รวบแล้ว!!! 'นักโทษซอยจุ๊' ปีนกำแพงเรือนจำบุรีรัมย์หนี หลังหลบซ่อนในป่าเขากระโดง
จับกุมตัวได้แล้ว นักโทษชายคดีลักชำแหละวัว ที่ปีนกำแพงเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ หนีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ก.ค.68 ที่ผ่านมา หลังตำรวจ ตำรวจ ทหาร ปกครอง และราชทัณฑ์ ออกระดมกำลังไล่ล่าติดตามตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมตัวได้อยู่บริเวรป่าเขากระโดง ใกล้กับจุดที่พบหายในครั้งแรก
วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ปกครอง และราชทัณฑ์ รวมถึงอาสาสมัครจากภาคส่วนต่างๆ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่รวมกว่า 300 นาย รวมทั้งโดรนตรวจจับความร้อน และสุนัข K-9 จากกองกำกับการ ตชด.21 ออกระดมไล่ล่าติดตามตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
กระทั่งในช่วงเช้าของวันนี้ (4 ก.ค.68) เวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.ต. ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อออกปฎิบัติการไล่ล่าติดตามอีกครั้ง รวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน
ซึ่งหลังจากการปล่อยแถวได้เพียงไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัว นักโทษชายโกวิทย์ หรือโก๋ กวดขุนทด (คดีลักชำแหละวัวชาวบ้าน) อายุ 42 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร นักโทษชายที่ก่อเหตุหลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 3 ก.ค.68 ที่ผ่านมา โดยใช้ผ้าห่มมัดต่อกันเป็นเชือกแล้วปีนข้ามกำแพงเรือนหลบหนีได้แล้ว ในเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันนี้(4 ก.ค.68) ได้ที่บริเวณห่างจุดที่พบหายตัวเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น ภายในป่าเขากระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
โดย นักโทษชายโกวิทย์ หรือ โก๋ กวดขุนทด ได้หลบซ่อนตัวอยู่โดยการอำพรางนอนราบกับพื้นแล้วนำใบไม้มาปิดทับร่างกายไว้ และได้นอนหลับอยู่บริเวณจุดดังกล่าวตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา และในจุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินผ่านไปมาด้วยเช่นเดียวกัน แต่กลับมองไม่เห็นตัว ส่วนสาเหตุที่ถูกจับกุมตัวตัวได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวน และพบปลายเท้าของนักโทษชายโกวิทย์ หรือโก๋ กวดขุนทด โผล่ออกมาจากที่หลบซ่อน จึงสามารถเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว ก่อนจะควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อนำตัวส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อไป
สำหรับ นายโกวิทย์ หรือ “โก๋” เป็นหัวหน้าแก๊งที่ร่วมกับนายอำพรรณ หรือเบส อายุ 20 ปี (ลูกชาย) และนายจันทร์ หรือต่อ อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ตระเวนก่อเหตุลักขโมยวัวของเกษตรกรที่ผูกไส้ทุ่งนา และขังไว้ในคอกในหลายพื้นที่ นำไปชำแหละทั้งที่หน้าคอก และทุ่งนา อย่างโหดเหี้ยมไม่เว้นกระทั่งวัวที่กำลังตั้งท้องแล้วเอาเครื่องในกับเนื้อไปวางขายที่เขียง. ทิ้งซากไว้ให้เจ้าของวัวจนเกษตรกรหวาดผวา
กระทั่งวันที่ 27 พ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับผู้ก่อเหตุลักขโมยวัวได้ยกแก๊งทั้ง 3 คนพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้กระทำความผิด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งยังอัยการจังหวัด เพื่อส่งฟ้องศาล ซึ่งนายโกวิทย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล แต่ระหว่างฝากขังเพื่อรอการพิจารณาคดี ได้หลบหนีออกจากเรือนจำ