ม็อบไปต่อ "จตุพร" ขวาใหม่ไล่ล่า "ทักษิณ" ยกระดับชุมนุมยืดเยื้อ โค่นชินวัตร
วันนี้ก็มาถึง จตุพร พลิกบทจากแดงทักษิณ ชูธงประชาธิปไตยจ๋า สวมวิญญาณขวาใหม่ ไล่รื้อระบอบชินวัตร
หนังม้วนเก่า ทักษิณขายหุ้น 7 หมื่นล้าน จุดไฟม็อบเสื้อเหลือง แพทองธาร เสียท่าคลิปลุง-หลาน ปลุกม็อบรวมพลังแผ่นดิน
กิจกรรมรวมพลังแผ่นดิน หรือม็อบรักชาติที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยกแรกจบไปแล้ว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย มีทั้งกองเขียร์ กองแช่ง
ไฮไลต์กิจกรรมรวมพลังแผ่นดิน อยู่ที่การขึ้นเวทีปราศรัยร่วมกันครั้งแรกของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ที่ปรึกษามูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และ “จตุพร พรหมพันธุ์” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน
ที่น่าสนใจ “เดอะตู่” จตุพร เป็น 1 ใน 40 แกนนำจัดกิจกรรมครั้งนี้ ที่ไม่ใช่คนหน้าเดิมของกลุ่มอนุรักษ์นิยม
จริงๆ แล้ว จตุพร และ “ทนายนกเขา” นิติธร ล้ำเหลือ ได้เคลื่อนไหวไล่รัฐบาลแพทองธาร หรือโค่นระบอบชินวัตร มาตั้งแต่ต้นปี 2568 แต่จุดม็อบไม่ติด
พลันที่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ตามมาด้วยคลิปเสียงสนทนาระหว่างแพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ที่มีเนื้อหาเหมือนยอมอ่อนข้อให้กัมพูชา และลดทอนเกียรติภูมิของกองทัพไทย
คลิปเสียงดังกล่าว กลายเป็นเชื้อไฟปลุกกระแสชาตินิยม และการไม่ยอมรับวุฒิภาวะการเป็นนายกฯ ของแพทองธาร จึงมีคนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก
คืนวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. 2568 จตุพรที่ขึ้นเวทีรวมพลังแผ่นดินเป็นคนสุดท้าย ได้ส่งสัญญาณนัดหมายการชุมนุมในครั้งต่อไป
“เราจะชุมนุมกันอีกเมื่อไหร่นั้น ถ้าศาลรัฐธรรมนูญสั่งแพทองธารยุติปฏิบัติหน้าที่แล้ว ยังไม่สํานึก และพร้อมจะทําชั่วต่อไป เราจะประกาศยกระดับไม่เรียกร้องลาออก ให้ถอนตัว แต่จะขับไล่สถานเดียว ไล่ทั้งเรือ ทั้งโจร ทั้งพายเลย”
เมื่อมวลชนเข้าร่วมมากมายขนาดนี้ แกนนำรวมพลังแผ่นดิน ย่อมไม่พลาดโอกาสทองที่จะเปิดเกมรุกไล่รัฐบาลแพทองธาร
ต่างขั้วหัวใจเดียวกัน
หลายคนคงจำภาพเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2568 สนธิ ลิ้มทองกุล ได้จัดเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียว” ที่หอประชุมศรีบูรพา ธรรมศาสตร์
วันนั้น สนธิ ได้เชิญ จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. ไปขึ้นเวทีเปิดแคมเปญระดมสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อทวงความถูกต้องให้คนไทย ให้ได้ 1 ล้านคน ภายในเวลา 3 ปี
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือกันของ สนธิ ลิ้มทองกุล ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จตุพร พรหมพันธุ์ และ “ทนายนกเขา” นิติธร ล้ำเหลือ
กว่าจะวันที่จตุพร โคจรมาพบกับสนธิ คงต้องย้อนไปช่วงการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ปลายปี 2563 เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ทักษิณ ชินวัตร ตัดขาดจตุพร เมื่ออดีตประธาน นปช.ไปหาเสียงช่วยฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย
จะว่าไปแล้ว จตุพรเริ่มเหินห่างจากทักษิณ ตั้งแต่จบภารกิจพรรคเพื่อชาติ ซึ่งจตุพรมาพูดในภายหลังว่า เขาถูกนายใหญ่หักหลัง
บนเส้นทางขวาใหม่
หลังจากนั้น จตุพรกลับไปหาเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ร่วมอุดมการณ์กันมาแต่ครั้งสมรภูมิท้องถนน เดือนพฤษภาคม 2535
ปี 2565 จตุพรจับมือกับ “ทนายนกเขา” ก่อรูปขบวนการใหม่ในนามคณะหลอมรวมประชาชน จัดกิจกรรมหยุด 8 ปีประยุทธ์ ก่อนจะเคลื่อนพลบุกทำเนียบรัฐบาล
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ความคิดความอ่านของจตุพร ก็ออกแนวอนุรักษ์นิยม และไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนสามนิ้ว ปมยกเลิก ม.112
สมัยเรียนรามคำแหง จตุพรเป็นนักศึกษาหัวก้าวหน้า ชูอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ เหมือนตอนที่มาเป็นแกน นปช.
ปัจจุบัน ทนายนกเขา และจตุพร ได้ส่งคนสนิท พิชิต ไชยมงคล และ นัสเซอร์ ยีหมะ ในนามเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) ร่วมกับกองทัพธรรมจัดการชุมนุมต้านระบอบชินวัตร ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล
จากนี้ไป ต้องรอฟังผลการประชุมของแกนนำรวมพลังแผ่นดินว่า จะยกระดับการไล่ล่าแพทองธาร ถึงขั้นชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่