รัสเซียเมินคำขู่ทรัมป์เรื่องยูเครน ขณะสหรัฐฯ เร่งส่งอาวุธหนุน
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
มอสโก/เคียฟ, 16 ก.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) เซอร์เกย์ รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ออกมาปฏิเสธการยื่นคำขาดจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ให้เวลา 50 วันในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน โดยรยาบคอฟระบุว่าการขู่เก็บภาษีในอัตราที่สูงต่อรัสเซียนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และย้ำว่ารัสเซียสนับสนุนการหาทางออกประเด็นความขัดแย้งยูเครนด้วยวิธีทางการทูต และพร้อมสำหรับการเจรจา
รยาบคอฟระบุว่าหากไม่ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสมและรัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายผ่านช่องทางทางการทูตได้ ปฏิบัติการพิเศษทางทหารจะยังคงดำเนินต่อไป พร้อมยืนยันว่าจุดยืนของรัสเซียจะไม่เปลี่ยนแปลง และหวังว่าสหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) จะรับฟังอย่างจริงจัง
ด้านทรัมป์ปฏิเสธคำกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าตนสนับสนุนให้ยูเครนโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย โดยชี้แจงว่าตนไม่ได้เลือกข้างในความขัดแย้ง พร้อมแนะนำว่ายูเครนไม่ควรโจมตีมอสโกด้วยอาวุธพิสัยไกล
เพียงหนึ่งวันก่อนการออกมาชี้แจงดังกล่าว ทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวว่าสหรัฐฯ จะส่งอาวุธให้ยูเครนผ่านกลไกของนาโตและขู่จะเก็บภาษีในอัตราสูงต่อรัสเซีย หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงภายใน 50 วัน โดยทรัมป์ระบุว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออต (Patriot) ชุดแรกอาจถึงยูเครนภายในไม่กี่วันนี้
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียได้ออกมาประณามการส่งอาวุธดังกล่าว โดยมองว่าเป็นหลักฐานชัดเจนว่าประเทศสมาชิกนาโตไม่มีความสนใจในสันติภาพ
ด้านฮาวเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ชี้แจงว่าคำพูดของทรัมป์เกี่ยวกับภาษีรอง (secondary tariffs) ร้อยละ 100 นั้นถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ขณะที่รัฐสภายูเครนมีมติเมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) ให้ขยายสถานะสงครามและการระดมพลทางทหารออกไปอีก 90 วันจนถึงวันที่ 5 พ.ย. พร้อมทั้งลงมติถอนตัวชั่วคราวจากอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นสนธิสัญญาสากลที่ห้ามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล