นายกฯ จีน เรียกร้องควบคุม 'สงครามราคาอีวี' เข้มงวดขึ้น
นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เรียกร้องให้มีการกำกับดูแลด้านราคาให้เข้มงวดยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรม "รถยนต์ไฟฟ้า" (EV) ระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมื่อวันพุธ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งกำลังพยายามควบคุม "สงครามราคา" ที่รุนแรง และกำลังเติมเชื้อไฟแรงกดดัน"ภาวะเงินฝืด" ในเศรษฐกิจจีน
ในการเน้นย้ำถึงภาคส่วนรถยนต์ไฟฟ้า หลี่ได้เรียกร้องให้มีการกำกับดูแลเรื่อง "ต้นทุนและการติดตามราคา" อย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อมเรียกร้องให้บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่"ชำระหนี้ให้กับบริษัทซัพพลายเออร์ให้ตรงเวลา" และบังคับตนเองให้ได้ในเรื่องของการกำหนดราคาสินค้า
ขณะเดียวกัน บริษัทรถยนต์ยังควรปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการยกระดับคุณภาพด้วย
ดีมานด์ที่ซบเซาจากผู้บริโภคยังส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของธุรกิจต่างๆ ซึ่งนายกฯ จีน ยังเรียกร้องให้มีความพยายามอีกครั้งในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ พร้อมยกเลิก “ข้อจำกัดที่ไม่สมเหตุสมผลซึ่งขัดขวางการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน” และเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายสำหรับโครงการแลกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค
ทั้งนี้ ความกังวลที่สะสมมานานเกี่ยวกับ "อุปทานส่วนเกิน" และ "สงครามราคา" ที่รุนแรงในจีนได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง โดยผู้กำหนดนโยบายของจีนกำลังมุ่งเป้าแก้ปัญหาสงครามการแข่งขันที่รุนแรงในจีน หรือ "เน่ยจวน" (Neijuan/Involution) ซึ่งหมายถึงการแข่งขันที่รุนแรงแต่บ่อยครั้งก็สร้างความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนที่มีกำลังการผลิตแบบโอเวอร์ซัพพลาย เช่น รถยนต์ไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ และเหล็กเส้น
ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนพ.ค. ปรับตัวลดลงถึง 9.1% ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสงครามราคาที่ทวีความรุนแรงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ ขณะที่ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตหน้าโรงงานก็ลดลงถึง 2.8% ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านกำไรของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จีน ก็ปรับตัวลดลงมากถึง 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจะเพิ่มขึ้น 11.7% ในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV)
ในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์จีนได้เรียกร้องให้ยุติ “การแข่งขันที่รุนแรง” ที่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของธุรกิจและคุกคามความมั่นคงของทั้งห่วงโซ่อุปทาน
ที่มา: CNBC