ทนายรณณรงค์ เตรียมพาคนบริจาคแจ้งความ วัดพระบาทน้ำพุ กองปราบฯ เผยเอกสารเงินได้ครบ ย้อนหลังถึงปี 62
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เตรียมพาผู้เสียหายบริจาคเงิน เข้าแจ้งความ วัดพระบาทน้ำพุ 4 โมงตรงวันนี้
กรณีที่ พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ปัจจุบันมีรายงานจากเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ออกคำสั่ง ลงวันที่ 19 สิงหาคม เรื่องให้พระสังฆาธิการ ลาออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย โดยไม่ต้องรอ 30 วัน
ล่าสุด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีวัดพระบาทน้ำพุต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวแจ้งผ่านบัญชีโซเชียลระบุว่า วันนี้ (19 ส.ค.) เตรียมพาผู้เสียหายซึ่งบริจาคเงินให้กับวัดเข้าร้องทุกข์พร้อมกับแจ้งความเอาผิด ในเวลา 16.00 น.ด้วย
“4 โมงเย็น ทนายรณณรงค์ พากลุ่มผู้บริจาคเงินให้วัดพระบาทน้ำพุเข้าแจ้งความ สภ.สวนพริกไทย ปทุมธานี“
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รองผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( รอง ผบก.ปปป.) ระบุเมื่อ 15 ส.ค.ว่า ทางหน่วยงานพร้อมรับเรื่องให้ตรวจสอบการทุจริตในวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ทั้งเรื่องที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและมูลนิธิที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดูว่ามีการทุจริตหรือไม่ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประสานข้อมูลจากกองบังคับการปราบปราม
อย่างไรก็ดีการตั้งมูลนิธิขึ้นมาในวัดเป็นช่องโหว่อย่างหนึ่งซึ่งการใช้เงินจากบัญชีของมูลนิธินั้นง่ายกว่าการใช้เงินวัดที่ต้องตั้งเรื่องเบิกเหมือนระบบราชการ แต่ถ้าตรวจสอบแล้ว พบมีการโอนเงินวัดไปยังมูลนิธิและนำเงินนั้นออกไปก็ถือว่า “มีความผิดเช่นกัน” ด้วยเหตุนี้อยากให้หน่วยงานที่ดูแลมูลนิธิไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย หรือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ควรจะต้องเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ให้มากขึ้น
อัปเดตล่าสุดวันนี้ (19 ส.ค.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุว่า
ขณะนี้ชุดสืบสวนได้รับข้อมูลทางการเงิน และรายการเดินบัญชีเงินบริจาคจากสถาบันการเงินครบถ้วนแล้ว โดยย้อนหลังไปถึงปี 2562 เป็นเอกสารจำนวนมาก รวมถึงยังต้องตรวจสอบพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว กระทบความรู้สึกของผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน
ส่วนการขอข้อมูลจากบุคคลภายในวัดพระบาทน้ำพุ พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่า ทางวัดให้ความร่วมมือค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะรายละเอียดทางบัญชีที่ยังไม่ได้ส่งมอบให้ตามที่เคยรับปาก แต่ยืนยันว่าตำรวจมีช่องทางอื่นในการตรวจสอบได้อยู่แล้ว
ขณะนี้กองปราบฯ ยังมุ่งเน้นไปในส่วนของการทำคดีในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินบริจาคของนายเสกสันน์ หรือหมอบี ว่าเข้าข่ายยักยอกเงินวัดพระบาทน้ำพุหรือไม่ ซึ่งในตอนแรกมองว่าวัดเป็นผู้เสียหาย แต่จากการตรวจสอบภายหลัง พบว่าข้อมูลบางส่วนอาจเชื่อมโยงไปในทิศทางอื่น แต่ขอสงวนรายละเอียดไว้ก่อน.
ที่มา : ThaiPBS
อ่านข่าวเพิ่มเติม