24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2568
>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถบรรทุก 2 นักเรียนชายได้รับบาดเจ็บ อาสากู้ภัยเร่งช่วยเหลือ ก่อนนำทั้งคู่ส่ง รพ.
08.00 น. รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนน ใกล้ปากทางเข้าบ้านหนองน้ำใส ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปี้ สีแดง ป้ายทะเบียน ขอนแก่น ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหาย ใกล้กันพบรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน ชัยภูมิจอดอยู่ข้างกัน
ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยเป็น เด็กนักเรียนชาย ชั้น ม.1 และ ม.5 ของโรงเรียนในพื้นที่ ทางอาสาสมัครพุทธญาณ ช่วยเหลือปฐมพยาบาลและนำทั้ง 2 รายส่ง รพ.บ้านไผ่
จากการสอบถาม คนขับรถบรรทุก 6ล้อ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนได้ขับรถมาจาก จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อคืนและได้จอดนอนพักริมทาง พอได้เวลาช่วงเช้า จะขับรถบรรทุกไปรับรถไถนาค ภายในหมู่บ้านหนองน้ำใส เมื่อเลี้ยวซ้ายจากถนนเลี่ยงเมืองเข้าไปในหมู่บ้านเล็กน้อย ได้มีรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ขับแซงด้านซ้ายแล้วไปเกี่ยวกับข้างรถ ทำให้เสียหลักล้มและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ จะดำเนินการสอบสวนอีกที
>> รัฐบาลต้อนรับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ย้ำความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ แสดงจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี
10.00 น. คณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (CODEL) จากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต เข้าเยี่ยมคารวะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทย ภายใต้โครงการสร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยแก่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2568
โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคง เศรษฐกิจ และความร่วมมือระดับภูมิภาค พร้อมย้ำถึงความสำคัญของความเป็นพันธมิตรต่อกันที่มีมาอย่างยาวนาน และเห็นพ้องขยายความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและพลังงาน
นอกจากนี้ ในประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา รองนายกฯ ย้ำจุดยืนไทยในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและความจริงใจ พร้อมขอบคุณสหรัฐฯ ที่สนับสนุนการหยุดยิง ซึ่งไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลง โดยวันที่ 10 ก.ย. 68 จะมีการประชุม GBC ร่วมกันอีกครั้ง เชื่อว่าการสนับสนุนของสหรัฐฯ และประเทศอาเซียน จะช่วยให้การแก้ไขปัญหาพัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ คณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีในวันพรุ่งนี้ เพื่อติดตามข้อเท็จจริงและความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด
>> ไฟไหม้บนห้องพัก ในโครงการบ้านเอื้ออาทร ย่านรามอินทราซอย 127 ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ
11.04 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ โครงการบ้านเอื้ออาทรมีนบุรี ซอยรามอินทรา 127 ถนนรามอินทรา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 5 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 เพลิงลุกไหม้เสียหายคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ลุกลามฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 6 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควันและความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> ตำรวจน้ำ รวบชายชาวอินเดีย 3 ราย ลักลอบทำครัวเถื่อนบนเรือหรู
11.35 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติ (อินเดีย) 3 ราย ฐานความผิด “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา 8 พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561” โดยจับกุมได้บริเวณท่าเทียบเรือ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ หลังตำรวจน้ำออกตรวจปราบปรามอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณท่าเทียบเรือ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ตรวจเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต โดยในระหว่างการตรวจสอบ พบชาวต่างชาติกำลังช่วยกันประกอบอาหาร เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว แต่พบว่าไม่มีใบอนุญาตการทำงานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้ถูกจับให้การว่า ได้รับจ้างมาประกอบอาหารบนเรือลำดังกล่าวฯ จริง โดยได้รับค่าจ้าง ในครั้งนี้ เป็นเงินคนละ 700 บาท โดยผู้ถูกจับ ทั้ง 3 รายรับว่า ไม่มีใบอนุญาตทำงานจริง มีเพียงหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา 8 พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> ดินสไลด์ภายในวัดเกาะสิเหร่ ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต คาดฝนตกลงต่อเนื่อง ดินบริเวณที่ลาดเชิงเขาเคลื่อนตัวลงมา
11.40 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ขอรายงานเหตุเกิดสถานการณ์ดินสไลด์ ภายในพื้นที่วัดเกาะสิเหร่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ที่เกิดเหตุ ลักษณะดินสไลด์ในพื้นที่วัดเกาะสิเหร่ เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เทศบาลตำบลรัษฎาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ สาเหตุเนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินบริเวณที่ลาดเชิงเขาเคลื่อนตัวลงมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ให้ความช่วยเหลือและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าหรือรายละเอียดเพิ่มเติม จะรายงานให้ทราบต่อไป
>> รวบหนุ่มเมียนมา ขนแรงงานเถื่อนอัดแน่นกระบะ 13 ชีวิต
13.11 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจทางหลวงชุมพร สกัดจับรถกระบะต้องสงสัย บนถนนทางหลวงเอเชีย (ทล.41) กม.24 ตำบลครน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร หลังพบขับแซงช่องขวา กระจกติดฟิล์มทึบ และท้ายรถคลุมมิดชิด เมื่อตรวจสอบด้วยไฟฉายพบมีคนนั่งอัดแน่นเต็มคัน
จากการตรวจสอบพบคนขับเป็นชายสัญชาติเมียนมา และมีแรงงานต่างด้าวเพื่อนร่วมชาติอีก 13 คน โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารอนุญาตเข้าประเทศ สอบสวนเบื้องต้น คนขับสารภาพว่ารับการติดต่อจากนายหน้าชาวมอญในพื้นที่จังหวัดชุมพร ให้ไปรับแรงงานผิดกฎหมายที่ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร เวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 24 ส.ค. 2568 ก่อนลักลอบขนไปส่งยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยจะได้ค่าจ้าง 12,000 บาท
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือคนต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย” ก่อนจะนำผู้ต้องหาและรถกระบะ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> รถเก๋งชนเสาไฟฟ้าริมถนนเส้นทางยะลา - เบตง คนขับเป็นหญิงสาววัย 36 ปี เสียชีวิตที่ รพ.
13.31 น. รับแจ้งว่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าและมีผู้บาดเจ็บติดค้างในยานพาหนะ บนถนนหมายเลข 410 เส้นทางยะลา - เบตง บริเวณใกล้เคียงซอยตะโล๊ะสาลี 9 หมู่ที่ 4 ตำบลบันนังสาเรง อำเภอเมืองยะลา
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน ยะลา ในสภาพชนอัดติดกับเสาไฟฟ้า ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตรวจสอบเอกสารในเวลาต่อมา เป็นหญิงไทย อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถเพียงคนเดียว
หลังจากที่การไฟฟ้าฯ ได้ตัดไฟเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที และทำการปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลยะลา และได้รับแจ้งว่า ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในส่วนของสาเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา จะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป
>> กองทัพภาคที่ 1 แจงเหตุ กัมพูชาฮือรื้อลวดหนาม ที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว
15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยกองกำลังบูรพาได้ดำเนินการวางแนวลวดหนามเพื่อความปลอดภัยชั่วคราว ให้กับคณะจังหวัดสระแก้วในการตรวจพื้นที่ของประชาชน ในการเข้าทำการประเมินรายละเอียดที่ดินของประชาชน ในพื้นที่บ้านหนองจาน เพื่อเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยชั่วคราว และจำกัดขอบเขตพื้นที่ชายแดน การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกรอบการปฏิบัติด้านความมั่นคง โดยมิได้มุ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือกระทบกระทั่งกับฝ่ายใด
ปัจจุบัน กองกำลังบูรพา ได้เข้าพูดคุยชี้แจงในการดำเนินการการวางแนวลวดหนามเพื่อความปลอดภัยชั่วคราว เพื่อมิให้ฝ่ายกัมพูชาเข้าใจผิด หลังจากมีการตรวจพื้นที่ของ คณะจังหวัดสระแก้วในการตรวจพื้นที่ของประชาชนเรียบร้อยแล้ว หน่วยได้ดำเนินการปรับให้ดำรงสภาพเหมือนเดิม
กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา และฝ่ายไทยได้พูดคุยชี้แจงการปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์บานปลายและรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ
>> ศาลเเขวงพระนครเหนือ จำคุกนักแสดงสาว 2 เดือน รอลงอาญา 2 ปี พักใบขับขี่ 6 เดือน
15.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ สำนักงานตำรวจแห่งขาติ โพสต์ ข้อความระบุ กรณีนักแสดงสาว ดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหา ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ปรับเป็นพินัยชั้นพนักงานสอบสวน 1,000 บาท ข้อหา ขับรถในขณะเมาสุรา จำเลย รับสารภาพ ศาลแขวงพระนครเหนือ พิพากษา จำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี รายงานตัว 3 ครั้ง บริการสังคม 12 ชม. พักใบขับขี่ 6 เดือน
สำหรับ เพื่อนชาย ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ในข้อหา ดูหมิ่นซึ่งหน้า ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ จำเลย รับสารภาพ ศาลแขวงพระนครเหนือ พิพากษา จำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี
>> รวบแก๊งวัยรุ่นสร้างตัว เปิดเว็บพนันออนไลน์เงินหมุนกว่า 100 ล้านบาทต่อปี
15.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจ สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวรวบแก๊งวัยรุ่นสร้างตัว รวม 8 ราย เปิดเว็บพนันออนไลน์เงินหมุนกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ยึดทรัพย์ทันทีกว่า 1.5 ล้าน
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 ได้จับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่าย “มีรวย 99” ไปแล้ว 5 ราย จนนำมาสู่การสืบสวนขยายผลเว็บไซต์อื่นในเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอีก 2 เว็บไซต์ ซึ่งเปิดให้บริการมาไม่นาน แต่มีผู้เล่นรวมกันกว่า 60,000 ราย มียอดเงินหมุนเวียนรวมกว่า 14 ล้านบาทต่อเดือน หรือกว่า 100 ล้านบาทต่อปี
เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานขอหมายค้นและเข้าตรวจค้นจุดเป้าหมาย 2 จุด ได้แก่ คอนโดย่านปทุมธานี และหมู่บ้านย่านดอนเมือง และจับผู้ต้องหารายสำคัญเพิ่มเติมอีก 3 ราย ที่เป็นระดับหัวหน้ากลุ่ม คนควบคุมคอมพิวเตอร์ ดูแลการโอนเงิน พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์, สมุดบัญชีธนาคาร, โทรศัพท์มือถือ, ทองคำแท่ง, เงินสดกว่า 6 แสนบาท, ตุ๊กตาแบรนด์ดัง, สินค้าแบรนด์เนม, เครื่องนับธนบัตร และอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น ให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” เจ้าตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> ขบวนรถไฟเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณทางลักผ่าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จ.สุราษฎร์ธานี
18.00 น. รับแจ้งเหตุรขบวนรถไฟเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 694/6 ระหว่างสถานีบ้านพรุกระแชง – บ้านส้อง จ.สุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นทางลักผ่าน ระหว่างสถานีบ้านพรุกระแชง – บ้านส้อง ขบวนรถเร็ว ที่ 168 (กันตัง - กรุงเทพอภิวัฒน์) เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ผู้ขับขี่เป็นเพศชาย อายุประมาณ 15 ปี ไม่มีเอกสารใดๆ ติดตัว ได้รับบาดเจ็บขาหักผิดรูป อาสาสมัครมูลนิธิสงเคราะห์บ้านส้อง นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลยุพราชเวียง ขบวนรถไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
>> แก๊สหุงต้มรั่วไหลแล้วเพลิงลุกไหม้ ในร้านอาหารย่านถนนเยาวราช มีผู้บาดเจ็บถูกไฟลวกที่แขน
20.03 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุแก๊สหุงต้มรั่วไหล สถานที่เกิดเหตุ ถนนเยาวราช แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้นครึ่ง ประกอบกิจการร้านอาหาร ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 2 ส่วนที่ต่อเติม เพลิงลุกไหม้เสียหายเตาแก๊ส ลุกลามหลังคา และฝาผนัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 12 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากแก๊สหุงต้ม ขนาด 15 กิโลกรัม รั่วไหล ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย เพศชาย มีอาการถูกไฟลวกที่แขนข้างขวา เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ ไม่ต้องการไปโรงพยาบาล พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสวนมะลิ
>> แผ่นดินไหว ขนาด 4.1 ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา
04.33 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.1 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา (22.26°N,96.30°E) ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 366 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย