โบรกฯ มอง ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ คาดลดเบี้ย 2 ครั้ง หนุน SET พุ่ง 100 จุด ชี้เป้ากลุ่มหุ้นเด่น
นักวิเคราะห์ฯ มองตลาดหุ้นไทยคึกคักรับข่าวดี หลังการแต่งตั้ง ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ จะนำไปสู่การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย คาดเห็นการ ลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยจะหนุนดัชนี SET ได้ราว 50-55 จุด แนะเสริมกลยุทธ์ ชี้เป้ากลุ่มหุ้นเด่น
22 กรกฎาคม 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ แต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลำดับที่ 25 หลังผ่านช่วงรอยต่อคาดเข้าสู่จุดไทยเร่งนโยบายการเงินผ่อนคลาย บวกต่อตลาดหุ้นไทย
บล.กรุงศรี มองว่า การผ่านช่วงรอยต่อแต่งตั้งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ท่านใหม่ หลังจากนี้คาดนำมาสู่การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย อิงดอกเบี้ยนโยบาย – เงินเฟ้อที่เป็นบวกต่อเนื่อง 26 เดือน โดยเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนจากมาตรการการค้าสหรัฐฯ
ทั้งประเมินน่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ 2 ครั้ง โดยมุมมองดอกเบี้ยของตลาด ผ่านตลาดพันธบัตรล่าสุด TH Bond Yield 1ปี อยู่ที่ 1.427% vs ดอกบี้ยนโยบาย 1.75% บ่งชี้ลดลง 1 ครั้ง และทุกๆ การปรับลดดอกเบี้ยลง ลดลง 25 bps จะบวกต่อ SET ราว 50-55 จุดโดยหนุนหุ้นในกลุ่มอิงดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ High Yield (สื่อสาร, REITs + Infra Fund และอสังหา) หนี้สูง
โดยคาดความชัดเจนผู้ว่า BOT ใหม่ น่าจะหนุนตลาดกลับมาให้น้ำหนักภาพขับเคลื่อนนโยบายการเงินของไทยระยะถัดไป กลยุทธ์ เน้นหุ้นได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลงที่มีปัจจัยเสริม
โดยเน้นกลุ่มโรงไฟฟ้า (เงินบาทแข็งค่ามากสุดตั้งแต่ ต.ค. 24) + ก๊าซ NYMEX -6.7% เน้น GULF กลุ่มสื่อสาร ADVANC ที่เป็น Big Cap ที่สลับมานำตลาด กลุ่มอสังหาฯ ที่ยัง Laggard : LH, SPALI หุ้น REITS + Infra Fund (Real Yield > 5%, สภาพคล่องสูง) : WHAIR, FTREIT, 3BBIF กลุ่มหนี้สูง : เน้นกลุ่ม Laggard หุ้น SET50 อาทิ CPALL, KTC, MTC, SAWAD
บล.ฟิลลิป แนะปรับกลยุทธ์ลงทุน รับว่าที่ผู้ว่าการธปท.คนใหม่ ชี้เป้ากลุ่มหุ้นคาดรับประโยชน์จากแนวทางใหม่ของธปท. ได้แก่ กลุ่มการเงิน ต้นทุนการเงินลดลงหนุนผลประกอบการ Top Pick : MTC และ KTC
- กลุ่มอสังหาฯ : ดอกเบี้ยลดลง ช่วยลดภาระการกู้ยืมให้ลูกค้า หนุนภาคอสังหาฯ Top Pick : AP SPALI และ SIRI
- กลุ่มที่มีสัดส่วนหนี้สูง : ดอกเบี้ยลดลง ช่วยลดภาระด้านดอกเบี้ยให้บริษัท หนุนผลประกอบการ Top Pick : BTS BEM CRC BGRIM GULF และ TRUE
- หุ้นบาทอ่อน/ส่งออกสินค้าและบริการ : ดอกเบี้ยลดลง กดดันค่าเงินบาทอ่อน เป็นบวกต่อภาคการส่งออก Top Pick : HANA DELTA KCE AOT CENTEL และ MINT
- กลุ่มนิคม : ดอกเบี้ยที่ลดลง ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน เป็นบวกต่อภาพการลงทุน Top Pick : WHA WHAIR และ AMATA
บล.หยวนต้า คาดเห็นแรง Sell on fact กลุ่ม Yield play เช่น ไฟแนนซ์ ในระยะสั้น เนื่องจากมีแรงเก็งกำไรประเด็นนี้ล่วงหน้าในช่วงที่ผ่านมา