โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"พิชิต" โต้ "รัฐบาล-ปชน." ปัด "ม็อบ" เรียกร้อง "รัฐประหาร" สัปดาห์หน้าเดินสายบุก "พรรคร่วมฯ" จี้ถอนตัวรัฐบาล

สยามรัฐ

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 19 มิ.ย. 2568 ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมหลักของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แกนนำกลุ่มได้ออกมาแถลงจุดยืนการเคลื่อนไหวและจัดกิจกรรมการชุมนุมหลังจากนี้ โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคปท. ระบุว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้จัดการชุมนุมใหญ่ร่วมกับคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย โดยภาพรวมถือว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เนื่องจากมีพี่น้องประชาชนทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัดมาร่วมชุมนุมเกินกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่ได้มีแค่ผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียว แต่มีทั้งคนรุ่นใหม่และวัยกลางคนมาร่วมเป็นจำนวนมาก จนทำให้การชุมนุมขยายไปจนถึงพื้นที่โดยรอบของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งยังมี อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้ง พลเรือน ตำรวจ และทหารมาร่วมชุมนุม

แม้ว่าเมื่อวานนี้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ผู้ชุมนุมทุกคนก็ไม่ยอมถอย ทุกคนมีสีเสื้อเดียวกันคือสีธงชาติไทยและพร้อมใจร่วมกันแสดงพลังเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ จึงถือว่าการชุมนุมในครั้งนี้ เป็นการลบคำปรามาสทั้งจากรัฐบาลและนักวิชาการบางคนที่มองว่าจะไม่มีการชุมนุมใหญ่เกิดขึ้นในปีนี้ การที่พี่น้องประชาชนทุกคนออกมาแสดงพลังเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นไม้ขีดเล็ก ๆ ที่จุดให้ม็อบติดขึ้นมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารขึ้นมานั้น จากการหารือกับแกนนำระดับสูงของกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ข้อสรุปยืนยันว่า พวกเรายังคงยึดมั่นใน 3 ข้อเรียกร้องสำคัญ คือการเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และพร้อมยืนเคียงข้างกองทัพในการต่อสู้และปกป้องอธิปไตยของชาติ ดังนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมจึงไม่มีข้อเรียกร้องและสนับสนุนการรัฐประหารแต่อย่างใด การที่พวกเราออกมายืนเคียงข้างกองทัพนั้น ก็ไม่ใช่เป็นการสนับสนุนให้เกิดการรัฐประหาร

จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทั้งพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่ออกมาประสานเสียงโจมตีว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการรัฐประหารนั้น แสดงว่าฝ่ายการเมืองกลัวธงชาติหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้านและที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลมาโดยตลอด แต่ทว่าวันนี้กลับออกมาตรวจสอบม็อบ เช่นเดียวกันกับฝั่งรัฐบาลที่ให้โฆษกรัฐบาลกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นพวกสนับสนุนรัฐประหาร ก็แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลแล้ว จึงขอเรียกร้องว่า อย่ากล่าวหาและดูถูกเสียงของพี่น้องประชาชนที่ออกมาปกป้องประเทศชาติ ทั้งพรรคประชาชนก็อย่ากลัวธงชาติและบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายก็อย่ากลัวเสียงของพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหลังจากนี้อาจจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมน้อยลงจากกระแสข้อครหาว่าเป็นม็อบเรียกรัฐประหาร นายพิชิต มองว่าไม่กังวล เพราะเราชัดเจนว่ามีเป้าหมายตาม 3 ข้อเรียกร้อง ไม่ได้เรียกร้องการรัฐประหารตามที่ถูกครหา พวกเราไม่ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนขั้วรัฐบาล แต่แค่เรียกร้องที่จะออกมาปกป้องประเทศชาติ

ส่วนจะถูกรัฐบาลนำประเด็นเรื่องปลุกปั่นการรัฐประหารไปร้องทุกข์กล่าวหาดำเนินคดีหรือไม่นั้น นายพิชิตระบุว่า ไม่มีใครกลัวการถูกดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาพวกตนและแกนนำหลายคนก็ถูกดำเนินคดีข้อหาหนักมาแล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะข้อหากบฏ แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี จึงไม่มีใครกลัวและยืนยันว่า 3 ข้อเรียกร้องนั้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีข้อใดผิดกฎหมาย

นายพิชิต ยังระบุอีกว่า หากหลังจากนี้นายกรัฐมนตรียังเพิกเฉยเสียงของประชาชน ก็จะระดมพี่น้องประชาชนและยกระดับการเคลื่อนไหวให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งจะต้องประเมินสถานการณ์กันวันต่อวัน โดยเฉพาะหลังจากวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่า จะรับคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรีของสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่ อันจะส่งผลทำให้ศาลอาจสั่งหรือไม่สั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ยืนยันว่า ถ้านายกรัฐมนตรีนิ่งเฉยหรือหากคณะรัฐมนตรีที่ยื่นทูลเกล้าฯนั้น ปรากฏว่า น.ส.แพทองธาร นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมควบด้วย นั่นจะถือว่า น.ส.แพทองธาร เล่นแทคติกที่จะให้ตนเองมีอำนาจในคณะรัฐมนตรี เมื่อนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะยกระดับเป็นการเรียกร้องไล่รัฐบาลทั้งคณะ แต่จะไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เพียงแต่จะจัดการชุมนุมให้ประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น นอกจากชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเหมือนที่ผ่านมา

สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น แม้ว่าตอนนี้นายกรัฐมนตรีจะทูลเกล้ารายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มองว่ายังคงมีเวลาที่จะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยภายในสัปดาห์หน้า กลุ่มผู้ชุมนุมจากเคลื่อนขบวนไปยังพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อขอให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือให้พรรครวมไทยสร้างชาตินั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการตอบกลับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด พบเพียงแต่การขัดกันเองภายในพรรค ตนจึงตั้งข้อสงสัยว่า ขนาด สส. และนักการเมืองภายในพรรคยังรวมตัวไม่ได้ ซึ่งย้อนแย้งกับชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นอย่างมาก

เมื่อสอบถามว่า หาก น.ส.แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยังคงเป็นแคนดิเดตที่อยู่ในพรรคร่วมต่อไป โดยเฉพาะนายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย นายพิชิตมองว่า ถ้านายกรัฐมนตรีคนใหม่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม รับฟังเสียงของประชาชนและนำเงื่อนไขข้อเรียกร้องของพวกเราไปปฏิบัติ เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ รวมทั้งปกป้องศีลธรรมอันดีของประชาชนจากการไม่ทำคาสิโนถูกกฎหมายหรือ Entertainment Complex ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ติดขัดอะไร แต่ถ้ายังคงนิ่งเฉยและไม่ฟังเงื่อนไขข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชน ก็จะยังคงยืนหยัดตาม 3 ข้อเรียกร้อง เพื่อขับไล่รัฐบาลต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

หนุ่มวัย 28 ถูกกลุ่มวัยรุ่นบุกฟันยับทั่วร่างกว่า 20 แผล คาที่นอนในพื้นที่บางพลี

11 นาทีที่แล้ว

โจรบุกเข้าไปขโมยถ่านของชาวบ้านวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจนในพื้นที่อุดรธานี

19 นาทีที่แล้ว

รบ.เตือนผู้ปกครอง “เด็กไทย” พบเป็นโรคอ้วน อันดับ 3 ของอาเซียน

43 นาทีที่แล้ว

อบจ.ระยอง-สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยองเปิดการแข่งขันกีฬาท้องถิ่น 'มหกรรมกีฬาระยองเกมส์ 2568

47 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม