โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘ออสเตรเลีย’ แบน ‘ขวดพลาสติกรูปปลา’ ขนาดเล็กเกินไป รีไซเคิลไม่ได้

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ขวดโชยุพลาสติกรูปปลามีขนาดเล็ก น่ารัก และเป็นที่ชื่นชอบของนักกินซูชิทั้งหลาย กลายเป็นของผิดกฎหมายใน “ออสเตรเลีย” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสร้างขยะจำนวนมากและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าภาชนะใส่เครื่องปรุงรสอื่น ๆ

ภาชนะอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้กลายเป็นสินค้าหลักในร้านอาหารเอเชียและร้านอาหารแบบซื้อกลับบ้านหลายแห่งทั่วโลก แต่ร้านค้าแต่ธุรกิจต่าง ๆ ในรัฐเซาท์ออสเตรเลียจะถูกสั่งห้ามจำใช้หรือจัดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2025 เป็นต้นไป

“ภาชนะรูปปลาแต่ละใบจะถูกใช้งานเพียงไม่กี่วินาที แต่หากทิ้งขยะจะยังคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นเวลาหลายทศวรรษหรือหลายศตวรรษ” ซูซาน โคลส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและรองนายกรัฐมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลียกล่าว

มาตรการนี้ต่อยอดมาจากกฎหมายที่ผ่านเมื่อปี 2023 ที่ห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ช้อนส้อมพลาสติก หลอดพลาสติก บรรจุภัณฑ์สำหรับซื้อกลับบ้านหลายรูปแบบ รวมถึงแก้วกาแฟแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่คนกาแฟ แท่งลูกโป่งพลาสติก ลูกปา และคอตตอนบัด โดยรัฐบาลเซาท์ออสเตรเลียระบุว่าได้ดำเนินนโยบายเพื่อ “ลดมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และปกป้องสิ่งมีชีวิตในทะเล”

แม้ว่าภาชนะใส่ซอสถั่วเหลืองจะทำจากพลาสติกโพลีเอทิลีนที่สามารถรีไซเคิลได้ แต่ด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้ยากต่อการผ่านกระบวนการด้วยเครื่องจักรอย่างถูกต้อง ทำให้ส่วนใหญ่มักจะไม่ถูกรีไซเคิล และมักจะลงเอยด้วยการฝังกลบหรือปะปนอยู่ในสิ่งแวดล้อม หากหลุดลอดลงสู่ทะเลสิ่งมีชีวิตในทะเลอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาหารได้

เดิมทีขวดใส่โชยุสำหรับซื้อกลับบ้านทำจากเซรามิกหรือแก้ว ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นพลาสติก และยิ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเมื่อ เทรุโอะ วาตานาเบะ คิดค้นขวดบรรจุโซยุรูปปลาในปี 1954

ร้านอาหารต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้ขวดขนาดใหญ่ขึ้น ภาชนะใส่เครื่องปรุงที่เติมได้ หรือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นทางเลือกแบบใช้ครั้งเดียวที่เป็นอันตรายน้อยกว่า เช่น ซอง ซองบีบ หรือภาชนะที่ย่อยสลายได้ คำสั่งห้ามนี้ครอบคลุมถึงภาชนะรูปปลาหรือทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีฝาปิด จุก หรือจุกปิด และบรรจุได้ในปริมาณที่น้อยกว่า 30 มล.

หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของรัฐเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายนี้ ซึ่งอาจมีบทลงโทษตั้งแต่การตักเตือนไปจนถึงการดำเนินคดีส่วนสิ่งของอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในลิสต์ของต้องห้าม ได้แก่ ช้อนส้อมหรือหลอดที่ติดกับอาหาร เช่น หลอดที่ห่อด้วยพลาสติกซึ่งมักจะติดกับเครื่องดื่มแบบกล่อง

สำหรับสิ่งต่อไปที่จะถูกแบนก็คือ สติกเกอร์ที่มักติดบนผลิตผลสด เช่น แอปเปิล เพื่อระบุแบรนด์หรือแหล่งที่มาของสินค้า หลังจากที่รัฐได้เลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ออกไป จากเดิมที่จะต้องบังคับใช้ในปีนี้ เนื่องจากผู้ผลิตระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น และทำให้การเคลื่อนย้ายผักและผลไม้ระหว่างรัฐในออสเตรเลียลำบากขึ้น

เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียกล่าวว่า หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ปริมาณพลาสติกที่ไหลลงสู่มหาสมุทรจะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าภายในปี 2040 เป็น 29 ล้านตันต่อปี

ทั่วโลกใช้พลาสติกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในศตวรรษนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งของแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่ใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย ในแต่ละวัน มีขยะพลาสติกเทียบเท่ากับรถบรรทุกขยะ 2,000 คัน ถูกทิ้งลงในมหาสมุทร แม่น้ำ และทะเลสาบทั่วโลก ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ ตามข้อมูลของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ

มีการนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่น้อยมาก รายงานของสหประชาชาติระบุว่า ขวด ภาชนะ และบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งประมาณ 85% ถูกนำไปฝังกลบหรือถูกจัดการอย่างไม่เหมาะสม

การเจรจาเพื่อจัดทำสนธิสัญญามลพิษพลาสติกระดับโลกที่มีผลผูกพันล้มเหลวในเดือนสิงหาคมโดยไม่มีฉันทามติ พลาสติกผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันคัดค้านการเคลื่อนไหวใด ๆ ที่จะรวมถึงการจำกัดการผลิตพลาสติกตามข้อตกลงนี้

ที่มา: AP News, BBC, The Guardian

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...