กาญจนบุรี หนุ่มซิ่งรถแหกด่านตรวจ สุดท้ายรถแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้ารถขาด 2 ท่อน ดับคาที่
หนุ่มซิ่งรถแหกด่านตรวจ สุดท้ายรถแหกโค้ง พุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง รถขาด 2 ท่อนเสียชีวิตคาที่ ค้นรถพบอาวุธปืน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนเต็มอัตรา และน้ำกระท่อมอีกกว่า 20 ขวด
วันที่ 31 ก.ค.68 ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนแสงชูโต เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี บันทึกภาพวินาที รถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กม xxxx กาญจนบุรี ขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนรถจะเกิดเสียหลักแหกโค้ง พุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าริมถนนอย่างจัง โดยหลังจากเกิดเหตุประมาณ 2 นาที กล้องตัวเดียวกันยังจับภาพของรถยนต์สายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ขับติดตามมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อเวลา 22.45 นาฬิกา ของวันที่ 30 กรกฎาคม 2568
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า รถยนต์คันเกิดเหตุ ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทางอย่างจัง จนรถฉีกขาดเป็น 2 ท่อน พบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย เสียชีวิตอยู่คาพวงมาลัยของรถ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือ นายศศิพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
สอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีที่เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ ขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดอยู่บริเวณศาลหลักเมืองกาญจนบุรี รถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุ ได้ขับมาเจอด่านตรวจ ก่อนจะหักรถเลี้ยวหลบหนีจากด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ จึงขับรถติดตาม กระทั่งรถคันดังกล่าว มาประสบอุบัติเหตุชนอัดกับเสาไฟฟ้าจนคนขับเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
เบื้องต้น จากการตรวจสอบ พบว่ามีขวดน้ำกระท่อม จำนวนกว่า 20 ขวด ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนบริเวณจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ ภายในรถ ยังพบอาวุธปืนแบบ Automatic ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายข้าง พร้อมด้วยลูกกระสุนปืน ขนาด .45 บรรจุเต็มแม็กกาซีน จำนวน 7 นัด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะตกใจที่เห็นด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับที่เจ้าตัวมีอาวุธปืนพร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนรวมถึงน้ำกระท่อมอยู่ภายในรถอีกกว่า 20 ขวด จึงพยายามขับรถหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งชนกับเสาไฟฟ้าจนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ประสานญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมารับศพเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป