“วิว-เมย์” ชวนตีแบดเพื่อน้อง ระดมทุนหมวกกันน็อกเด็กประจวบฯ ลดอุบัติเหตุ!
ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาอุบัติเหตุทางถนนรุนแรง โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 17,000 คนต่อปี และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่มาจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ เนื่องจากมีอัตราการสวมหมวกกันน็อกของผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ถึง 50% ที่น่าเป็นห่วงคือ เด็กอายุ 3-15 ปี เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสูง โดยมีสถิติการสวมหมวกกันน็อกในเด็กก่อนวัยเรียนเพียง 16% เท่านั้น สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้หลายครอบครัวไม่สามารถจัดหา หมวกกันน็อกสำหรับเด็ก ที่มีคุณภาพได้
หมวกกันน็อกมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องศีรษะและสมองของเด็ก ซึ่งอยู่ในช่วงวัยกำลังพัฒนาจากการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ละใบมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี หรือน้อยกว่าหากเกิดอุบัติเหตุ จึงจำเป็นที่ครอบครัวที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะต้องให้บุตรหลานสวมใส่ทุกครั้งที่เดินทาง
"ตีแบดฯ เพื่อหัวน้อง" กิจกรรมดีเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน และภาคีเครือข่ายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดกิจกรรม "ตีแบดฯ เพื่อหัวน้อง" ขึ้นที่สนามแบดมินตันคลับ 1000 ตา อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายกร ทัพพะรังสี อดีตนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ และอดีตประธานสมาพันธ์แบดมินตันโลก ให้เกียรติเป็นประธาน และนำทีม นักแบดมินตันระดับโลก ร่วมสร้างสีสันและระดมทุน ประกอบด้วย:
- วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์: มือหนึ่งแบดมินตันชายไทย และแชมป์โลกปี 2024
- เมย์-รัชนก อินทนนท์: แชมป์แบดมินตันหญิงเดี่ยวโลกปี 2556 และมือวางอันดับ 1 โลกปี 2559
- จิว-ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ: มือวางอันดับ 44 ของโลกประเภทหญิงเดี่ยว
- ส้ม-สรัลรักษ์ วิทิตศานต์: แชมป์เยาวชนโลกปี 2024
ภายใต้การนำของโค้ชเป้-ภัททพล เงินศรีสุข จากโรงเรียนกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอด กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมบริจาค 300 บาทต่อหมวกกันน็อกเด็ก 1 ใบ โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ยอดบริจาคสำหรับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สรุปได้ที่ 274,750 บาท
เป้าหมายสู่ "ธนาคารหมวกกันน็อกสำหรับเด็กและเยาวชน" ทั่วประเทศ
นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. เปิดเผยว่า โครงการ "ตีแบดฯ เพื่อหัวน้อง" เริ่มต้นจากการรณรงค์ให้นักแบดมินตันที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อก ก่อนจะขยายผลเป็นการระดมทุนเพื่อจัดตั้ง กองทุนหมวกกันน็อกเพื่อหัวน้อง เพื่อช่วยเหลือเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กประมาณ 20,000 แห่งทั่วประเทศที่ยังขาดแคลนหมวกกันน็อก สสส. ตั้งเป้าหมายจัดหาหมวกกันน็อกรวม 1,000,000 ใบ ทั่วประเทศ โดยจะส่งมอบให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในจังหวัดต่างๆ เพื่อจัดทำ ธนาคารหมวกกันน็อก ที่สามารถบริหารจัดการและตรวจสอบการใช้งานได้อย่างเป็นระบบ
แม้ สสส. จะไม่มีงบประมาณโดยตรงในการจัดหาหมวกกันน็อกให้เด็กทั้งหมด แต่ได้มีการดำเนินกิจกรรม ศูนย์เด็กเล็กเพื่อความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้ผู้ปกครองและเด็กสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่มาโรงเรียน และครูผู้สอนมีการให้ความรู้เรื่องวินัยจราจร รวมถึงสำรวจและแก้ไขจุดเสี่ยงในชุมชน แม้การเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์สำหรับเด็กจะค่อนข้างอันตราย แต่ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีทางเลือกอื่น การจัดหาหมวกกันน็อกที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
นายกร ทัพพะรังสี เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการนี้และเชิญชวนภาคธุรกิจในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ร่วมบริจาคเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน ซึ่งจะช่วยลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กจากการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ได้อย่างยั่งยืน