“ประเสริฐ” ทิ้งทวน “ดีอี” ภูมิใจหลายผลงานสำเร็จ หวังรัฐบาลใหม่ “สานต่อ”
วันนี้ (6 ก.ย.68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผย หลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง (TopEx) เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า งานกระทรวงดีอีในตอนนี้ได้ขับเคลื่อนไปหลายเรื่อง สำหรับงานที่คงค้าง และมีการผลักดัน 2 กฎหมายใหญ่ คือ
1.พ.ร.บ.ไปรษณีย์ ซึ่งเป็นกฎหมายอายุเกือบร้อยปี ที่มีการแก้ไขโครงสร้างใหม่ให้มีการกำกับดูแลธุรกิจขนส่งเอกชนมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ทางกระทรวงขอดึงกลับมาปรับแก้อีกครั้ง หวังว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ในสมัยประชุมนี้
2.พ.ร.บ. อุตุนิยมวิทยา เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในระดับกฎหมายแม่บทไว้เป็นการเฉพาะ และปัจจุบันมีภาคเอกชนเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับพยากรณ์อากหาศมากขึ้น กฎหมายนี้จะช่วยกำหนดมาตรการไว้ ซึ่งขั้นตอนเเล้วเสร็จหมดแล้วและเตรียมผ่านขั้นสุดท้ายที่สภาเช่นกัน
“ส่วนข้อกฎหมาย 2 ฉบับข้างต้นเชื่อว่าดำเนินการต่อเนื่องได้อยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแล้ว มีเรื่องที่ยังห่วงอยู่หลายอย่าง รวมถึงมีผลงานที่ทำไว้ในและเห็นผลเป็นรูปธรรม “รัฐบาลเพื่อไทย” อาทิ
1.การจัดทำระบบ e-Office ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มาทำงานแทนการใช้กระดาษโดยได้ดำเนินการไปแล้วหลายกระทรวง เช่น กระทรวงดีอี กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นต้น
2.ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ที่เปิดมาเพื่อแก้ปัญหาภัยไซเบอร์ หรืออาชญากรรมออนไลน์ ช่วยลดปัญหาได้มากขึ้น ขณะนี้ ได้เดินหน้าจัดการข้อมูลร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
3.กระทรวงดีอี เข้มงวดในการดำเนินมาตรการสกัดกั้นสแกมเมอร์และค้ามนุษย์ข้ามชาติมากขึ้น อาทิ มาตรการ 3 ตัด (ตัดไฟฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ต) ตามแนวชายแดนไทย – และเมียนมา มาตรการจำกัดการผ่านแดนไทย – กัมพูชา ร่วมกับการลาดตระเวนร่วมของทหารและตำรวจชายแดน การบูรณาการข่าวกรองจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งการควบคุมและคัดกรองพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายแดน
ส่งผลให้จำนวนคดีสแกมเมอร์/ค้ามนุษย์ลดลง โดยในวันที่ 8 มิ.ย.68 อยู่ที่ 898 คดี หรือลดลงถึง 40.7% จากวันที่ 7 มิ.ย.68 ที่อยู่ที่ 1,515 คดี (กองบัญชาการกองทัพบก, 2568) สอดคล้องกับสถิติการแจ้งความอาชญากรรมออนไลน์เดือนมิ.ย.68 ที่ลดลงเกือบ 5% จากเดือนที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 34,225 คดี
4.การขับเคลื่อนโครงการ “ 1 อำเภอ 1 ไอทีแมน” หรือ “โครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะความรู้เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับกำลังคนดิจิทัลระดับอำเภอ” โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ดิจิทัลอำเภอได้ดำเนินการปฏิบัติงานในพื้นที่ 878 อำเภอทั่วประเทศแล้ว พร้อมกับการจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนเพิ่มขึ้น 500 แห่ง รวมเป็นจำนวนประมาณ 2,300 แห่งทั่วประเทศ
5.การขับเคลื่อนโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชนจำนวน 1,722 แห่ง และขยายเพิ่มขึ้นอีก 500 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมกับยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนเดิม สู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) หรือ BDE
6.การยกระดับการต่อต้านข่าวปลอม ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการแต่งตั้ง “คณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม” หรือ “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งชาติ” ขึ้น
7.โครงการ ODOS Summer Camp กล่าวว่า ODOS Summer Camp 2026 จะเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รวมถึงนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ขั้นสูง (ปวส.) และนักศึกษาระดับอุดมศึกษา (มหาวิทยาลัย) มีภูมิลำเนาใน 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร รวม 928 ทุน ได้มีประสบการณ์การใช้ชีวิตและการศึกษาในต่างประเทศ
“หลายผลงานที่ดำเนินงานมีหลายอย่างที่ภูมิใจ ศูนย์ AOC 1441 ได้รางวัลระดับโลก เรื่องผลักดัน พรบ.ไซเบอร์ แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรื่องกฎหมายที่ไม่เคยทำก็สำเร็จลุล่วงไปได้ รวมถึงเอไอ และ ODOS ที่ถือเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอนาคตของประ้ทศ และอนาคตของชาติ ถือเป็นหลายผลงานที่ทำแล้วประสบผลสำเร็จได้ในรัฐบาลนี้”