มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ "ฮุนเซน" เป็นปฏิปักษ์ต่อไทย
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2568 ได้มีการประชุม สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เรื่องการเสนอเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ของสมเด็จ ฮุนเซน หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง อนุมัติปริญญา สาขาวิชารัฐศาสตร์ ให้เมื่อปี 2554 ตอนนั้น มีการประกาศเกียรติคุณไว้ว่า สมเด็จ ฮุน เซน ได้เสริมสร้างและส่งเสริมความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพ และ ความร่วมมืออย่างดี ความสัมพันธ์โดยเฉพาะระหว่างกัมพูชากับไทย เป็นไปอย่างมีมิตรภาพและ ภราดรภาพ ฯลฯ
ทั้งนี้ หลังผลการประชุม ทางมหาวิทยาลัย ได้ออกแถลงการณ์ หลังลงมติด้วยคะแนนเสียง เป็นเอกฉันท์ ให้เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ของสมเด็จ ฮุนเซน ให้มีผลทันที
โดยให้เหตุผลว่า สมเด็จ ฮุน เซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา / สมาชิกรัฐสภากัมพูชา / เสนาธิการทหารกองทัพกัมพูชา และ พลเอกอาวุโส ด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพกัมพูชา ได้แสดงพฤติกรรมตรงกันข้ามกับคำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว มีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐไทยอย่างชัดแจ้ง สนับสนุนส่งเสริมให้มีการใช้กำลังอาวุธอย่างรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมต่อประชาชนชาวไทย ส่งเสริมให้มีการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยของไทย นำไปสู่การปะทะตามชายแดนทั้งสองประเทศ
"ฮุน เซน" ตอบโต้มหาวิทยาลัยรามคำแหง ลั่นไม่จำเป็นต้องเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพราะเอาทิ้งลงส้วมไปตั้งแต่ปี 51
จากนั้น สมเด็จ ฮุน เซน ก็โพสต์เฟซบุ๊ก หยามกลับมหาวิทยาลัยรามคำแหงทันที ระบุว่า มันไร้สาระสิ้นดี วันนี้ผมได้ยินว่า มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ ได้ลงมติเพิกถอนปริญญาบัตรกิตติมศักดิ์ที่มอบให้ผม
คุณไม่จำเป็นต้องมาเพิกถอนหรอก เพราะผมทิ้งมันลงส้วมไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2008 (หรือปี 2551) ตอนที่ประเทศไทย ส่งกองทัพเข้ารุกรานปราสาทพระวิหารของชาวกัมพูชา และ บอกอีกว่า ปริญญาของคุณไม่มีค่าอะไรให้ผมเก็บไว้เลย ผมไม่รู้สึกภาคภูมิใจแม้แต่น้อย กับกระดาษแผ่นหนึ่งที่เรียกว่าปริญญาบัตรของพวกคุณ
และ ทิ้งท้ายว่า สติปัญญาของ ฮุน เซน ไม่ได้เกิดจากสถาบันของคุณ สติปัญญาของฮุนเซน มาจากคำสอนของชาวกัมพูชา และ โรงเรียนต่างๆ ในกัมพูชา ก่อนจะพิมพ์ในคำเมนต์ กับคำที่ชอบใช้จนเป็นไวรัลด้วยว่า Don’t Thai to me! หรือ อย่ามาไทยใส่ผม! ทำให้ชาวเน็ตไทย พาทัวร์ไปคอมเมนต์กันจำนวนมาก