“อี้อู” เมืองค้าส่งระดับโลก มอบประโยชน์ให้ “นักธุรกิจต่างชาติ” มากกว่า 3,700 คน
สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ว่าข้อมูลจากสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเมืองอี้อูระบุว่า คนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยบุคลากรระดับเอ (ชาวต่างชาติผู้มีความสามารถสูง) จำนวน 37 คน และระดับบี (ชาวต่างชาติผู้เชี่ยวชาญระดับวิชาชีพ) จำนวน 3,679 คน
เมืองอี้อูได้ริเริ่มนำระบบ “การประเมินตามผลงาน” รูปแบบใหม่มาใช้ในการคัดเลือกบุคลากรต่างชาติ โดยปัจจัยที่สำคัญในการประเมิน ได้แก่ ยอดส่งออกต่อปี การสร้างงานในท้องถิ่น และการสร้างคุณูปการแก่เศรษฐกิจในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนหรือนักธุรกิจต่างชาติสามารถยื่นขอเป็นบุคลากรระดับเอได้ หากมีคุณสมบัติถูกต้องตามเกณฑ์ อาทิ บริษัทมีรายได้จากการขายต่อปีเกิน 50 ล้านหยวน (ราว 226 ล้านบาท) และเงินเดือนที่ตนได้รับทั้งปีมากกว่า 600,000 หยวน (ราว 2.7 ล้านบาท) หรืออีกกรณีคือ บริษัทจ้างแรงงานในท้องถิ่นมากกว่า 10 คน และเจ้าของบริษัทต้องทำงานในมณฑลเจ้อเจียงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี รวมถึงต้องมีเงินเดือนประจำปีไม่ต่ำกว่า 600,000 หยวน (ราว 2.7 ล้านบาท)
ส่วนการยื่นขอสถานะบุคลากรระดับบีมีเกณฑ์ เช่น บริษัทมีมูลค่าการชำระเงินตราต่างประเทศเกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16 ล้านบาท) ต่อปี หรือมีมูลค่านำเข้า-ส่งออกต่อปีเกิน 10 ล้านหยวน (ราว 45.2 ล้านบาท)
นโยบายกำหนดให้บุคลากรระดับเอได้รับใบอนุญาตทำงานที่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 5 ปี พร้อมสิทธิในการรับบัตรอนุมัติแบบเร่งด่วน ขณะที่บุคลากรระดับบีจะได้รับใบบอนุญาตทำงานที่มีอายุระหว่าง 2–4 ปี
เมืองอี้อูได้รับสมญานามว่าเป็น “ซูเปอร์มาร์เก็ตของโลก” มีความเชื่อมโยงทางการค้ากับกว่า 230 ประเทศและภูมิภาค โดยมีพ่อค้าชาวต่างชาติมาเยือนที่นี่มากกว่า 28,000 คนต่อวัน คิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของจำนวนพ่อค้าต่างชาติทั้งหมดในมณฑลเจ้อเจียง อี้อูจึงเปิดตัวโครงการนำร่องด้านบุคลากรธุรกิจต่างชาติเมื่อเดือน ก.ย.2567 เพื่อดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนมากยิ่งขึ้น.
ข้อมูล : https://en.imsilkroad.com/p/346439.html
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES