บิทคอยน์ท้าชนแนวต้าน 123,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันมหภาค–นักลงทุนจ้องเป้า 130,000 ดอลลาร์
ราคาบิทคอยน์ (BTC) ขยับฟื้นเหนือ 119,000 ดอลลาร์ หลังย่อตัวหลุดแนวต้านสำคัญ ขณะที่ปัจจัยมหภาคจากฝั่งเฟดและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชี้ทางเทรนด์รอบใหม่ นักวิเคราะห์ชี้ หากรักษาแนวรับ 117,300 ดอลลาร์ได้ อาจปูทางสู่การทะลุเป้า 130,000 ดอลลาร์ ก่อนลุ้น 150,000 ดอลลาร์ในไตรมาสถัดไป ขณะที่โครงการ Bitcoin Hyper โดดเด่นด้วยการผสานพลัง Bitcoin กับความเร็ว Solana ยอดขายพุ่งแตะ 9.6 ล้านดอลลาร์แล้ว
ราคาบิทคอยน์ (BTC/USD) ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ 119,040 ดอลลาร์สหรัฐ ฟื้นตัวเล็กน้อยหลังจากหลุดแนวต้าน 123,236 ดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ บนกราฟ 4 ชั่วโมง ราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม
แนวรับ–แนวต้านกำหนดทิศ
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ระดับ 118,753 ดอลลาร์ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวรับแบบไดนามิก รับแรงขายระหว่างวันได้ต่อเนื่อง ขณะที่ระดับ Fibonacci Retracement 0.236 ที่ 117,335 ดอลลาร์ยังคงเป็นฐานเชิงโครงสร้างสำคัญจนถึงปัจจุบัน
ขณะที่ดัชนี RSI ดีดตัวจากโซน 40 สะท้อนแรงขายเริ่มชะลอ ขณะที่ฮิสโทแกรม MACD แบนราบ บ่งชี้โมเมนตัมขาลงกำลังสูญแรง หากราคาสามารถยืนเหนือ 117,300 ดอลลาร์ได้ ฝ่ายซื้อมีโอกาสผลักดันกลับไปทดสอบแนวต้าน 123,236 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 126,242 ดอลลาร์
อทธิพลมหภาคชี้ทางตลาด
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคยังเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางในระยะสั้น เครื่องมือ FedWatch ของ CME ระบุว่านักลงทุนประเมินโอกาสสูงถึง 92.6% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยสู่ 4.00–4.25% ในการประชุมวันที่ 17 กันยายน จากระดับปัจจุบัน 4.25–4.50% การเปลี่ยนคาดการณ์นี้เกิดขึ้นหลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาดที่ +0.9% เทียบกับคาดการณ์ 0.2% ขณะที่ผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คงที่ที่ 224,000 ราย
นอกจากนี้ตลาดกำลังจับตาข้อมูลยอดค้าปลีกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินจะดำเนินต่อไปหรือไม่ หากเฟดยังส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอาจกลับมาคึกคัก ดัน BTC ทะลุแนวต้านสำคัญ
ปรับแผนลงทุน เล็งเทคนิคชี้เป้าสู่ 130,000 ดอลลาร์
ด้านมุมมองเชิงโครงสร้างแนวโน้มยังเป็นขาขึ้น จุดต่ำสุดยกตัวสูงขึ้นและกรอบช่องสัญญาณยังไม่เปลี่ยน หากทะลุ 126,000 ดอลลาร์ได้ แรงซื้ออาจเร่งดันสู่เป้าหมาย 130,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นทั้งโซนอุปทานและแนวต้านทางจิตวิทยา หากผ่านได้ อัพไซด์ต่อไปอยู่ที่ 150,000 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่ไตรมาส
ขณะเดียวกันในทางกลับกัน การปิดต่ำกว่า 117,300 ดอลลาร์จะเปิดโอกาสให้ย่อลงทดสอบ 113,650 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน และเป็นระดับที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นจุดตัดขาดทุนสำคัญ
ปรับแผนกลยุทธ์การลงทุน-วิเคราะห์จุดเสี่ยง
ทั้งนี้สำหรับเทรดเดอร์ โซน 117,300–118,000 ดอลลาร์ถือเป็นจุดสะสมที่ให้สัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่น่าสนใจ นักลงทุนระยะยาวสามารถตั้งเป้าแรกที่ 123,200 ดอลลาร์ และเป้าสองที่ 126,200 ดอลลาร์ พร้อมจุดตัดขาดทุนต่ำกว่า 113,650 ดอลลาร์เล็กน้อยเพื่อป้องกันความเสี่ยง
โฟกัส "Bitcoin Hyper ($HYPER)" คริปโตหน้าใหม่มาแรง
ในอีกด้านหนึ่ง กระแสความสนใจมุ่งไปที่ Bitcoin Hyper ($HYPER) ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น Layer 2 แรกของ Bitcoin ที่ขับเคลื่อนด้วย Solana Virtual Machine (SVM) จุดเด่นคือการผสานความปลอดภัยของ Bitcoin เข้ากับความเร็วและต้นทุนต่ำของ Solana ทำให้สามารถรองรับสัญญาอัจฉริยะ โดยโครงการนี้ผ่านการตรวจสอบโดย Consult เน้นการปรับขนาด ความเรียบง่าย และความน่าเชื่อถือ ยอดขายล่วงหน้าพุ่งแตะ 9.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือโควตาจำกัด ปัจจุบันราคาโทเค็นอยู่ที่ $0.012725 และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นในระยะสั้น โดยนักลงทุนสามารถซื้อผ่านเว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper ด้วยคริปโตหรือบัตรธนาคาร
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO