“เมืองแก้ว” สนุกทะลุจอ กระแสชื่นชม “เบนซ์” ภูมิใจเป็นหนึ่งในส่วนร่วมละครคุณภาพ
“เบนซ์” ภูมิใจ ในบท “มะจา” ตัวแทนความแตกต่างทางชนชั้นของสังคม ปลื้มได้เป็นส่วนหนึ่งใน “เมืองแก้ว” ละครคุณภาพ ที่วันนี้เต็มไปด้วยคำชื่นชม พร้อมการันตีความสนุก ที่จะเข้มข้นขึ้นทุกตอน
สะกดทุกสายตาอยู่หมัด สำหรับ เมืองแก้ว ละครแนวดราม่าสะท้อนสังคม ผลงานจากค่าย มีเดีย สตูดิโอ นำแสดงโดย เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ประกบคู่ พิ้งค์พลอย-ปภาวดี ชาญสมอน ที่ล่าสุด ศัลยา หรือ คุณแดง-ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ผู้เขียนบทโทรทัศน์ ได้ออกมาชื่นชมคู่พระนาง ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ทั้งสองคนเล่นดี เป็นนักสิทธิ์และภวานี ที่ตรงตามบท และคิดว่าละครต่อจากนี้สนุกแน่นอน
ยิ่งตอกย้ำภาพให้แฟนละครเชื่อมั่นว่า ละครเมืองแก้ว เป็นละครที่อัดแน่นไปด้วยความตั้งใจของทุกคน ที่อยากถ่ายทอดบทบาทของทุกตัวละครให้ออกมาตรงกับบทประพันธ์และบทโทรทัศน์มากที่สุด
ซึ่งหนึ่งในตัวละครสำคัญที่เป็นตัวแทนความแตกต่างทางชนชั้นที่เห็นได้ชัด คือตัวละคร “มะจา” รับบทโดย เบนซ์-ชนกนันท์ เสนปิ่น โดยเบนซ์ได้เปิดใจถึงการทำงานละครเมืองแก้วว่า ดีใจและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการทำงานละครคุณภาพเรื่องนี้
“สำหรับเมืองแก้ว ฟีดแบ็กที่กลับมาดีมาก ๆ ค่ะคนพูดถึงเยอะมาก ๆ เบนซ์นั่งดูแล้ว ก็คิดย้อนไปตอนที่เราถ่ายละครกัน ทุกคนตั้งใจกันมาก วันนี้พอฟีดแบ็กกลับมาแบบนี้ เบนซ์ดีใจมากค่ะ ที่ทุกคนชอบ ขอบคุณแฟนละครเมืองแก้วทุกคนด้วยนะคะ
ในละครเรื่องนี้ เบนซ์ รับบท มะจา เป็นเด็กชาวเขา เป็นพี่สาวคนโตของครอบครัวที่ดูแลทุกคนในครอบครัว เราใช้ชีวิตกับพ่อแม่ น้องสาว กับน้องชาย คือมีความสุขกับครอบครัวของเราจนเราต้องเจอกับเหตุการณ์ที่คนมีอำนาจ มีเงิน เข้ามากดขี่ จนน้องสาวของเราถูกทำร้าย จนเราสูญเสียน้องของเราไป นั่นคือจุดที่ทำให้มะจาไม่พอใจมากที่สุด ทำให้ต้องลุกขึ้นสู้ ทั้งสู้เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว รวมถึงคนในหมู่บ้าน ตอนที่เบนซ์ได้บทมา เบนซ์อินกับตัวละครนี้มาก ด้วยความที่เบนซ์อาจจะยังไม่ค่อยเห็นว่าละครเรื่องไหนทำเนื้อหาแบบละครเรื่องนี้มาก่อน เบนซ์เลยอินและเข้าถึงความรู้สึกของมะจามาก ๆ สิ่งที่มะจาต้องเจอมันโหดร้ายมาก ๆ ซึ่งเบนซ์เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร ก็จะรู้สึกเหมือนกัน
ตอนที่ต้องแสดง เบนซ์ทำการบ้านหลายอย่างมาก เพราะบทค่อนข้างไกลตัว เราต้องเริ่มตั้งใจทำความเข้าใจว่าทำไมมะจาต้องรู้สึกโกรธ ต้องรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมกันมากขนาดนี้ ด้วยความที่เขาเป็นชาวเขา ความโกรธ การแสดงอารมณ์เบนซ์ก็ต้องไปทำการบ้านมาเพิ่ม เพราะพี่ต่อ (ต่อพงศ์ ตันกำแหง) ผู้กำกับบอกว่า เวลาเบนซ์เล่นช่วงแรก กริยาของเราออกมาเหมือนเด็กในเมืองไปหน่อย ก็ทำการบ้านตรงนี้เพิ่มด้วย ว่าเราควรจะแสดงออกแค่ไหน โกรธมากที่สุดได้แบบไหน สลัดภาพเด็กเมืองออกไป ทำให้เราต้องพยายามมากขึ้น ส่วนเรื่องบทพูด ยังไม่ยากมากค่ะ เพราะมะจาเป็นชาวเขา
ดังนั้นคำพูดของมะจาจะเป็นคำง่าย ๆ พื้นฐานในชีวิตประจำวัน บทของมะจาอาจจะสั้น พูดไม่เยอะ ไม่ยาว แต่อารมณ์รุนแรงทุกซีนค่ะ แล้วในเรื่องนี้ เบนซ์ร้องไห้เยอะมาก คือเบนซ์ต้องกลับมาทำการบ้านนะว่า ชีวิตของเรา จะสามารถโกรธและเกลียดคน ๆ หนึ่งได้มากมายขนาดไหน เพราะตลอดชีวิตของเรา เบนซ์ยังไม่เคยพาตัวเองไปจนถึงจุด ๆ นั้นมาก่อน จนได้มาเล่นละครเรื่องเมืองแก้ว มะจาคือคนที่ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เขาจะสู้แบบดับเครื่องชน ทำยังไงก็ได้ เพื่อให้ตัวของเขา ครอบครัว และคนในชุมชนได้รับความยุติธรรม
ส่วนการได้กลับมาร่วมงานกับพี่ฟีฟ่า (เปรมอนันต์ ศรีพานิช) ดีใจค่ะ เพราะเราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทำให้เราไม่เกร็งเวลาที่เราต้องเข้าฉากด้วยกัน และเป็นข้อดีตรงที่เราสองคนจะรู้ จะกะจังหวะ เวลาแสดงได้ว่าเราจะเล่นไปทางไหน เบนซ์ดีใจและภูมิใจนะคะที่ได้มาเล่นละคร เมืองแก้ว เพราะเบนซ์ได้อะไรกลับมาจากการทำงานเรื่องนี้เยอะมาก
อย่างเรื่องของขีดจำกัดทางการแสดง ที่เมื่อก่อนเราจะมีเซฟโซนของตัวเองประมาณหนึ่ง แต่พอมีคนเข้ามาผลักดัน มาบอกว่าเรายังไปได้อีก ก็ทำให้เราได้รู้ว่าเรายังทำได้มากกว่าที่เคยทำมาจริง ๆ รวมถึงเรื่องนี้เรายังได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่ที่เก่ง ๆ กันหลายคนเลย ยิ่งทำให้เราได้ประสบการณ์ที่ดีในการทำงานมากขึ้นด้วยค่ะ
เบนซ์อยากชวนทุกคนติดตามละครไปด้วยกันนะคะ เพราะละครเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ทุกคนพลาดไม่ได้ เพราะเนื้อหามันเข้มข้น มีหลายมิติ มีหลายตัวละครมาก ๆ เบนซ์อยากให้ได้ดูทุกตัวละครแล้วจะเข้าใจว่า ทุกตัวละครนั้นมีเหตุผลของตัวเองค่ะ”
ติดตามความสนุก ละคร “เมืองแก้ว” ทุกวันพุธ พฤหัสบดี เวลา 20.40 น. ทางช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 สดบนเว็บไซต์ www.ch7.com และรับชมย้อนหลังบนแอป TrueVisions NOW
และติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ทาง Facebook, IG, X, TikTok, YouTube : Ch7HD