[Vision Exclusive] KJL ปลุกพลังโซล่าร์ อานิสงส์ลดภาษี 2 แสนล.
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - KJL ชิงธงผู้นำตลาดไฟฟ้า–โซลาร์! โชว์แกร่งรับดีมานด์โครงการรัฐเอกชน ดันกำลังผลิตพุ่งแตะ 40 ล้านชิ้น จากปัจจุบันที่ 3 ล้านบาทชิ้ย ด้านบอสใหญ่ "เกษมสันต์ สุจิวโรดม" สั่งลุยครึ่งปีหลัง 68 เต็มสูบ รับอานิสงส์นโยบายลดหย่อนภาษีติดโซลาร์รูฟ สูงสุด 2 แสนบาท ดันยอดขายพุ่ง! ลั่นรายได้ปีนี้โตตามเป้า 10–15% พร้อมปูทางสู่ยุคพลังงานสะอาดแบบยั่งยืน
นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยกับ 'ทีมข่าวหุ้นวิชั่น' ว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายตัวของภาคโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้า และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งผลบวกต่อธุรกิจของ KJL แม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังชะลอตัว และบางอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างรอดูทิศทางการลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินงานไปเน้นกลุ่มธุรกิจที่มีการขยายตัวชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มไฟฟ้าและพลังงานสะอาด รวมถึงโซลาร์รูฟท็อป (Rooftop Solar) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพสูง แทนการเน้นแข่งขันด้านราคา
ขณะเดียวกัน KJL ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกจากมาตรการของภาครัฐ โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบ้านที่ติดตั้งระบบโซลาร์ มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อหลัง สำหรับปีภาษี 2568 ซึ่งเงื่อนไขเบื้องต้นจะต้องเป็นโครงการติดตั้งโซลาร์บนที่อยู่อาศัย (Rooftop Solar) ที่ได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (DEDE) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องเป็นระบบที่เปิดใช้งานและสามารถผลิตไฟฟ้าได้จริง
“มาตรการนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้ตลาดโซลาร์ในภาคครัวเรือนเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อยอดจำหน่ายของ KJL อย่างชัดเจน เพราะปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดสูงถึง 90% ของรายได้รวม” นายเกษมสันต์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมในการรองรับการเติบโตดังกล่าว โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิต 33 ล้านชิ้นต่อปี และมีแผนขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านชิ้นต่อปีภายในสิ้นปี 2568 เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดด้านกำลังผลิต รองรับทั้งดีมานด์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และแนวโน้มการลงทุนในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ที่มีแนวโน้มขยายตัวในอนาคต ขณะที่งบลงทุนในช่วง 3 ปี อยู่ที่ 400 ล้านบาท โดยบริษัทจะทยอยใช้งบตามแผนงานในแต่ละระยะเวลา เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100–150 ล้านบาทต่อปี
สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเป้าการเติบโตไว้ที่ 10–15% และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision