จอมโจร 1000 หน้า หลอกแต่งก่อนสูบเงิน ล่าเหยื่อมาทั่วประเทศ
วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ผู้เสียหายจำนวนมากร้องเรียนผ่านเพจ “สายไหมต้องรอด” หลังถูกจอมโจร1000หน้า มิจฉาชีพเปลี่ยนโฉมหน้าเรื่อย ๆ ออกตระเวนหลอกเหยื่อทั่วประเทศ ล่าสุดมีหญิงรายหนึ่งถูกหลอกให้จัดงานแต่งงาน ก่อนคนร้ายชิ่งหนีในวันงาน สูญเงินไปหลายแสนบาท
นายฟี อายุ 37 ปี ลูกชายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า แม่ของตนเปิดร้านเสริมสวยอยู่ภายในคลอง 14 โดยชายคนดังกล่าวเข้ามาใช้บริการตัดผม และตีสนิทกับแม่ของตน จากนั้นก็จีบแม่ โดยอ้างว่าเป็นผู้รับเหมาให้กับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่จังหวัดชลบุรี
หลังจากพูดคุยกันเพียง 2 สัปดาห์ ชายคนดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า “บังมิส” ได้ขอแม่แต่งงาน โดยอ้างว่าหลังแต่งงานจะพาไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และยังพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ 1 คน
ระหว่างนั้น บังมิสได้ขอยืมเงินแม่ของตนหลายครั้ง ครั้งละ 10,000-20,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำไปจ่ายค่าลูกน้องและค่าเหมางาน พร้อมสัญญาว่าหากได้รับเงินจากเจ้าของบ้านจะนำมาคืนให้
ใกล้วันแต่งงาน บังมิสได้ขอยืมเงินอีก 100,000 บาท บอกว่าเป็นค่ารถสำหรับญาติ 300 คนที่จะเดินทางมาร่วมงาน แม่ของตนจึงเตรียมจัดงานอยู่ที่บ้าน
กระทั่งถึงวันงาน 29 มิถุนายน 2568 ช่วงเวลา 08.00-09.00 น. แม่ของตนได้จัดเตรียมอาหารและค่าใช้จ่ายรวมกว่า 300,000 บาท แต่สุดท้ายฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ปรากฏตัว ทำให้งานแต่งต้องยกเลิก
ต่อมา ตนเองจึงพาแม่ไปแจ้งความที่ สภ.คลอง 13 จ.ปทุมธานี และตรวจสอบประวัติบังมิส พบว่าเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงหลายคดี และมีการศัลยกรรม ใบหน้าจนแม่จำแทบไม่ได้เมื่อเห็นภาพจากตำรวจ
เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า บังมิสพักอยู่ในซอยประชาร่วมใจ 13 เขตมีนบุรี โดยชาวบ้านในละแวกนั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เอือมระอา” กับพฤติกรรมของเขา
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” เปิดเผยว่า ผู้เสียหายรายนี้เป็นชาวไทยมุสลิมในพื้นที่คลอง 14 ปทุมธานี ลูกชายของผู้เสียหายได้เดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง
โดยผู้ก่อเหตุรายนี้เรียกได้ว่าเป็น “จอมโจรพันหน้า” เปลี่ยนหน้าผ่านการทำศัลยกรรมและฉีดโบท็อกซ์หลอกเหยื่อไปเรื่อย ๆ ล่าสุดหลอกแม่ของผู้เสียหาย ซึ่งเปิดร้านทำผม ตีสนิทและหลอกให้จัดงานแต่ง หลอกเงินไปหลายแสนบาท
เมื่อครอบครัวไปแจ้งความจึงพบว่า ผู้ชายรายนี้มีหมายจับติดตัวหลายคดี และจากการตรวจสอบบัตรประชาชน ยังพบว่า มีการเปลี่ยนชื่อและหน้าตาทุกครั้งที่ก่อเหตุ
นายเอกภพระบุว่า จะประสานไปยังผู้กำกับ สภ.คลอง 12 จ.ปทุมธานี เพื่อขอความช่วยเหลือติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ต่อไป