นอกจากนี้กระแสการปราบปรามธุรกิจสีเทาในไทยในช่วงหลังยังส่งผลย้อนกลับ ทำให้คนจีนหวาดกลัวและรับรู้ว่ามีธุรกิจผิดกฎหมายในไทยเป็นจำนวนมากจากสื่อต่างๆ ยิ่งเพิ่มความไม่มั่นใจในความปลอดภัย
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปในสายตานักท่องเที่ยวจีน การมาเที่ยวไทยไม่ได้ "เท่" อีกต่อไปเหมือนเมื่อก่อน มีนักท่องเที่ยวจีนหลายรายเล่าว่าเมื่อกลับจากไทยมักจะถูกคนรู้จักทักท้วงด้วยคำถามเชิงขบขันว่า "มาไทยทำไม" ซึ่งสะท้อนว่าการมาเที่ยวไทยอาจไม่สามารถแสดงความภาคภูมิใจหรือไม่ได้สร้างความประทับใจเหมือนเดิมในสังคมจีน
ปัญหาที่ตามมาคือ แหล่งท่องเที่ยวของไทยยังคงเป็นแบบเดิมๆ ไม่ได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงให้ทันสมัยเหมือนประเทศอื่นๆ นักท่องเที่ยวจีนมองว่าไทยเหมือนประเทศที่ยังไม่ค่อยเจริญ ขาดจุดท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติมากเกินไปจนขาดการต่อยอดและสร้างสรรค์ ในขณะที่เวียดนามกลับโดดเด่นในการนำพื้นที่ธรรมชาติมาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวคิดของไทยที่เหมือนจะ "หวง" สถานที่มากเกินไป จนไม่สามารถใช้ประโยชน์เชิงการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
ในด้านพฤติกรรมการท่องเที่ยว การมาท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ได้ลดลงไปมาก โดยเป็นผลต่อเนื่องมาจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งแม้จะมีจุดประสงค์ที่ดี แต่กลับกระทบผู้ประกอบการทัวร์รายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องไปด้วย จนสังเกตได้เลยจากเราจะไม่ค่อยเห็นรถทัวร์ของผู้ประกอบการไทยที่ปกติรับนักท่องเที่ยวจีนเจ้าใหญ่ๆ บนท้องถนนอีกต่อไป
นโยบายที่เข้มงวดของจีนก็มีส่วนสำคัญ จีนไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวของตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและกาสิโน แม้แต่ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าเอง รัฐบาลจีนก็ยังคงควบคุมการเข้าถึงของนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่และพยายามลดการพึ่งพิงธุรกิจกาสิโนอย่างต่อเนื่อง นโยบายเหล่านี้ส่งผลทางอ้อมต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนไปยังประเทศที่อาจมีภาพลักษณ์เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่น่าสนใจ นั่นคือ ปัจจุบันมีนักศึกษาจีนในไทยประมาณ 30,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสื่อสารและเชิญชวนครอบครัวของตนให้เดินทางมาเยี่ยมเยือนและท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อีกมาก หากสามารถใช้ช่องทางนี้ให้เกิดประโยชน์ ก็อาจช่วยฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ตลาดนักท่องเที่ยวจีนยังคงสำคัญกับไทย เพราะเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ชอบทานอาหารท้องถิ่น และ ชอบการซื้อของฝาก และการนวดสปา
การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและภาครัฐของไทยสามารถวางแผนกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาอีกครั้งได้อย่างตรงจุดและยั่งยืนต่อไป.