ผ่าอาณาจักร Call center- Scammer ศูนย์กลาง “เขมร-เมียนมา”

“อี แจมยอง” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกมาระบุว่า ดำเนินการทุกวิถีทางการทูต เพื่อปกป้องชาวเกาหลีใต้ จากอาชญากรรมในกัมพูชา หลังพบ นักศึกษาเกาหลี วัย 22 ปี ถูกหลอกไปทำงานในกัมพูชาและมีการกระทำทรมาน บังคับเสพยา ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ความมืดดำของกลุ่มอาชญากรรม แก๊งคอลเซนเตอร์ ยังคงมีการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง

ขณะที่ฝั่งเมียนมา "อาณาจักรแก๊งคอลเซนเตอร์" กำลังมีการแผ่ขยายไปในหลายเมืองๆ ข้อมูลล่าสุดจาก AFP เปิดเผยว่า พบ “อาณาจักรแก๊งคอลเซนเตอร์” ในเมียนมาตามเมืองต่าง ๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้รัฐบาลไทยจะประกาศปราบปรามอย่างรุนแรงตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2568

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอาณาจักรแก๊งคอลเซนเตอร์ พบว่า มีการใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ซึ่งก่อตั้งโดยอีลอน มัสก์ เชื่อมโยงระบบเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ

นอกจากนี้ ภาพถ่ายดาวเทียมและโดรนของ AFP ยังแสดงให้เห็นโครงการก่อสร้างพื้นที่แห่งใหม่ ที่มีการคุมเข้มรอบเมืองเมียวดี ชายแดนไทย–เมียนมา หลังเมืเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา คอลเซนเตอร์หลายแห่งกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง โดยติดตั้งจานดาวเทียมสตาร์ลิงก์ หลายสิบจาน บนหลังคาอาคารขนาดใหญ่ ในเขตพื้นที่ “เคเคพาร์ก” หนึ่งในคอมเพล็กซ์ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเมียวดี

ข้อมูลจากทะเบียนอินเทอร์เน็ตระดับภูมิภาคเอเชีย (APNIC) ชี้ว่า "สตาร์ลิงก์" เดิมไม่อยู่ในรายชื่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของเมียนมา แต่ปัจจุบันกลายเป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งตั้งแต่เดือน ก.ค.2568 แม้ที่ผ่านมา จีน ไทยและเมียนมาจะร่วมกันปราบปราม และสามารถช่วยเหลือเหยื่อกว่า 7,000 คน แต่พบว่ามีแรงงานกว่า 100,000 คนยังถูกบังคับทำงานอยู่ในศูนย์เหล่านี้ กระจายตามแนวชายแดนล้อมรั้วลวดหนาม และมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธคุ้มกัน

รายงานของสหประชาชาติระบุว่า ปี 2566 กลุ่มอาชญากรในภูมิภาคนี้หลอกลวงผู้เสียหายทั่วโลกไปกว่า 37,000 ล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน มีข้อมูลระบุว่า ในกัมพูชา มีศูนย์กลางแหล่งกาสิโน พนันออนไลน์ รวมถึงแก๊งคอลเซนเตอร์ แหล่งใหญ่อยู่ที่ สีหนุวิลล์ จ.พระสีหนุ จ.เกาะกง ส่วนที่ปอยเปต อยู่ที่ จ.บันทายมีชัย จ.อุดรมีชัย และในกรุงพนมเปญ

ส่วนเมียนมา มีศูนย์กลางธุรกิจสีเทาอยู่ที่ชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี ซึ่งจากการขยายเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้จุดนี้กลายเป็นแหล่งรวมธุรกิจสีเทาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

และเหตุผลหลักที่ทำให้แก๊งคอลเซนเตอร์เฟื่องฟูสุดขีด เนื่องจากปัญหาการสู้รบระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ จึงส่งผลกระทบต่อธุรกิจและรายได้ จึงทำให้ทั้งรัฐบาลทหารพม่าและบรรดากลุ่มชาติพันธุ์ต้องหารายได้หลัก จากเปิดพื้นที่ให้กลุ่มคนจีนเทา เข้ามาใช้ประโยชน์และทำธุรกิจสีเทา ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง

กาสิโน แก๊งคอลเซนเตอร์ การค้ามนุษย์ และค้ายาเสพติด เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการจัดซื้อเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ ทำให้ยากต่อการปราบปราม

เนื่องจากเมียนมาก็มีปัญหาภายในประเทศมาโดยตลอด และการที่รัฐบาลทหารจะเข้าไปแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียวดีจึงเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนทั้ง ชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี หรือท่าขี้เหล็ก ในเขตรัฐฉาน

ปัจจุบัน “ชเวโก๊กโก่” อยู่ในพื้นที่ เป็นที่ตั้งของอาณาจักรคอลเซนเตอร์ อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพ ไทย-พม่า แห่งที่ 1 ประมาณ 25 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 720 ตารางกิโลเมตร และมีความยาว 16 กม. จาก อ.แม่สอดถึง อ.แม่ระมาด จ.ตาก

ตามรายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอิทธิพลของ พ.อ.ซอ ชิตตู่ หรือ “หม่องชิตตู่” ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนพม่า (BGF) หรือกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) โดยผู้นำกองกำลัง KNA ได้ร่วมหุ้นกับบริษัท ยาไท่ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลด์ดิ้ง กรุ๊ป (Yatai International Holding Group: IHG) ที่มี เสอจื้อเจียง หรือ “เสอ เกรียง ขาย” ชาวจีน สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันชาวจีนซึ่งถูกจับในไทยเมื่อเดือน ส.ค.2565 เป็นเจ้าของ

ปัจจุบัน แส จิ้นเจียง หรือ เสอจื้อเจียง (SHE Zhikiang) ถูกขังอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่งใน กทม. เขาได้มอบหมายให้ทนายเข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 มาตรา 19 และมาตรา 21 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 4, 5, 25, 26, 27 และ 29 หรือไม่

โดยศาลได้รับคำร้องและจะมีคำพิพากษาในวันที่ 22 ต.ค.นี้ เนื่องจากผู้ต้องขังไม่ต้องการเดินทางกลับไปรับโทษในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนที่ประเทศต้นทาง

เขตเศรษฐกิจพิเศษชเวโก๊กโก่ ได้กลายเป็นฐานรายได้หลักของผู้นำกองกำลัง KNA และจนสามารถขายอาณาจักรออกไปในหลาย ๆ พื้นที่ของชายแดนรัฐกะเหรี่ยง โดยแหล่งธุรกิจสีเทาที่อยู่ในชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี คือ เคเค พาร์ค (KK Park) ซึ่งมีทั้งกาสิโน พนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซนเตอร์

โดยอาณาจักรดังกล่าว ตั้งอยู่ตรงข้าม ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก ของไทย และอยู่ในเขตอิทธิพลของ พ.ต.เต่งวิน รองผู้บังคับกองพันกองกำลัง KNA โดยมีบริษัทตงเหมยกรุ๊ป (Dongmei group) ของกลุ่มทุนชาวจีน คือ นายหวัน ค็อกคอย (Wan Kouk-koi) อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14K เป็นประธานบริษัท

และกล่มยูหลง เบย์ พาร์ค (Yulong Bay Park) และอะพอลโล พาร์ค (Apollo Park) ซึ่งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเมย ใกล้ชายแดนไทยด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ระหว่างตัวเมืองเมียวดีกับชเวโก๊กโก่ ทั้งสองแห่งเป็นแหล่งรวมของแก๊งคอลเซนเตอร์ที่โทร.ข้ามประเทศเพื่อหลอกเงินจากเหยื่อในประเทศต่าง ๆ

รวมทั้งตงเหมย พาร์ค (Dongmei Park) แหล่งใหญ่ของแก๊งคอลเซนเตอร์อีกแห่ง และเมืองใหม่เมียวดี (Myawaddy New City) แหล่งกาสิโน พนันและสแกมเมอร์ออนไลน์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย-พม่า ซึ่งแกนนำ KNA เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกับนายทุนชาวสิงคโปร์และชาวจีน

จากข้อมูลเมื่อปี 2566 พบว่า มีบริษัทสแกมเมอร์กว่า 30 แห่งตามแนวชายแดนไทย-พม่า ขณะเดียวกันมีข้อมูลจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2566 ถึงต้นปี 2568 พบว่ามีศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชาจำนวน 54 แห่ง และแหล่งต้องสงสัยอีก 40 กว่าแห่ง

อ่านข่าว

ส่อง “ยิม เลียก - กลุ่มทุนกัมพูชา” ไม้ใหญ่ในร่มเงาตระกูล “ฮุน”

ระเบิดเวลา “ตระกูลฮุน” ชะตากรรมคนเขมร กลับบ้าน “ไม่มีงานทำ”