นักธุรกิจสาวโวย ‘เมตา’ แบนบัญชีอินสตาแกรม อ้างเอไอระบุคลิปน้องหมาเป็น “ภาพเด็กเปลือย”
วันนี้ (17 ก.ค. 2568) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีของนักธุรกิจหญิงจากออสเตรเลีย ต้องสูญเสียรายได้ร่วม 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.05 ล้านบาท) หลังจากที่บัญชีผู้ใช้อินสตาแกรมของเธอ ถูกระงับเนื่องจากวิดีโอ “ใสๆ” ของสุนัขสามตัวของเธอ แต่โดนระบบตรวจจับด้วยเอไอของเมตาอิงค์ ระบุว่าเป็น “ภาพเปลือยของเด็ก”
โรเชลล์ มารินาโต กรรมการผู้จัดการของ Pilates World Australia ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ออกกำลังกายคุณภาพสูง กล่าวว่า เธอได้รับการแจ้งเตือนการระงับบัญชีจากเมตาอิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มอินสตาแกรม
เนื้อหาของอีเมลแจ้งเตือนระบุว่า บัญชีของเธอถูกระงับการใช้งาน เนื่องจากคลิปวิดีโอที่โพสต์บนโปรไฟล์ส่วนตัวของเธอ ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการ "แสวงหาประโยชน์ทางเพศ การล่วงละเมิด และภาพเปลือยของเด็ก"
อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่าโพสต์ดังกล่าว ถูกตั้งค่าสถานะผิดพลาดโดยระบบ ‘เอไอ’ ที่ใช้ตรวจสอบ เข้าใจผิดว่าสุนัขในคลิปวิดีโอที่เป็นปัญหานั้นคือเด็ก
"ฉันสับสน แต่ก็ไม่ได้กังวลมากเกินไป มันดูเหมือนเป็นความผิดพลาดที่ไร้สาระ และฉันคิดว่าคงจะมีการแก้ไขในทันที" มารินาโตให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
มารินสาโตแชร์คลิปวิดีโอดังกล่าวบนโปรไฟล์ส่วนตัว แต่เธอจึงไม่รู้เลยว่าบัญชีธุรกิจของเธอจะได้รับผลกระทบด้วย จนกระทั่งเห็นข้อความแจ้งเตือนที่ระบุว่า บัญชีธุรกิจของเธอก็ถูกระงับใช้เช่นกัน เนื่องจาก "มีความเกี่ยวข้องกับบัญชีที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน"
สันนิษฐานว่า นอกจากเมตาจะใช้เทคโนโลยีในการตรวจจับเนื้อหาที่ละเมิดกฎในเชิงรุกแล้ว บริษัทยังใช้เทคโนโลยีในการระบุสัญญาณของพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น เมื่อมีคนค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดความปลอดภัยของเด็ก หลังจากนั้นก็จะมีการดำเนินการในระดับขั้นที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและความถี่ของสัญญาณ ซึ่งการดำเนินการนี้ อาจรวมถึงการจำกัดการใช้งานบัญชีหรือการลบบัญชีผู้ใช้ออกไป
แม้ว่ามารินาโตจะกังวลเกี่ยวกับการระงับบัญชี แต่ในตอนแรกเธอก็หวังว่าหลังจากยื่นคำร้องคัดค้านไป และมีคนจริงๆ มาตรวจสอบกรณีของเธอ ก็จะยกเลิกการแบนบัญชีอย่างรวดเร็ว
เมื่อกระบวนอุทธรณ์ยืดเยื้อออกไป มารินาโตก็กล่าวว่า ธุรกิจของเธอได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างร้ายแรง
"อินสตาแกรมเป็นแพลตฟอร์มการตลาดที่สำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมพิลาทิสและสุขภาพที่ต้องพึ่งพาโซเชียลมีเดียอย่างมากในการมองเห็นสินค้าและยอดขาย" เธออธิบาย "เราพลาดโอกาสสำคัญหลายครั้งที่สามารถเพิ่มรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตาม 1.2 ล้านคน ซึ่งพยายามโปรโมตผลิตภัณฑ์ของเราแต่กลับคอมเมนต์ว่าหาธุรกิจของเราไม่เจอ'"
จากมุมมองด้านชื่อเสียง เธออธิบายว่าสถานการณ์นี้ "สร้างความเสียหาย" เนื่องจากลูกค้าเข้าใจผิดว่าธุรกิจปิดตัวลงหรือทำอะไรผิดจนถูกลบออกจากอินสตาแกรม เธอประมาณการว่าการระงับบัญชี ทำให้เธอขาดทุนไปประมาณ 50,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยรายได้ของเธอลดลงประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์
"มันเครียดมาก เพราะฉันเป็นผู้หารายได้เพียงคนเดียวในครอบครัว รายได้ที่ลดลงอย่างกะทันหัน ประกอบกับความรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขปัญหา ทำให้เกิดความวิตกกังวลอย่างมาก" เธอกล่าว
ด้านโฆษกของเมตาอิงค์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เราจะดำเนินการกับบัญชีที่ละเมิดนโยบายของเรา และผู้ใช้สามารถอุทธรณ์ได้ หากคิดว่าเราทำผิดพลาด"
มารินาโตกล่าวว่า เธอติดต่อศูนย์ช่วยเหลือของเมตา “มากกว่า 20 ครั้ง” แต่ได้พบเพียงระบบตอบรับแบบอัตโนมัติ เธอยังติดต่อไปยัง Meta Oversight Board ซึ่งเป็นองค์กรที่ตรวจสอบอิสระด้านการกลั่นกรองเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของเมตา
จากนั้นเธอก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและการตลาด และแม้กระทั่งจ้างทนายความเพื่อติดต่อเมตา แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับหรือมีความคืบหน้าใดๆ ในการยกเลิกการระงับบัญชีของเธอ
หลังจากที่เธอพยายามกอบกู้บัญชีใช้งานของตัวเองอยู่นานถึง 3 สัปดาห์ เธอก็ได้ใช้บริการของบุคคลที่สาม ซึ่งมีการคิดค่าธรรมเนียม แต่สามารถกู้คืนบัญชีธุรกิจของเธอได้สำเร็จ
ตอนนี้เธอกำลังเรียกร้องให้แพลตฟอร์มของเมตา ปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น
"ส่วนที่ยากที่สุดของประสบการณ์ทั้งหมดนี้คือ ไม่มีแนวทางในการดำเนินการเลย" เธอกล่าว "เมตาไม่มีหมายเลขติดต่อทางโทรศัพท์ ไม่มีที่อยู่อีเมล ไม่มีไลฟ์แชต และที่สำคัญที่สุดคือไม่มีการรับเรื่องโดยมนุษย์ ถ้าฉันสามารถพูดคุยกับคนจริงๆ ได้ เรื่องนี้คงได้รับการแก้ไขทันที โดยมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของฉันเพียงเล็กน้อย"
ที่มา : news.com.au
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES