ศทช.ศบท. แฉกัมพูชาขัดขวางเก็บกู้ทุ่นระเบิด 16 ครั้ง ขัดอนุสัญญาออตตาวา
ศทช.ศบท. ออกแถลงการณ์เปิดพฤติกรรมทหารกัมพูชา ขัดขวางเก็บกู้ทุ่นระเบิด 16 ครั้ง ผิดอนุสัญญาออตตาวา เรียกร้องประเทศร่วมอนุสัญญาฯ ร่วมกันแสดงจุดยืนที่ชัดเจน
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร (ศทช.ศบท.) กองบัญชาการกองทัพไทย ออกแถลงการณ์กรณี กัมพูชา ขัดขวางการปฏิบัติงาน ของ ศทช.ศบท. เรื่อง ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ฉบับที่ 4 ระบุว่า
ในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2540 ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญมาโดยตลอด โดยกองบัญชาการกองทัพไทย มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินภารกิจ เก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมภายในพื้นที่อธิปไตยของประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2543
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ได้จัดสรรกำลังพลและทรัพยากร ตามแผนปฏิบัติการประจำปี โดยมีเป้าหมายเพื่อลดและขจัดภัยคุกคามจากทุ่นระเบิด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมชายแดนอย่างยั่งยืน
จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถเก็บกู้พื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิด และปลดปล่อยให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยได้แล้ว 99% (พื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิด 2,556.7 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 27 จังหวัด ปัจจุบันคงเหลือ 13 ตารางกิโลเมตร ในพื้นที่ 5 จังหวัด)
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ มีความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อพฤติการณ์ของกัมพูชา ซึ่งแม้จะเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฯ เช่นเดียวกัน กลับมีพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับพันธกรณีตามอนุสัญญา โดยเฉพาะ การขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีงบประมาณ 2567 (ธ.ค. 2567 - มิ.ย. 2568) ได้เกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาใช้กำลัง คุกคาม ข่มขู่ และขัดขวางการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทยในพื้นที่อธิปไตยของประเทศ อธิปไตยของประเทศ รวมทั้งสิ้น 16 ครั้ง ได้แก่
ในจังหวัดสระแก้ว จำนวน 8 ครั้ง, จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 4 ครั้ง, จังหวัดตราด จำนวน 2 ครั้ง และจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 ครั้ง อันเป็นที่ประจักษ์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามเอกสารที่แนบท้าย แถลงการณ์ฉบับนี้
พฤติการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อความพยายามของไทยในการบรรลุเป้าหมายของอนุสัญญาฯ อันเป็นเป้าหมายร่วมของประชาคมโลกในการขจัดภัยจากทุ่นระเบิดอย่างแท้จริง
การกระทำของกัมพูชานั้น ไม่เพียงสะท้อนถึงความไม่จริงใจต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ หากยังขัดต่อเจตนารมณ์ของความร่วมมือระหว่างรัฐภาคีในการปกป้องชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของสังคมโลก
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้กัมพูชาทบทวนพฤติกรรมดังกล่าว และกลับมา ดำเนินการตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความไว้วางใจระหว่างรัฐภาคี และส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาคโดยรวม
ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยขอเชิญชวนรัฐภาคีของอนุสัญญาฯ ทุกประเทศ ร่วมกันแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ต่อการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของอนุสัญญาฯ และสนับสนุนความพยายามของประเทศไทยในการดำเนิน ภารกิจเพื่อมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอยืนยันอีกครั้งถึงเจตจำนงอันแน่วแน่ในการดำเนินงานด้านทุ่นระเบิด เพื่อมนุษยธรรม และพร้อมร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศในการส่งเสริมความปลอดภัย และคุณค่าความเป็น มนุษย์ในทุกภูมิภาคของโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'ฮุน มาเนต' คุย 'ทรัมป์' กัมพูชาพร้อมหยุดยิง หวังไทยไม่เปลี่ยนจุดยืน
- 'กัมพูชา' ประณามไทย! กล่าวหาใช้อาวุธต้องห้าม 'ระเบิดคลัสเตอร์' โจมตี
- 'กัมพูชา' เรียกร้องประชาคมโลก 'ประณามไทย' อ้างโดนโจมตีก่อน
ติดตามเราได้ที่