’ทักษิณ‘ ยัน ไม่เปลี่ยนรัฐบาล – นายกฯ ได้ ‘แพทองธาร’ เป็นผู้นำฯ แถมพ่อเป็นเสมียนประเทศ

’ทักษิณ‘ ยัน ไม่เปลี่ยนรัฐบาล - นายกฯ ได้ ‘แพทองธาร’ เป็นผู้นำฯ แถมพ่อเป็นเสมียนประเทศ รวมทุกปัญหาส่งให้นายกฯ ขอเลิกทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระ โอดนายกฯ ถูกพักงานเพราะเรื่อง “เฮงซวย” แนะ ฟื้นผู้ว่าฯ CEO เหตุไร้เจ้าภาพบริหารงาน

วันนี้ (17 ก.ค. 68) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในงาน “ปลดล็อคอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” (Unlocking Thailand’s Future) โดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤตโลก” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” ในตอนหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวว่า ตนบอกกับนายกรัฐมนตรีว่า เราน่าจะเอาระบบผู้ว่าฯ CEO กลับมา เพราะเราไม่มีเจ้าภาพ ถ้าในกระทรวงให้ปลัดกระทรวงเป็น COO เป็นเจ้าภาพในการปฏิบัตินโยบาย แต่เมื่อให้ผู้ว่าเป็น CEO ซึ่งการบริหารแบบ CEO นักธุรกิจรู้จักดีว่ามียุทธศาสตร์ มีเป้าหมาย มีการประเมินผล และการปรับปรุงประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า เพราะเราไม่มีเจ้าภาพ จึงไม่มีใครวางยุทธศาสตร์ กำหนดเป้าหมาย หรือประเมินผลความสำเร็จ ดังนั้นหากวันนี้นำผู้ว่าฯ CEO กลับมา จะทำให้แต่ละจังหวัดมีเจ้าภาพ ที่จะรับผิดชอบงานนโยบาย และดูแลงานประชาชน และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนไทยก็ต้องมี ถึงเวลาที่คนไทยจะต้องปล่อยวางความเกลียดชัง และหันหน้าเข้าหากัน เพราะประเทศเราพัฒนาช้ามากแล้ว ทุกอย่างช้ามา 20 ปีแล้ว และกฎหมายทุกอย่างที่จะออกใหม่ที่จะแก้ปัญหาที่หมักหมม เป็นเรื่องเร่งด่วน ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลมีความชอบธรรมที่จะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ในการแก้ปัญหาสำคัญของประเทศอย่างรวดเร็วทันใจ ไม่เช่นนั้นประเทศไม่ไปไหน

นายทักษิณ ยืนยันว่า ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี และยังต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เหมือนได้แถมตนมาเป็นเสมียนของประเทศ คอยรวบรวมทุกปัญหา และประเด็นสำคัญต่างๆ ส่งให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างๆ ให้ช่วยไปกันดู

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตนเดินทางกลับมาประเทศไทย เพื่อนชาวสิงคโปร์เคยบอกว่า ในฐานะเพื่อน ดีใจที่ตนได้เดินทางกลับประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ชาวสิงคโปร์ก็ต้องปรับกลยุทธ์แข่งขันกับไทยใหม่ เพราะตนกลับมาแล้ว แต่มาวันนี้เขาเห็นว่าเราทะเลาะกันเอง และนายกรัฐมนตรีถูกพักงานเพราะเรื่อง “เฮงซวย” เขาเลยบอกว่าวันนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะไทยคงแข่งกับสิงคโปร์ไม่ได้ สะท้อนว่า ประเทศไม่ควรขัดแย้งกันเพราะเรื่องไร้สาระ แต่ควรร่วมมือกันสร้างอนาคต ช่วยการทำให้บ้านเมืองเรารุ่งเรืองขึ้นดีกว่า ซึ่งทางรองประธานสภาอุตสาหกรรมก็สนับสนุนว่าเราควรสนับสนุนสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยดีกว่า เพราะคำว่า made in thailand ไม่ใช่ส่งเสริมเฉพาะข้าราชการ แต่คนไทยต้องรักกัน สิ่งที่สำคัญในวันนี้คือเราต้องรักกัน แม้จะเห็นต่างทางการเมือง

นายทักษิณ เล่าย้อนอดีตว่า สมัยเล่นการเมืองใหม่ ๆ ถึงจะด่ากันในสภาฯ ก็ยังนั่งดื่มกาแฟ หรือดื่มไวน์ด้วยกัน แต่เมื่อการเมืองรุนแรง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน มองว่า การเมืองควรเป็นเกม ใครชนะก็บริหาร ใครแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน แต่ทุกวันนี้หลายฝ่ายไม่ยอมรับความจริง

ส่วนสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ นายทักษิณ เสนอว่า ต้อง “เอ็มพาวเวอร์” คนรากหญ้า ด้วยการฟื้นกองทุนหมู่บ้าน และเติมงบให้ชุมชนมีเงินบริหารจัดการเอง เช่นเดียวกับโครงการ SML ในอดีต อีกทั้งยังต้องเอ็มพาวเวอร์คนไทยทั้งประเทศ ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ AI เพราะยุคนี้ใครใช้ AI ไม่เป็น จะตามโลกไม่ทัน ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมเปิดคอร์สฝึก AI ออนไลน์ให้ประชาชนเรียนฟรี ผ่านเว็บและแอปฯ เมื่อเรียนจบ จะได้โทเคนสำหรับใช้งานระบบ AI ได้จริง เพื่อให้คนไทยพร้อมรับมือโลกอนาคต แม้แต่โรงพยาบาล ก็อาจมี AI ช่วยทำงานแทบทุกขั้นตอนในอนาคตด้วย