โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘อ.ปริญญา’ วิเคราะห์ 5 ข้อ ถ้า ‘พรรคประชาชน’ ไม่เลือกใคร จะเกิดอะไรขึ้น เชื่อเรื่องไม่จบ

ไทยโพสต์

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา

3ก.ย.2568 - ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ [ ถ้าพรรคประชาชน #ไม่เลือกใคร จะเกิดอะไรขึ้น? ] มีเนื้อหาดังนี้

พรรคประชาชนนอกจากจะมีทางเลือกสองทางคือ เลือกยกมือให้ #คุณชัยเกษม พรรคเพื่อไทย หรือเลือกยกมือให้ #คุณอนุทิน พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนยังมีอีกทางเลือกอีกหนึ่งทางคือ #ไม่เลือกใครเลย

คำถามคือ ถ้าพรรคประชาชนเลือกทางนี้ คือไม่เลือกใครเลยจะเกิดอะไรขึ้น? ซึ่งผมขอกล่าวถึงในแง่มุมทางการเมืองกับกติกาตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ดังนี้ครับ

1. มาตรา 159 วรรคสามกำหนดว่า มติในการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องมี “คะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร” ขณะนี้มี ส.ส. 492 คน คะแนนเสียงในการที่คุณชัยเกษม หรือคุณอนุทิน จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงต้องได้คะแนนเสียง 247 คนขึ้นไป ดังนั้น ถ้า ส.ส. พรรคประชาชนเลือกใครเลยก็ไม่มีใครได้เป็นนายกรัฐมนตรี

2. ปัญหาคือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ไม่ได้เขียนไว้ว่า #ถ้าไม่มีใครได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะต้องทำอย่างไร? ซึ่งแตกต่างไปรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 (มาตรา 203) และรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 (มาตรา 173) ซึ่งกำหนดไว้เหมือนกันว่า “ในกรณีที่พ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มาประชุมเป็นครั้งแรก” ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง ก็ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง “บุคคลซึ่งได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเป็นนายกรัฐมนตรี”

ซึ่งอธิบายง่ายๆ คือในการเลือกนายกครั้งแรกหลังเลือกตั้งถ้าไม่มีใครได้คะแนนเสียงเกินครึ่ง แล้วเวลาผ่านไป 30 วันนับแต่ประชุมสภาครั้งแรกก็ยังไม่มีใครได้คะแนนเกินครึ่ง ประธานสภาก็จะทูลเกล้าชื่อคนที่ได้คะแนนมากที่สุด ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ พ.ศ. 2550 ไม่ได้เขียนไว้ว่าในการเลือกนายกครั้งต่อมา (เพราะนายกคนแรกมีเหตุต้องพ้นตำแหน่ง) จะต้องทำอย่างไร? ก็แปลว่าการเลือกนายกครั้งต่อมาก็ต้องใช้หลักเดียวกันคือ ถ้าไม่มีใครได้คะแนนเกินครึ่ง ประธานสภาก็จะทูลเกล้าคนที่ได้คะแนนมากที่สุดครับ

3. แต่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้ตัดมาตรานี้ทิ้งไป ผลก็คือ ถ้าไม่มีใครได้คะแนนเกินครึ่ง #ก็ต้องเลือกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีผู้ได้คะแนนเกินครึ่งครับ ความจริงแล้วเมื่อถึงจุดนี้ทางออกก็คือ #ยุบสภา เพราะเมื่อสภาผู้แทนเลือกใครเป็นนายกไม่ได้ ก็ควรต้องคืนอำนาจให้ประชาชนให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนตัดสินว่าจะให้ใครเป็นนายกคนต่อไป

4. แต่เนื่องจากอำนาจในการทูลเกล้ายุบสภา เป็นอำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรี (ดังที่เขียนในโพสต์ที่แล้วครับ) แม้จะมีเหตุที่ควรยุบสภา แต่ถ้ารักษาการนายกไม่ทูลเกล้ายุบสภา ก็ไม่มีการยุบสภาครับ ซึ่งเราต้องเข้าใจว่าที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะยุบสภาถ้าพรรคประชาชนยกมือให้คุณอนุทินเป็นนายก เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการเป็นฝ่ายค้านแล้วพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล ถ้าเป็นอย่างนั้นยอมเสี่ยงให้เลือกตั้งใหม่เลยดีกว่า อย่างน้อยเป็นรัฐบาลรักษาการช่วงเลือกตั้งยังมีความได้เปรียบครับ

แต่ถ้าสถานการณ์คือพรรคประชาชนไม่เลือกใครเลย พรรคเพื่อไทยก็จะยังเป็นรัฐบาลรักษาการไปเรื่อยๆ ดังนั้น การที่พรรคประชาชนไม่เลือกใครจึงไม่ได้นำไปสู่การยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ (แม้จะมีเหตุที่ควรต้องยุบสภาแล้ว) ดังที่พรรคประชาชนอยากจะให้เกิดครับ

5. ถ้าต้องเลือกนายกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีคนที่ได้คะแนนเกินครึ่ง พรรคเพื่อไทยจะมีทางเลือกคือ #หนึ่ง กลับไปตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็ต้องยอมให้คุณอนุทินเป็นนายก ซึ่งคุณทักษิณจะยอมเลือกทางนี้หรือไม่ หรือ #สอง หาว่าที่นายกคนใหม่ที่จะชนะคุณอนุทิน หรือคุณอนุทินยอม ซึ่งทางที่สองนี้แหละครับที่ลือกันว่าจะเป็นพลเอกประยุทธ์ หรืออาจจะมีใครเสนอให้ทำอะไรที่ไกลไปกว่านั้นซึ่งอาจจะยุ่งไปกันใหญ่

#สรุปว่า ถ้าพรรคประชาชนไม่เลือกใครระหว่างคุณชัยเกษม กับคุณอนุทิน เรื่องก็ไม่จบ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เขียนทางออกไว้ ก็จะต้องมีการเลือกนายกคนใหม่กันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผู้ที่ได้คะแนนเกินครึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การยุบสภาภายใน 4 เดือนก็คงจะไม่เกิด การลงประชามติในวันเลือกตั้งให้มี สสร. มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็จะไม่มี

ดังนั้น จากที่วิเคราะห์ไปทั้งหมดนี้ ผมจึงเชื่อว่าพรรคประชาชนจะไม่เลือกทางไม่เลือกใคร แต่คงจะต้องเลือกใครสักคนระหว่างคุณชัยเกษมและคุณอนุทิน ส่วนจะเลือกใครต้องติดตามรอฟัง พรุ่งนี้ก็คงจะทราบแล้วครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...