“ทักษิณ” แนะดึงนักลงทุนต่างชาติแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 5.06 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทพญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” แนะดึงนักลงทุนต่างชาติแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เสริมตั้ง AMC แก้หนี้ ดันซอฟต์พาวเวอร์ลงทุนครัวเรือน เร่งลงทุน AI เพื่อการศึกษา สวน “อนุทิน” เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ยังไม่เกิด นักท่องเที่ยวจีนลดได้ไง เชื่อเจรจาภาษีทรัมป์โอกาสเปิดกว้าง
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในเวที “55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย Chapter 1” ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ถึงประเด็นปัญหาเศรษฐกิจในวันนี้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจหนัก รัฐบาลนี้เข้ามาต้องเผชิญกับภาวะหนี้ต่อจีดีพีสูงมาก รวมทั้งหนี้เอสเอ็มอี และหนี้ครัวเรือนก็สูงมาก ทำให้การลงทุนใหม่เกิดขึ้นยาก ดังนั้น การดึงเงินลงทุนในไทย อย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (UAE) สนใจลงทุนในประเทศ เช่น โครงการซูเปอร์กริด ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนพลังงานสะอาดที่จะควบคุมการรั่วไหลของไฟฟ้า และอยากให้มีการลงทุนในโครงการประเภทนี้ โดยโครงการนี้การไฟฟ้าของเรา ทั้งการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังไม่อยากทำ นอกจากนั้นยังมีการถมทะเลเอาเอกชนมาลงทุน ทำให้เกิดวงจรการก่อสร้างใหม่ๆ “ประเทศไทยต้องพัฒนาตัวเองต้องลงทุนมากๆ ดึงเอกชนเข้ามาช่วยลงทุน”
ทำไมของเราถึงพูดเรื่องซูเปอร์กริต แต่ไม่ดำเนินการทันที นายทักษิณ เผยว่า 1.ไม่มีเงิน ไม่อยากลงทุนมาก 2.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง ไม่อยากลงทุน ไม่อยากทำ เขาอาจจะยังไม่มีทางออก ต้องคุยกันว่าอย่างนี้จะเอาไหม
นายทักษิณ เผยอีกว่า ไทยต้องพัฒนาตัวเองต้องลงทุน ภาครัฐหรือภาคเอกชนมาลงทุน ต้องเตรียมตัว 2 ส่วน เรื่องทฤษฎีสร้างสรรค์ใช้ซอฟต์พาวเวอร์ขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ในสมัยนี้ยากขึ้น เพราะระบบราชการขับเคลื่อนยาก คนไทยมีฝีมือเราสามารถทำได้และนำไปสู่ตลาดโลก ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ส่วนอีกเรื่องคือ ai ระบบการศึกษาไทยแก้ช่วงข้ามคืนไม่ได้ แต่ ai เรียนลักได้เลย เราทำระบบอบรมโดยไม่มีครู ให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ช่วยทำ เราจะเปิดให้บริการฟรีไม่ได้ เพราะจะเสียเงินฟรี ระบบ ai ทำให้คนหูตากว้างขึ้น ฉลาดขึ้น มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น วันนี้ ai เข้ามาช่วยมนุษย์ แต่กำลังมาแทนมนุษย์ที่ไม่เอาไหน ไม่คิดจะปรับตัว ไม่คิดจะเรียนรู้ ซึ่งตนก็ได้มอบแนวทางและคำปรึกษาให้มาคุยกันว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ตนคุยเรื่องงบประมาณว่าจะทำได้แค่ไหน เทคโนโลยีและเศรษฐกิจสร้างสรรค์จะต้องทำพร้อมกัน
เมื่อถามถึงภาษีทรัมป์ ให้เลิกคบสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แล้วมาคบโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ใช่หรือไม่ นายทักษิณ เผยว่า ทรัมป์เป็นนักธุรกิจ วิธีการคือเหมือนบริษัทใหญ่ๆ ที่มีอำนาจต่อรองสูง ยื่นเงื่อนไขสูงสุดแต่ไม่ได้หมายความว่าจะจบ จะต้องต่อรองได้ “โยนให้ติดพุงแล้วค่อยคุย” จดหมายวันที่ 7 ก.ค. ออกมาจากทำเนียบขาว แต่เอกสารที่ต้องปรับปรุงรายละเอียดไม่พอก็ต้องนำกลับมาแล้วเราก็ใส่กลับไป แต่ไปถึงอีกหน่วยงานหนึ่งไม่ถึงทำเนียบขาว เราต้องเจรจาต่อ
เมื่อถามว่าเรายังมีห้วงเวลาในการเจรจาเหลือแค่วันที่ 1 สิงหาคมนั้น นายทักษิณ เผยว่า ไม่เป็นไรก็ทำเท่าที่ได้ ถ้าเราเร่งเจรจาและยอมทำทุกอย่าง เหมือนแก้ผ้าเราก็จะถูกชำเราฟรี ส่วนจะมีโอกาสแค่ไหนนั้น วันนี้เราส่งไปแล้วเราก็ต้องติดตามกันต่อไป วันนี้เราต้องหาทางถอย ให้ทุกอย่างก็ไม่ไหว ให้เท่าที่ไม่เสียหาย
อีกทั้งเราส่งออกไปสหรัฐ 3 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนที่หนึ่ง สินค้าที่บริษัทสหรัฐมาจ้างทำที่เมืองไทย ทำเองบ้างตั้งบริษัทเอง และส่งกลับไปที่สหรัฐ เราได้ค่าแรงค่าวัตถุดิบนิดหน่อย ถ้าส่วนนี้ต้นทุน 100 เขาจะต้องขายมากกว่า 136 ดังนั้น การจะย้ายฐานการผลิตบางอย่างย้ายยากมาก เพราะคนไทยทำมาหลาย 10 ปี กว่าจะกลับไปเทรน ต้องใช้เวลานาน เขาจึงไม่ไปต้องรับสภาพค่าใช้จ่าย
ส่วนที่สอง กลุ่มที่ชิ้นส่วนมาจากจีนประกอบในไทยและส่งไปขายสหรัฐ เป็นอีกหนึ่งในสามที่เราส่งออก สิ่งนี้เกินดุลสหรัฐ แต่ไปขาดดุลที่จีน หากส่วนนี้หายไปเราจะไม่เกินดุลที่สหรัฐ ไม่เดือดร้อน
ส่วนที่สาม สินค้าเกษตร เราจะเดือดร้อนถ้าเราจะปกป้องส่วนนี้ เราต้องดูว่าเราจะเปิดแต่ถูกกระทืบถึงที่ก็ไม่ได้ ต้องลงรายละเอียด และส่วนสามคือส่วนที่เราต้องปกป้อง เราจะยอมในสิ่งที่เป็นไปได้ เราต้องคิดว่าคุณขายสินค้าให้เราเราเก็บภาษีแต่คุณขายบริการกับเรา เราไม่เก็บภาษี แพลตฟอร์มต่างๆ ก็ไม่มีการเก็บภาษี เพราะไม่คุ้ม Streaming จึงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ภาษีเท่าไร “ยักษ์เล็กสู้ยักษ์ใหญ่ไม่ เราไม่สู้ แต่เราขอความยุติธรรม เราเสียทุกอย่างคุณก็เสียบ้างสิ แค่นั้นเอง”
สำหรับปัจจัยหนึ่งที่การเจรจาหลายๆ ประเทศไม่สำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องของ Geometric ด้วยหรือไม่ เพราะสิ่งที่เขาอยากเห็นว่าเรามีระยะห่างกับจีนแค่ไหนถึงจะได้ลดภาษี เราจะบริหารอย่างไร นายทักษิณ ย้ำว่า อย่าตกใจ ถ้าตกใจจะขาดสติ จะทำให้เรายอม ใจเย็นๆ เราเลือกเท่าที่ทำได้ เขาขอบางอย่างที่ไม่ได้เกี่ยวกับเศรษฐกิจแต่เกี่ยวกับความมั่นคง เราต้องคิดว่าขอแบบนี้นำสงครามมาบ้านเราก็ไม่เอา ตนกลัวจะเป็นยูเครนไม่เอา
ส่วนมีการมาขอใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาหรือไม่ ตนไม่อยากขอพูดรายละเอียด แต่เราต้องดูทุกมิติ คนไทยอย่าพึ่งสรุป อย่าพึ่งตกใจ ตนยังอยู่ ตนไม่โง่ 76 ยังไม่โง่
เมื่อถามว่าสิ่งที่เราเจรจา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ เดินมาถูกทางใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่เต็มที่ ยังสามารถปรับได้ สุดสัปดาห์นี้จะมีการพูดคุยกัน จะมีการลงรายละเอียดว่าจะเอาอย่างไรในแต่ละอย่าง
สำหรับภาษีทรัมป์เรายังมีเวลาหาจุดยืน โดยไม่เสียเปรียบและไม่นำภัยมาสู่ประเทศไทย ภาพรวมของเศรษฐกิจตอนนี้มีการพูดว่า Logo Image เพื่อไทยคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ออกนโยบายและทำสัมฤทธิ์ผล แต่ตอนนี้สองปีรัฐบาลเพื่อไทยเป็นแกนนำในการบริหาร นับวันยิ่งถดถอย การทำมาหากินด้อยโอกาสลง จะแก้ไขอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องเห็นใจเราหน่อย เลือกคนมาน้อยไปก็ต้องเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ต้องใช้เวลาพูดคุยขอร้อง ไม่ง่าย ทั้งข้าราชการ การแบ่งกระทรวงแยกเยอะแยะไปหมด ไม่ใช่เรื่องง่าย เจอปัญหารอบด้าน อย่างการท่องเที่ยวที่หายไปนั้น เพราะบางเว็บไซต์ยิงข่าวว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย ดาราจีนที่ถูกหลอกไปคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเมียนมา
แต่ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ว่าเหตุผลสำคัญที่จีนหายไป 70-90% เนื่องจากเรามีนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และรัฐบาลจีนเตือนมาสองถึงสามครั้ง นายอนุทิน ก็อยู่ในเหตุการณ์ ข้อเท็จจริงใช่หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า ข้อเท็จจริงคือตรงกันนโยบายพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เอาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ความจริงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ยังไม่เกิด จะมีผลอะไรกับการท่องเที่ยว เป็นเพราะเรื่องระบบความไม่ปลอดภัย ตนกำลังเร่งเต็มที่ให้ทำ สมาร์ทซิตี้ มีเมื่อไรตนจะอินชัวร์นักท่องเที่ยว มีกล้องซีซีทีวีติดไปหมด ควรจะปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องคอลเซ็นเตอร์และการหลอกลวง เราเอาตาย
วันนี้คอลเซ็นเตอร์ใหญ่คนจีนที่ทำอยู่เมืองไทย ตนพึ่งมารู้ว่าเขาเป็นตัวใหญ่ เป็นคนจีน อพาร์ตเมนต์หลังละ 1,000 ล้าน มีสามคน 3,000 ล้าน กำลังรวบรวมอยู่ และอยู่ในกรุงเทพมหานคร
ส่วนรัฐบาลนี้อยู่ครบเทอม 2 ปี นโยบายเศรษฐกิจอะไรที่ต้องขับเคลื่อนต่อ นายทักษิณ เผยว่า สิ่งที่ขับเคลื่อนที่สุดคือต้องจัดการเรื่องหนี้ภาคประชาชน ความลำบากในวันนี้คือปัญหา หนี้ ต้องตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ของภาคประชาชน ตนพยายามเสนอแต่ไม่ได้ขายในตอนนี้ ให้ถามปลัดกระทรวงการคลัง เห็นแบบเดียวกันใช่หรือไม่ บางครั้งตนก็ลำบากที่ไม่สามารถวิ่งไปพบคนนั้นคนนี้ได้ ตนได้แต่โทรศัพท์ ทำได้ไม่มาก
ส่วนใช้องค์กรไหนบริหารนั้น ต้องตั้งมาเอง อย่าไปฝากที่อื่น ไม่ฝากที่สถาบันการเงิน เพราะเป็นคนละพันธุ์นั้นเป็นพันธุ์ธุรกิจ ส่วนเห็นด้วยหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา เราก็ทำในส่วนของเรา
การใช้ AMC ซอฟต์พาวเวอร์ ทำให้ถึงครัวเรือนหมายถึงต้องหาความชำนาญในทุกครัวเรือนให้สร้างรายได้ใหม่ วันนี้ตนภูมิใจที่เด็กไทยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องศัลยกรรม เอามาเดินแฟชั่น เราต้องการสวยแบบไทย
เมื่อถามย้ำว่าลูกสาวมาขับเครื่องซอฟต์พาวเวอร์เต็มตัวได้ผลหรือไม่ นายทักษิณ รับปากว่า แน่นอนครับ ต้องได้ผล พ่อช่วยอยู่ พ่อช่วยทุกเรื่องเป็นการช่วยประเทศ ไม่ใช่ช่วยลูกสาว.-313-สำนักข่าวไทย