2 สาวเขมรทนความยากจนไม่ไหว ลักลอบหนีเข้าไทยหวังหางานทำ
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ และ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยที่ 1206 นำกำลังพลไปตรวจลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบที่เสี่ยงต่อการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ภายหลังได้รับแจ้งเบาะแสการลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยกำลังเดินเท้าอยู่ในไร่อ้อย ห่างจากถนนหลวงหมายเลข 3383 เพียง 50 เมตร ที่บริเวณบ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งขณะเข้าตรวจสอบ ผู้นำพาที่เป็นชาวกัมพูชาได้อาศัยความชำนาญพื้นที่วิ่งหลบหนีไปในความมืดเข้าไร่อ้อยมุ่งหน้ากลับประเทศกัมพูชาไปได้ ส่วนที่เกิดเหตุพบผู้ลักลอบเข้าเมือง 4 คน ประกอบด้วย ชายไทย 2 คน และหญิงชาวกัมพูชา 2 คน พร้อมเอกสารบอร์เดอร์พาส
สอบสวนคนไทย ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากหญิงชาวไทยชื่อ "นวิดา" ให้ไปทำงาน "รับจ้างเปิดบัญชี" ที่ประเทศกัมพูชา โดยจะได้รับค่าจ้างบัญชีละ 5,000 บาท เนื่องจากไม่มีงานทำและขาดรายได้ จึงตัดสินใจเดินทางไปกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติเมื่อกลางเดือน ก.ค. แต่ด้วยสถานการณ์ชายแดนที่ไม่แน่นอน ทำให้ต้องการกลับประเทศไทย ผู้ดูแลที่พักจึงจัดหาผู้นำพาให้ โดยจะจ่ายค่าเดินทางเมื่อเดินทางมาถึงไทยแล้ว
ขณะที่หญิงชาวกัมพูชา สารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากนายจ้างชาวไทย ให้กลับมาเปิดร้านที่ตลาดเดชไทย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจะได้รับค่าจ้างรายวัน ซึ่งเห็นว่าอยู่ที่กัมพูชาแล้วไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจติดต่อผู้นำพาผ่านเพื่อนชาวกัมพูชา โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 2,500 บาท เป็นเงินสดให้กับผู้นำพา ก่อนพาเดินเท้าลัดเลาะตามช่องทางธรรมชาติเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่เข้ามาในประเทศไทย.