โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

Others

Ex gratia payment ความร่วมมือของ สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ คปภ.

การเงินธนาคาร

อัพเดต 8 สิงหาคม 2568 เวลา 23.14 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บทความโดย ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร. ประมวล จันทร์ชีวะ

หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับที่ สสอ. 140/2568 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณพรมแดนติดต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้นั้น โดยยืนยันว่าเหตุการณ์ยังไม่เข้าข่ายคำว่า“สงคราม” แต่หากเข้าข้อยกเว้นอื่นใด บริษัทประกันภัยสามารถช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนโดยพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในลักษณะ “ค่าสินไหมทดแทนกรุณา” ได้

หลังการออกข่าวประชาสัมพันธ์ของ คปภ. สมาคมประกันวินาศภัยไทยได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ขานรับนโยบายของ คปภ. และแสดงจุดยืนที่จะร่วมกับบริษัทสมาชิกในภาคธุรกิจประกันวินาศภัยในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และบริษัทประกันภัยหลายรายกำลังเร่งดำเนินการออกมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกิจ เช่น การจ่าย “เงินช่วยเหลือในลักษณะมนุษยธรรม” แม้ว่าในบางกรณีอาจเข้าข่ายข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยก็ตาม

การประสานความร่วมมือไปในทิศทางเดียวกันของสมาคมประกันวินาศภัยไทยกับ คปภ. เพื่อประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจุดยืนของ คปภ. ที่ประนีประนอมผ่อนปรนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในลักษณะที่ “งอได้แต่ไม่หัก” ทำให้ผู้เขียนหวนระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นและมีผลต่อธุรกิจประกันภัยจากเหตุการณ์โรคระบาดไวรัสครั้งใหญ่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ที่มีข้อถกเถียงหลายประการภายใต้ความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองในลักษณะ “เจอ-จ่าย-จบ”

เช่น การที่บริษัทประกันภัยถึง 5 บริษัทไม่สามารถที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปได้นั้นส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายและการใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในลักษณะ “ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ” ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ผู้เอาประกันภัยของบริษัทประกันภัยที่ล่มสลายทั้ง 5 บริษัทซึ่งไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยแบบ “เจอ-จ่าย-จบ” นั้น คือผู้เคราะห์ร้ายจากการใช้นโยบายดังกล่าวใช่หรือไม่และกองทุนประกันวินาศภัยคือผู้รับเคราะห์คนสุดท้ายจากการที่จะต้องเข้ามาชดใช้แทนใช่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม หลายคำถามดังกล่าวข้างต้นที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ในอดีตอาจไม่มีความสำคัญและอาจไม่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาในเรื่องนี้เพราะผลจากการร่วมมือและประนีประนอมระหว่างธุรกิจประกันภัยภาคเอกชนกับ คปภ. แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่ควรศึกษาและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์ในทางวิชาการต่อไป

ประเด็นแรก Ex gratia payment ซึ่งเป็นคำที่มีสองส่วนจากสองภาษาคือ “Ex gratia” มาจากภาษาละตินซึ่งมีหลักฐานว่าคำนี้ได้เริ่มใช้กันมาตั้งแต่เมื่อประมาณกลางคริสตศตวรรษที่ 18 มีความหมายว่า เป็นเรื่องของการที่ให้เปล่า หรือด้วยความปรารถนาดี หรือความกรุณา หรือโดยไม่ต้องมีการตอบแทน ส่วน “payment” เป็นคำในภาษาอังกฤษมีความหมายที่ไม่ยุ่งยากคือ การจ่าย และเมื่อนำมาใช้ด้วยกันมีผู้ให้ความหมายไว้ในหลายแห่ง เช่น พจนานุกรมศัพท์ประกันภัย (พิมพ์ครั้งที่ 6) ฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำว่า Ex gratia payment คือการชดใช้สินไหมกรุณา หมายถึง เงินที่ผู้รับประกันภัยจ่ายให้แก่ผู้เรียกร้องค่าเสียหาย แม้จะมีความเห็นว่าไม่ต้องรับผิดชอบตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยก็ตาม

ในพจนานุกรมของต่างประเทศ The Marine Encyclopaedic Dictionary (Fourth Edition) ให้ความหมายไว้ว่า: Payment effected without the force of the law; As a sign of goodwill; As a favour., ใน Witherby’s Encyclopaedic Dictionary of Marine Insurance คำนี้ได้ถูกนิยามไว้ว่า: A payment made by an insurer in respect of a claim which is not legally recoverable under the policy and without admitting a legal liability. The insurer might agree to such payment as a sign of goodwill or to accommodate a valued assured. It is important to appreciate that, except where the reinsurance contract provides otherwise, a reinsurer is not obliged to reimburse the reassured for ex gratia payments made under the original policy.

ส่วน Black’s Law Dictionary ซึ่งเป็นพจนานุกรมศัพท์กฎหมายที่นิยมใช้แพร่หลายในหมู่นักกฎหมายให้ความหมายไว้ว่า: Payment made by one who recognizes no legal obligation to pay but who makes payment to avoid greater expense as in the case of a settlement by an insurance company to avoid costs of suit. A payment without legal consideration. จากความหมายที่มีผู้ให้ไว้ในหลายแหล่งที่สามารถอ้างอิงได้นี้ อาจสรุปได้ว่า คำว่า Ex gratia payment ก็คือการที่ผู้รับประกันภัยจ่ายเงินเพื่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยที่ไม่มีภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จะต้องชดใช้นั่นเอง

เราจึงอาจสรุปได้ว่า คำว่า Ex gratia payment นี้ โดยแท้จริงแล้วได้ให้อิทธิพลต่อคำว่า “การชดใช้สินไหมกรุณา” และเป็นที่มาของการใช้คำในธุรกิจประกันภัยอย่างย่อๆ ว่า “สินไหมกรุณา” และรวมถึงคำว่า “ค่าสินไหมทดแทนกรุณา” และ “เงินช่วยเหลือในลักษณะมนุษยธรรม” อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่มีการนำคำว่า “ค่าสินไหมทดแทน” มาใช้ร่วมกับคำว่า “กรุณา” เป็นคำเดียวกันว่า “ค่าสินไหมทดแทนกรุณา” มีข้อพึงระวังว่า คำว่า “ค่าสินไหมทดแทน” มีปรากฏอยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมวด 2 ประกันวินาศภัย หลายแห่งตั้งแต่มาตรา 869 ถึงมาตรา 886 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรา 877 ของกฎหมายฉบับนี้บัญญัติไว้ว่า “ผู้รับประกันภัยจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ (1) เพื่อจำนวนวินาศภัยอันแท้จริง……” ซึ่งมีความหมายที่เข้าใจได้ว่า ผู้รับประกันภัยมีหน้าที่จะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนใดๆ สำหรับความเสียหายที่พึงประเมินเป็นเงินอันถูกต้องแท้จริง

ดังนั้น การที่ภาคธุรกิจเอกชนใช้คำว่า “สินไหมกรุณา” และ พจนานุกรมฯ ของราชบัณฑิตยสถานใช้คำว่า “การชดใช้สินไหมกรุณา” ในความหมายของ Ex gratia payment โดยที่ไม่ได้นำคำว่า “ค่าสินไหมทดแทน” มาใช้ประกอบด้วย และการที่ข่าวประชาสัมพันธ์ของสมาคมประกันวินาศภัยไทยใช้คำว่า “เงินช่วยเหลือในลักษณะมนุษยธรรม” จึงดูมีเหตุผลและความเหมาะสมมากกว่าที่จะใช้คำว่า “ค่าสินไหมทดแทนกรุณา”

ประการที่สอง ปัญหาความคับแคบของถ้อยคำในมาตรา 31 (11) พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ที่บัญญัติห้ามไม่ให้บริษัทประกันภัย“ให้ประโยชน์เป็นพิเศษแก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย” ข้อห้ามตามมาตรานี้ ไม่ได้บัญญัติข้อยกเว้นที่เหมาะสมที่เปิดทางให้ผู้รับประกันภัยให้ประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ที่เป็นพิเศษเกินเลยหรือนอกเหนือจากที่ตนมีหน้าที่ตามกฎหมายและตามสัญญาประกันภัย หรือให้อำนาจนายทะเบียนประกันภัย หรือ คปภ. ที่จะใช้ดุลพินิจกำหนดให้มีการให้ประโยชน์เป็นพิเศษที่ว่านั้นในกรณีที่มีสถานการณ์ที่เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อประชาชนที่เป็นผู้เอาประกันภัยหรือเหตุการณ์ใดที่สมควรที่จะมีการช่วยเหลือเยียวยากันได้จากฝ่ายผู้รับประกันภัยโดยที่อาจไม่ต้องนำข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยมาพิจารณาประกอบและการช่วยเหลือเยียวยาเช่นนั้นไม่กระทบต่อความมั่นคงทางฐานะการเงินและเงินกองทุนของบริษัทประกันภัย

พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ฉบับนี้เป็นกฎหมายหลักในการควบคุมและกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยซึ่งมีการแก้ไขมาแล้วถึงสามครั้ง โดยพระราชบัญญัติฉบับที่ 2 พ.ศ. 2551 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2558 และฉบับที่ 4 พ.ศ. 2562 แต่มาตรา 31 (11) ไม่ได้ถูกแก้ไขแต่อย่างใด และแม้ว่าอาจไม่มีผู้เอาประกันภัยใดที่ได้รับประโยชน์จากการกระทำของผู้รับประกันภัยที่ฝ่าฝืนมาตรา 31 (11) จะร้องเรียนต่อ คปภ. ให้ลงโทษผู้รับประกันภัยที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยฝ่าฝืนมาตรานี้ให้แก่ตนทั้งๆ ที่ตนเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการกระทำนั้น

แต่ก็มีคำถามเกิดขึ้นว่า ถึงเวลาที่ควรจะต้องปรับปรุงแก้ไขประเด็นตามมาตรา 31 (11) เพื่อให้เกิดการสร้างเครื่องมือทางกฎหมายและแนวทางที่มีความชัดเจนพร้อมที่จะดำเนินการและประสานงานร่วมกันระหว่าง คปภ. กับภาคธุรกิจประกันภัยที่จะร่วมมือหาทางกันช่วยเหลือเยียวยาผู้เอาประกันภัยในกรณีของ Ex gratia payment ได้อย่างทันท่วงทีโดยมีกฎหมายรองรับหรือยัง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ แวดวงประกันภัย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

ไฮไลท์โปรโมชั่นจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในงาน MONEY EXPO 2025 KORAT

26 นาทีที่แล้ว

ไฮไลท์โปรโมชั่นจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในงาน MONEY EXPO 2025 KORAT

26 นาทีที่แล้ว

ไฮไลท์โปรโมชั่นจากบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ในงาน MONEY EXPO 2025 KORAT

27 นาทีที่แล้ว

ธนาคารกรุงเทพ ร่วม งานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19 เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

39 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความOthersอื่น ๆ

ริโก้ฯ ดึงพลังเยาวชน ขับเคลื่อน Circular Economy ผ่าน Ricoh R-cademy ปีที่ 16 เปลี่ยนขยะเป็นอนาคตตลับหมึกริโก้กลายเป็นบล็อกปูพื้นและม้านั่ง

Marketing Oops

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ฉลองครบรอบ 39 ปี จัดกิจกรรม “Lalin Share Together” ร่วมกับสภากาชาดไทย เปิดรับบริจาคโลหิตและจำหน่ายเสื้อการกุศล สร้างสังคมแห่งการแบ่งปันอย่างยั่งยืน

Marketing Oops

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง Senior Ecosystem ตอบโจทย์กลุ่ม Silver Age กลุ่มสูงวัยยุคใหม่

ข่าวช่องวัน 31

‘สวัสดีวันแม่แห่งสยาม’ สยามสแควร์ชวนลูกจูงมือคุณแม่ร่วมกิจกรรมสุดพิเศษ

Khaosod

ส.ขอนแก่น x โจนส์สลัด เขย่าตลาดเพื่อคนรักสุขภาพ เปิดตัวเมนู “ส.สลัดลุงโจนส์” อร่อยสไตล์ไทย ดีต่อสุขภาพ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จับมือสร้างประสบการณ์ใหม่ของการกินสลัดแบบแซ่บ ๆ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพและรสชาติไทยแท้

Marketing Oops

ยูนิโคล่ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร เปิดตัว UNIQLO Clothing Corner แห่งแรก ณ BKK Food Bank สำนักงานเขตสวนหลวง พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ด้วยเสื้อผ้าคุณภาพดีจาก RE.UNIQLO

Marketing Oops

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...