ฉลิม อยู่วิทยารั้งเบอร์หนึ่งมหาเศรษฐีไทย
เศรษฐกิจชะลอไม่สะเทือนความมั่งคั่ง! มหาเศรษฐีไทยครึ่งลิสต์รวยขึ้น เฉลิม อยู่วิทยา นำโด่งอันดับ 1 ครองแชมป์ 2 ปีซ้อน ดันมูลค่ารวมมหาเศรษฐีไทยพุ่งแตะ 170,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ทักษิณ อยู่อันดับ 11
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 นิตยสาร Forbes ประกาศจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2568 โดย นายเฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว ผู้ครอบครองอาณาจักร Red Bull รั้งตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ด้วยทรัพย์สินรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 44,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.44 ล้านล้านบาท จากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังกว่า 13,000 ล้านกระป๋องทั่วโลกในปีเดียว แม้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตช้าจากแรงกดดันด้านการเมืองและการค้าระหว่างประเทศ แต่การเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของกลุ่มผู้นำเศรษฐีไทยกลับช่วยดันมูลค่าทรัพย์สินรวมของลิสต์นี้ เพิ่มขึ้นกว่า 11% แตะระดับ 170,500 ล้านดอลลาร์
ในอันดับที่สองคือ พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 35,700 ล้านดอลลาร์ โดยยังคงรุกตลาดเทคโนโลยีต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ร่วมกับ BlackRock และผลักดันฟินเทค Ascend Money ขึ้นแท่น Virtual Bank อันดับสาม เป็นของ สารัชถ์ รัตนาวะดี แห่ง Gulf Energy ที่ทะยานขึ้นจากอันดับ 5 ด้วยทรัพย์สิน 12,000 ล้านดอลลาร์ หลังควบรวมกิจการใหญ่ในแวดวงพลังงานและสื่อสาร
ขณะที่ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ร่วงมาอยู่ อันดับสี่ ทรัพย์สินทรงตัวที่ 10,500 ล้านดอลลาร์ ส่วน ครอบครัวจิราธิวัฒน์ ผู้ถือธุรกิจค้าปลีก รั้งอันดับ 5 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินลดลง 13% เหลือ 8,600 ล้านดอลลาร์ จากผลกระทบการใช้จ่ายที่ชะลอตัว
สำหรับ รายชื่อ 10 อันดับแรก ของทำเนียบมหาเศรษฐีไทยปีนี้ ได้แก่ เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว มีทรัพย์สิน 44,500 ล้านดอลลาร์ พี่น้องเจียรวนนท์ มีทรัพย์สิน 35,700 ล้านดอลลาร์ สารัชถ์ รัตนาวะดี มีทรัพย์สิน 12,000 ล้านดอลลาร์ เจริญ สิริวัฒนภักดี มีทรัพย์สิน 10,500 ล้านดอลลาร์ ครอบครัวจิราธิวัฒน์ มีทรัพย์สิน 8,600 ล้านดอลลาร์ ครอบครัวไชยวรรณ มีทรัพย์สิน 4,200 ล้านดอลลาร์ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา มีทรัพย์สิน 3,500 ล้านดอลลาร์ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มีทรัพย์สิน 3,400 ล้านดอลลาร์ เสถียร เสถียรธรรมะ มีทรัพย์สิน 2,600 ล้านดอลลาร์ พรเทพ พรประภา และครอบครัว มีทรัพย์สิน 2,200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ติดอันดับ 11 ด้วยทรัพย์สิน 2,100 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ปีนี้มีถึง 19 รายที่ทรัพย์สินลดลง และอีก 4 รายหลุดจากลิสต์ รวมถึง สมโภชน์ อาหุนัย แห่งพลังงานหมุนเวียนที่เผชิญแรงกดดันจากปัญหาทางการเงินของ Energy Absolute
แม้เกณฑ์คัดเลือกปีนี้จะปรับลดลงเหลือ 420 ล้านดอลลาร์ จาก 550 ล้านในปีก่อน แต่การแข่งขันยังคงเข้มข้น ท่ามกลางภูมิทัศน์เศรษฐกิจไทยที่ยังเผชิญความไม่แน่นอนสูง