มะปราง เป็นมาม่าบลู กลัวลูกจะตาย - สามีตำรวจถูกหยาม โจรขโมยสายไฟในบ้าน
มะปราง กุลภัสสรณ์ แชร์เป็นมาม่าบลูแบบไม่รู้ตัว คิดแต่ว่าลูกจะตาย – เล่าเหตุการณ์ สามีตำรวจถูกหยาม โจรขโมยสายไฟในบ้าน เตรียมขึ้นป้ายตำแหน่งใหญ่กว่าเดิม
ปีแรกของการเลี้ยงลูกไม่ง่ายเลย สำหรับนักแสดงสาว “มะปราง กุลภัสสรณ์” ที่ล่าสุดมาโปรโมต
ละคร “สามสาวโคกอีแร้ง” ที่ตึกมาลีนนท์ ช่อง 3 และออกมาเล่าประสบการณ์ตรงในชีวิตคุณแม่มือใหม่ ทั้งเรื่องภาวะ “มาม่าบลู” ที่เธอไม่เคยรู้ตัวว่ากำลังเผชิญ และเหตุการณ์บ้านใหม่ถูกโจรงัดขโมยสายไฟ ทำเอาสามีตำรวจฉุนหนัก
เป็นยังไงบ้างออกนอกบ้านกับอยู่ในบ้านเหมือนกันไหม? “ออกนอกบ้านสนุกมาก ไม่เคยรู้เลยว่าการไปทำงานมันไม่ได้เหนื่อยนะ ก่อนหน้านี้งอแงมาก เหนื่อย สี่ทุ่มอยากจะกลับบ้านแล้ว แต่ทุกวันนี้อยู่บ้านเหนื่อยมากเลย”
แล้วอยู่บ้าน ลูกกับสามี กับใครเหนื่อยสุด? “ลูก! ใหญ่สุด! คือจริง ๆ อ่ะ เป็นแม่มือใหม่ ลูกคนแรก เราก็จะ… ลูกทำอันนี้ ต้องมีตารางอันนี้ ก็อาจจะเกร็งมากไปหน่อย พอไปสัมผัสบรรยากาศแม่คนอื่น แม่ลูกหนึ่ง ลูกสอง ลูกสาม เขาก็เลี้ยงกันได้เนอะ มันก็เริ่มชิลขึ้นออกมาข้างนอกได้ ปีนึงที่ผ่านมาเต็ม ๆ อ่ะ ปรางไม่ออกไปไหนเลย อยู่แต่กับบ้าน…”
รีวิวความเป็นคุณแม่หนึ่งปีหน่อย ? “เพิ่งหายมาม่าบลูไปตอนลูกแปดเดือน คือตอนแรกปรางไม่รู้ว่าปรางเป็นมาม่าบลู แต่ตอนนั้นดูตัวเองตลอด ดูอารมณ์สงสัยว่าอารมณ์นี้มันอะไรนะ มาม่าบลูคนอื่นเห็นนั่งร้องห่มร้องไห้ แต่ว่าปรางมันไม่ถึงร้องไห้ สงสัยว่าอารมณ์เนี่ยมันคืออะไร เราไม่รู้จัก เราก็จะเห็นมันมาเรื่อย ๆ แต่วันนึงมันขาดจากตรงนั้นไปเลย เราก็เลยอ๋อ… ตรงนั้นมันน่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่เราเรียกกันว่ามาม่าบลู ของปรางมันเป็นอะไรที่เกินเมนส์ ปกติผู้หญิงเราเวลามีประจำเดือนมันจะมีฮอร์โมนอารมณ์ที่มันหิวบ้าง งอแงบ้าง หงุดหงิด ครั่นเนื้อครั่นตัวบ้างแต่อันนี้มันลบ คิดซ้ำ คิดวนไปเยอะ เห็นแต่ภาพว่าลูกจะตาย เดินผ่านบันได ลูกจะตกบันไดตายแน่ ๆ เลย อาหารจะต้องติดคอลูกตายแน่ ๆ สุดท้ายแล้วมันจะต้องตกด้วยคำว่า ‘ตาย’”
วิตกจริต? “มั้งคะ ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่เคยเป็นจนสงสัยว่ามันอาจจะเป็นอาการแปลก ๆ เราก็เลยนั่งดูไปเรื่อย ๆ แต่มันก็ไม่ได้ลั่นออกมาทุกคน แต่ว่าตอนนี้หายแล้วเรียบร้อย ตอนนั้นเราสังเกตตัวเอง แล้วแฟนก็ประคบประหงมอย่างดี เพราะว่าเขาเห็นว่าเราผิดปกติ แต่ว่าเขาก็ไม่บอก คือเขาสัมผัสได้ว่าเราห่วงลูกมาก ๆ กลัวมาก ๆ คือเรากลัว ก็ไม่ได้เชิงว่าไม่ออกจากบ้านแต่เราอยู่ในวงโคจรเดิม มีแพทเทิร์นในการนอน ในการที่ลูกตื่นเวลานี้ กินข้าวตอนนี้ อาบน้ำตอนนี้…เบอร์นั้นเลย คือความกลัวว่าลูกตาย แล้วมันเกิดขึ้นเป็นรูทีนในชีวิตประจำวัน ลูกอาบน้ำก็กลัวว่าหัวจะฟาดพื้น มันเป็นความกลัวที่ผุดขึ้นมาเอง แบบเว่อร์ ๆ”
ใครดึงสติ? “มันอยู่กับตัวเอง เราสังเกตตัวเองว่าทำไมถึงคิดลบได้ขนาดนั้น แต่เราก็ไม่ได้ลงที่ใคร แค่เราโพรเทกส์เขามาก ๆ เฉย ๆ ก็เลยไม่ได้ออกไปไหนเลย โพรเทกส์ลูกทั้งวัน มันเหนื่อยมากเลยนะที่ต้องมานั่งโพรเทกส์คนทั้งวัน ซึ่งจริง ๆ ลูกเราก็เป็นเด็กปกติ แข็งแรงมาก ๆ ด้วย วันที่เรามีอาการ เราก็ดูกันไป ดูอารมณ์ที่มันไม่ใช่เราไป เพราะว่าเรารู้จักตัวเราดีว่าเราเป็นคนยังไงรู้สึกว่ามันมีอารมณ์ที่มันไม่ใช่เรา ก็เห็นมันไปว่า มันคิดแบบนี้อีกแล้วนะ มันมาอีกแล้วนะ ก็แค่เห็น ๆ มันไป แต่พอวันนึงที่เราเห็นมันไปเรื่อย ๆ มันก็จะหาย”
ได้คุยกับเพื่อนที่เป็นคุณแม่เหมือนกันไหม? “ก็คุยค่ะ แต่มนุษย์แม่ทุกคนสภาพไม่น่าจะคุยกับใครแล้ว (หัวเราะ) เพื่อน ๆ หนักกว่าเราทุกคน อย่างเพื่อนเราที่อยู่นอกวงการลูกคลอดก่อนกำหนด เขาก็ประคบประหงมหนักกว่าเรา นอนกับลูกเลย เรายังแยกห้องนอนกับลูก แล้วพอลูกประมาณแปดเดือน มันก็หายวับไปเลย เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันหายจนตกใจ มันไม่มีเลย อยู่ดี ๆ เราก็กลับมาสดใสจนแฟนทักว่า ‘ดีจังเลย หนูสดใส’ ก็เลย เฮ้ย แล้วที่ผ่านมา…มันคืออะไร เป็นอะไร? ก็เลยย้อนดูว่า… อันนี้คือมาม่าบลู ที่ผ่านมาไม่เคยได้ปรึกษาหมอ เพราะรู้สึกว่าเราก็ยังไหวอยู่ก็แค่มองกลับไปว่า ตายแล้ว เราโฟกัสอยู่กับลูกจนเครียดเกินไปตอนนี้ก็เริ่มชิลแล้ว ให้แฟนอยู่บ้านเลี้ยงลูก แล้วก็มาเฉิดฉาย กลับมาเป็นคนเดิมก่อนท้องได้ สามีเขาก็ชอบ เขาก็คิดถึงคนนี้”
คนที่สองต้องมาแล้ว!? “ว้าย มาม่าบลูจะกลับมาอีกรอบรึเปล่า (หัวเราะ)”
ออกมาข้างนอก เขาโทรตามไหม? “ไม่โทรเลย เดี๋ยวเขาก็จะพาลูกมาหา”
แล้วใครเฝ้าบ้าน เดี๋ยวของหายอีกนะ? “วร้าย อันนั้นบ้านสร้างใหม่ (แล้วมันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น…?) บ้านสร้างใหม่มันยังไม่มีอะไรเลย มันคือโครงสร้างเสร็จแล้ว กำลังเดินเส้นเดินสายอยู่ คราวนี้มันก็มีคนร้อนเงิน ดูดไปเอาสายไฟ เมื่อวานเองนะ! ก็คือรู้เมื่อวานน่ะ เหมือนแฟนมีเซ้นส์อะไรสักอย่างเลยว่าจะไปบ้าน แล้วพอไปบ้านก็เห็นเลยว่ามันโดนรื้อ!”
แล้วบ้านตำรวจ? “ทุกคน… ผัวฉันเป็นตำรวจค่ะ ฉันยังคงป้ายใหญ่ไม่พอสินะต้องเขียนยศตำแหน่ง (หัวเราะ) คือเพราะว่าคนที่เจอเป็นตำรวจ มันหยามเรา มันก็ไม่เท่าไหร่ แต่สามีเราแบบ…ได้! ก็เลยโทรหาตำรวจน้องลงบันทึกประจำวัน มีภาพในกล้องวงจรปิด ของที่เสียหายมันไม่เท่าไหร่ แต่การรื้อระบบสร้างใหม่มันน่ารำคาญ และเสียเวลาไปประมาณ 15–20 วันต้องเดินระบบใหม่หลายหมื่น เดี๋ยวจะไปปรับป้ายให้ใหญ่กว่านี้ ว่าเป็นบ้านของนายตำรวจท่านหนึ่ง”
แฟนเราของขึ้นขนาดไหน ที่โดนหยาม? “จริง ๆ ก็หงุดหงิดเฉย ๆ เราสงสารเขานะ บางทีมันเล็ก ๆ น้อย ๆ มาก ๆ เอาไปขายก็แค่ 500–600 แต่เราต้องวางระบบใหม่ คือดีแล้วที่เขามาทำตอนนี้ ฉันจะได้วางระบบทั้งหมดใหม่อีกรอบ ตอนนี้ฉันมีกล้องวงจรปิดแล้วนะคะ! กล้องวงจรปิดก็คือแพงกว่าค่าสายไฟอีก! ก็คือ…จะได้รู้ว่าเราต้องเพิ่มความปลอดภัย คือสงสัยป้ายเล็กไปจริง ๆ เพราะมันจะมีเขียนว่าโครงการนี้บ้านนี้เป็นบ้านของใคร”
แสดงว่าบริเวณนั้นมันมีความไม่ปลอดภัย? “มันเป็นพื้นที่เปล่าสร้างเอง แต่ว่าโซนนั้นโดนเยอะมาก พอไปลงบันทึกประจำวัน เขาก็บอกว่าโดนหลายหลัง บ้านที่สร้างใหม่ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็น พี่คือขี่มอเตอร์ไซค์กันมาสองคน คนนึงขับ ดูลาดเลา คนนึงลงไป ก็น่าจะได้บ้านละ 500–500 แต่บ้านที่โดนต้องวางระบบใหม่หลายหมื่น”
จะดำเนินการถึงขั้นไหนเหรอคะ? “ก็เห็นหน้าแล้วพอสมควร เดี๋ยวรอ บ้านยังไม่เสร็จเลย คงต้องมีรั้วกั้นปิด ทำอะไรให้มันแน่นหนา ตอนนี้มันยังมีแค่โครงสร้าง ยังไม่มีรั้ว ไม่มีประตูกั้น ก็ฝากถึงพี่สองคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยนะคะ… เจ้าที่เจ้าทางบ้านฉันค่อนข้างแรง ทั้งมนุษย์และอมนุษย์…โดนแน่ค่ะ! (หัวเราะ) ก็พูดไปเรื่อยนะคะ คนไทย”
ตอนนี้มีครอบครัว มีลูกแล้ว ชีวิตยังไงบ้าง? “ไม่ได้บาลานซ์อะไรเลย เพราะอยู่แต่บ้าน ตอนนี้ก็ทำคอนเทนต์ออนไลน์อย่างเดียว จริง ๆ ยังไม่ได้กลับมาเลย เพราะว่าน้ำหนักก็ยังลดไม่เข้าที่ ยังค้างอยู่ประมาณ 3–4 โล ไม่กังวลค่ะ เพราะว่าแฟนชอบแบบหนุบหนับ”
อยู่บ้านเราเป็นแบบนี้ไหม? “เป็นกับแฟนคนเดียว แต่ว่ากับคนอื่นเราก็จะเรียบร้อย แฟนเราชอบเรามู้ดนี้ ชอบมู้ดน่ารัก คุยเล่นก็ปกติ แต่กับคนอื่นเราก็ไม่กล้าไปหน่องแหน๊งใส่ใคร”
แล้วสามปีนี้กลับมาปกติหรือยัง? “จิตใจหรือร่างกาย คือตอนนี้ปรางรู้สึกว่าโอเคมากแล้ว ยกเว้นร่างที่กลับมายังไม่สมบูรณ์ ยังไม่พร้อมจะรับละคร ยังไม่ขนาดนั้น ส่วนลูกเป็นคนที่สดใสมาก หน้าคือสามี แต่อินเนอร์คือปรางมาก ขี้แกล้ง ทะเล้น น่ารักแบบกวนประสาท เล่นใหญ่การละคร พูดไม่ได้แต่ทำหน้าแล้ว!”
แล้วคุณพ่ออยากจะมีลูกอีกไหม? “แฟนอยากมี แต่ก็ต้องตามใจปรางอยู่ดี เพราะว่าปรางเป็นคนท้อง คือเราโฟกัสลูกด้วย แล้วเราโฟกัสเขามากๆ บางทีว่าเหมือนปรางอาจจะคิดเยอะเกินด้วยยังไม่แน่นพอที่จะสามารถโฮลความรู้สึกของคนโตในขณะที่มีคนน้อง ตอนนี้เขาเสพเรามากๆ คือในขณะที่เขาเสพเราอยู่ เราอาจจะไม่ได้เก่งพอที่จะสามารถแบ่งความรู้สึกให้กับอีกคนหนึ่งโดยที่แชร์ไม่ได้ อยากเสพเขาสุดๆ อยากให้เขาได้เสพเราเหมือนกัน เอาเป็นว่าภายในสี่ปีไม่มีลูกสองก็คือไม่มีแล้ว ก็เอาเป็นว่าบ้านเสร็จก่อนค่อยว่ากัน ไม่อยากท้องตอนสร้างบ้านอยู่ เพราะว่าตามคนจีนเขาบอกว่ามันไม่ดีจะคลอดยากนั่นนู่นนี่”.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มะปราง เป็นมาม่าบลู กลัวลูกจะตาย - สามีตำรวจถูกหยาม โจรขโมยสายไฟในบ้าน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th