"จตุพร" ชี้เกมการเมืองพลิก "วันนอร์" นัด สส. โหวตนายกฯ 5 ก.ย. หลังข่าวลือยุบสภาถูกหักเกมกลางทาง
ฝุ่นตลบแย่งยื้ออำนาจ สุดท้ายเกมพลิก ลือสะพัด“ยุบสภา” ถูกตีกลับทำเนียบ ส่วน “อ้วน-ภูมิธรรม” หน้าจ๋อย ไม่ชี้แจงความจริง แหวกสื่อขึ้นรถกลับบ้าน แล้วตกกลางคืน “วันนอร์” ปิดเกม ร่อนหนังสือนัดประชุม สส. 5 ก.ย. โหวตเลือกนายกฯ
เมื่อ 3 ก.ย. 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ถึงสถานการณ์ชิงไหวชิงพริบยื้อแย่งเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีอนาคตเกมยุบสภากับสภาเลือกนายกฯ เป็นเครื่องมือตัดสิน
อย่างไรก็ตาม มีข่าวสะพัดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 ก.ย.ว่า พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภา ถูกตีกลับทำเนียบรัฐบาล แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ไม่ชี้แจงกับสื่อมวลชน โดยเอาแต่ยิ้มเดินแหวกวงล้อมขอสัมภาษณ์ และขึ้นรถจากไป
สถานการณ์เริ่มชัดเจนขึ้นในคืน 3 ก.ย. เมื่อนายวันอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุระเบียบวาระและมีหนังสือนัด สส.ประชุมเลือกนายก ใหม่ 5 ก.ย. นี้ ดังนั้น พรรคเพื่อไทย โดยนายภูมิธรรม ไม่อาจดึงเกมยื้อเวลาเป็นรัฐบาลรักษาการช่วงเลือกตั้งได้ เพราะไม่อาจขวางการเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ
นายจตุพร กล่าวว่า แม้นายภูมิธรรม ไม่มีความเห็นกรณี พ.ร.ฎ.ยุบสภาถูกทำเนียบองคมนตรีตีกลับมามีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ดูจากภาษากายและไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ย่อมเชื่อได้ว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถูกตีกลับมาจริง
"ด้วยประสบการณ์ของผม เชื่อว่า การยุบสภาครั้งนี้อาจไม่สำเร็จ และต้องจับตาดูอาการดิ้นของรักษาการนายกฯ (นายภูมิธรรม) จะพลิกเกมยื้อเวลาอย่างไรอีกในช่วงการเมืองชุลมุน รวมทั้ง สส.เพื่อไทยยื่นมติศาล รธน.ถอดถอนอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แต่ที่สุดแล้วสะท้อนว่าเวลาของเธอหมดแล้ว"
พร้อมทั้งกล่าวว่า ตลอด 2 ก.ย. ข่าวนายภูมิธรรม ยื่นยุบสภาหรือยังไม่ยื่นนั้น แต่สุดท้ายนายภูมิธรรม ยอมรับเมื่อ 3 ก.ย.ว่า ยื่นแล้ว ในกรณีนี้ความสับสนที่เกิดขึ้นมาจากใครต้มใครก่อน จนทำให้พรรคประชาชน (ปชน.) แถลงเมื่อเวลาเช้าของวันที่ 3 ก.ย.มอบเสียงของพรรคโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกฯ
"พรรคประชาชนท้าให้เพื่อไทยยุบสภาตั้งแต่ 2 ก.ย.แล้ว แต่ไม่ทำ เมื่อ (3 ก.ย.) พรรคประชาชนแถลงมติพรรคหนุนพรรคภูมิใจไทย แล้วจะไปว่าอะไรเขาได้ เพราะคุณลงมือก่อนเขา แล้วยังพูดไม่ตรงข้อเท็จจริงระหว่างเมื่อวานนี้กับวันนี้"
อีกทั้งกล่าวว่า ที่สำคัญ ปชน.ไม่ได้ขวางการยุบสภา อย่างไรก็ตาม เมื่อการยุบสภายังไม่มีผลก็ต้องโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกฯ ตามที่แถลงคำมั่น พร้อมดำหนดเงื่อนไข 5 ข้อต่อสังคม แต่ที่สำคัญเมื่อมีข่าวองคมนตรีตีกลับการยุบสภา แต่เพื่อไทยปิดปากเงียบกันทั้งพรรค ไม่กล้ายืนยันว่า จริงหรือไม่
ส่วนมีข่าวลือมีดีล 44 สส.กับภูมิใจไทยนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นหนึ่งในสาระพัดวิชามาร แต่ความจริงคือ กรณี 44 สส.ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ปปช. ซึ่งจะนำมาดีลกับรัฐบาลได้จริงๆ ได้ด้วยหรือ? อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า เป็นการสร้างละครขึ้นมาไว้หาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่
"ในสถานการณ์ขณะนี้มีเรื่องจริงกับเท็จผสมกัน และการอธิบายความเท็จได้ดีที่สุดต้องให้มีความจริงอยู่บ้าง เช่นกรณีนิยายอิงประวัติศาสตร์ผู้ชนะสิบทิศที่ยาขอบเขียนมีเรื่องจริงจากพงศาวดารเพียง 8 บรรทัดมาเขียนได้ไม่รู้กี่พันหน้า"
พร้อมทั้งกล่าวว่า ศิลปะการพูดของคนบางคนชอบย้ำเรื่องจริงๆ แล้วเอาความเท็จมาผสมกลมกลืนให้เป็นจริง สุดท้ายก็ยกเรื่องเท็จให้เป็นจริงเและยึดเป็นเป้าหมาย ซึ่งศาสตร์แบบนี้ในทางการเมืองมักถูกยกนำมาใช้กัน
นายจตุพร เชื่อว่า การเปลี่ยนนายกฯ จากเพื่อไทยมาเป็นนายกฯ จากภูมิใจไทย จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้น เพราะกัมพูชา ไม่มีคลิปของนายอนุทิน แน่นอน และยังไม่เคยปรากฎว่าจะมีธุรกิจใดในกัมพูชา ดังนั้นจึงไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งย่อมทำให้การพูดคุยกันง่ายดายและจะดีกว่าเดิม