หวิดโศกนาฏกรรมหมู่นักเรียน หลังสิบล้อบรรทุกไก่เบรกแตกชนวินาศ 8 คันรวด
ฉะเชิงเทรา – หวิดโศกนาฏกรรมหมู่นักเรียนกว่า 10 ชีวิตยามเช้า หลังสิบล้อบรรทุกไก่เบรกแตกชนแหลกพังวินาศ 8 คันรวด ในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน เสยท้ายรถรับส่งนักเรียนพังยับ 3 คันแต่โชคดีไร้เจ็บสาหัส ขณะคนขับเผยระบบหม้อลมเบรกขัดข้องทำเหยียบเบรกแล้วหายไร้การชะลอตัวลดความเร็วลงก่อนถึงทางแยก เผยไม่เคยเกิดปัญหามาก่อน
วันที่ 29 ก.ค.68 เวลา 07.30 น. ร.ต.ท.ปิยะพงษ์ วะหาโล รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางคล้า ช่วยราชการ พงส.เวรจราจร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์พุ่งชนกันจำนวนหลายคันบนถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) บริเวณทางสามแยกไฟจราจรหน้าโรงเรียนเทศบาล 2 (แยกโรบินสัน) ตัดกับถนนเทพคุณาการ (ทางเข้าวัดโสธร) เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์จำนวนมากถึง 8 คัน พุ่งชนต่อท้ายกันจนทำให้มีบางคันขึ้นไปเกยทับซ้อนกันอยู่ที่ด้านบนและบางคันเสียแนวการทรงตัวหมุนกระเด็นออกไปนอกเส้นทางและเกยคร่อมเกาะกั้นกลางถนน ประกอบด้วยรถยนต์เก๋งโตโยต้ากึ่งแวน (อัลพาร์ด) ซึ่งจอดเป็นคันหน้าสุดหมายเลขทะเบียน กล-2474 ฉะเชิงเทรา ถูกรถยนต์เก๋ง BMW ทะเบียน กร-1789 ฉะเชิงเทราพุ่งชนท้าย และมีรถยนต์กระบะมิตซูบิชิกึ่ง 2 แถว (หลังคาเตี้ย) ทะเบียน 3ฒษ-6729 กทม. บรรทุกนักเรียนมาเต็มคันจำนวน 9 คน พุ่งชนท้ายเป็นคันที่ 3
จากนั้นยังมีรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ทะเบียน กร-1555 ฉะเชิงเทรา พุ่งชนที่ด้านท้ายรถนักเรียนเป็นคันที่ 4 จนตัวรถหมุนกระเด็นด้านท้ายปลิวไปคร่อมอยู่บนตัวรถยนต์ไฟฟ้า BYD ทะเบียน 5ขส-5478 กรุงเทพฯ ที่ถูกแรงกระแทกพุ่งชนเข้ามาเป็นคันที่ 5 ส่วนด้านหน้าของรถยนต์คันที่ 4 ยังเกยทับอยู่บนหลังคาของรถสองแถวบรรทุกนักเรียนจนยุบแบนเกือบติดขอบกระบะ และมีรถยนต์กระบะฟอร์ดลักษณะเป็นรถสองแถวมีคอกหลังคาสูง ทะเบียน บร-1989 ฉะเชิงเทรา ถูกพุ่งชนเป็นคันที่ 6 เข้ามาอัดติดเบียดขนาบด้านข้างของรถคันที่ 4 และ 5 ที่เกยทับกันอยู่
นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิวิค ทะเบียน 7กง-5352 กทม. เป็นคันที่ 7 ถูกรถบรรทุก 10 ล้อคันที่ 8 ทะเบียน 71-6148 สระบุรีพุ่งชนด้านท้ายทางขวา ซึ่งรถที่ถูกพุ่งชนส่วนใหญ่อยู่ในช่องทางขวาสุดที่กำลังเข้าทางแยกรอสัญญาณไฟเลี้ยวขวาสู่ถนนเทพคุณากร โดยมีรถยนต์เก๋งคันที่ 7 เท่านั้นที่อยู่ในช่องทางที่ 2 และถูกพุ่งชนถากที่ด้านท้ายทางขวาอย่างแรงจนตัวรถปลิวหมุนอยู่ที่กลางถนน
ก่อนที่ตัวรถบรรทุกจะพุ่งเข้าไปกวาดอัดที่ท้ายรถในช่องทางรอเลี้ยวด้านขวาสุด จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหลายรายซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนที่นั่งมาในรถสองแถวคันที่ 3 จำนวน 9 คน และนั่งมาในรถสองแถวคันที่ 6 จำนวน 3 คน จึงทำให้มีประชาชนจำนวนมากถึงกว่า 20-30 คน โดยส่วนใหญ่เป็นข้าราชการในหน่วยงานรัฐ รวมถึงแพทย์ใน รพ.ประจำจังหวัดด้วยที่อยู่ระหว่างกำลังเดินทางไปทำงานได้รับผลกระทบ และมารอลงบันทึกประจำวันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับคลิปภาพจากกล้องหน้ารถคันที่ 4 ในขณะที่กำลังถูกพุ่งชนเสยท้ายเข้าไปอัดที่ด้านท้ายของรถสองแถวรับส่งนักเรียนในนาทีของการพุ่งชนเมื่อเวลา 07.03 น.ตามเวลาในกล้องหน้ารถ และทำให้เห็นว่ามีนักเรียนจำนวนมากได้ถูกช่วยเหลือให้ออกมาจากตัวรถที่ด้านท้ายใต้หลังคาที่ยุบพังบู้บี้ แต่ถือว่าโชคดีมากที่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ไม่เกิดบาดแผลฉกรรจ์ มีเพียงร่องรอยของการถูกแรงกระแทกและฟกช้ำเท่านั้น โดยมีอาการหนักสุดเพียง 1 รายที่มีบาดแผลบริเวณท่อนแขน
ขณะที่ นายอิทธิพัฒน์ อินทศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/1 ม.5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี คนขับรถบรรทุกได้เข้าไปนั่งคุกเข้ายกมื้อไว้กล่าวขอโทษต่อ นายสัญชัย โพธิ์คีย์ อายุ 42 ปี บิดาเด็กชายรัชชานนท์ โพธิ์คีย์ อายุ 15 ปี นักเรียน ชั้น ม.4 โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ท่อนแขนภายใน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เดินทางไปรับไก่เนื้อจากฟาร์มเลี้ยงใน จ.ชลบุรี มาจำนวน 2,500 ตัว
จากนั้นเดินทางมาตามเส้นทาง สาย 315 ฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายมาเข้าถนนสายเลี่ยงเมืองฉะเชิงเทรา สาย 365 เพื่อที่จะนำไก่สดไปส่งเข้าโรงเชือด (CP) ย่านมีนบุรี กทม. โดยได้แวะเข้าที่ด่านตรวจสัตว์ ก่อนที่จะถึงสะพานข้ามแยกบางพระ ซึ่งระบบเบรกของรถก็ยังใช้งานได้ตามปกติ แต่เมื่อขับขึ้นสะพานข้ามแยกออกมาแล้ว ในขณะที่กำลังลงสะพานเพื่อเข้าสู่ทางสามแยกไฟแดง ตนได้เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วครั้งแรกแล้วยังสามารถเบรกรถได้
แต่พอเข้าใกล้จะถึงไฟแดงกลับไม่สามารถหยุดรถได้ โดยเมื่อเหยียบเบรกลงไปแล้วคล้ายกับมีแต่ความว่างเปล่าในขณะที่รถยังมีความเร็วประมาณ 60-70 กม./ชม. จึงทำให้รถพุ่งเข้าไปชนที่ด้านท้ายรถคันอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟ โดยที่ตนนั้นได้พยายามที่จะหาทางลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุดแล้วในช่วงเวลานั้น โดยได้หมุนพวงมาลัยเข้าสู่ช่องทางด้านขวาสุด เนื่องจากในช่องเลนกลางนั้นมีรถอยู่ในเส้นทางเป็นจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุได้ลงไปดูที่ตัวหม้อลมเบรกแล้ว เชื่อว่าน่าจะเกิดปัญหาขัดข้องขึ้นที่จุดนี้ เพราะหลังจากเหยียบเบรกแล้วคล้ายกับมีเสียงลมรั่วจนทำให้ผ้าเบรกไม่จับกับแผ่นเบรกของดุมล้อรถ นายอิทธิพัฒน์ กล่าว