สหรัฐมองตุรกี “เป็นตัวแปรสำคัญ” ในวิกฤติความมั่นคงตะวันออกกลาง
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่า นายทอม บาร์รัค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำตุรกี กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน บ่งบอกถึงการสร้างเส้นทางใหม่ และตุรกีเป็นกุญแจสำคัญของเส้นทางนี้
“ตะวันออกกลางพร้อมที่จะมีการเจรจาครั้งใหม่ ประชาชนเหนื่อยหน่ายกับเรื่องราวเดิม ๆ และมันจำเป็นอย่างยิ่งที่ความขัดแย้งยาวนานหลายสิบปี ต้องถูกตีกรอบใหม่” บาร์รัค กล่าว “อิสราเอลอยู่ในกระบวนการจำกัดความใหม่ และประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค จำเป็นต้องบรรลุข้อตกลงกับอิสราเอล”
บาร์รัค กล่าวเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี มองว่าเส้นทางใหม่นี้เป็นโอกาสในช่วงเวลาที่น่าสนใจในชีวิตของทั้งสองคน ซึ่งพวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงการเจรจาได้
นอกจากนี้ บาร์รัคยังเชื่อว่า สงครามในฉนวนกาซาจะมีการหยุดยิง “เร็ว ๆ นี้” ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงความคิดในภูมิภาค อีกทั้งตุรกีและอิสราเอล จะสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ถูกทำลายเพราะสงครามในฉนวนกาซาได้
อีกด้านหนึ่ง นายอิบราฮิม คาลิน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของตุรกี พบปะกับนายโมฮัมหมัด ดาร์วิช หัวหน้าสภาการเมืองของกลุ่มฮามาส และคณะผู้แทนของเขา เพื่อหารือเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา และความพยายามของตุรกี ที่จะยุติสงคราม และรับประกันการส่งมอบความช่วยเหลือไปยังดินแดนปาเลสไตน์ในทันที
ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยังพูดถึงความจำเป็นในการบรรลุฉันทามติระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ของปาเลสไตน์ ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ และการดำเนินตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงถาวรในฉนวนกาซา.
เครดิตภาพ : AFP