A Better Life สไตล์ ปราปต์ บุนปาน Thailand Healthcare 2025 สร้าง ‘พลเมืองคุณภาพ’ เชิงสุขภาพ เพื่อคุณภาพประเทศ

A Better Life สไตล์ ปราปต์ บุนปาน
Thailand Healthcare 2025
สร้าง ‘พลเมืองคุณภาพ’ เชิงสุขภาพ เพื่อคุณภาพประเทศ

“ชีวิตที่มีสุขภาวะที่ดี ดูแลตัวเองได้เพื่อออกไปทำประโยชน์ให้สังคมและประเทศ”

คือนิยามของ A Better Life ในมุมมองของ ปราปต์ บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)

และคำเดียวกันนี้ คือธีมหลักของงาน Thailand Healthcare 2025 ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายนนี้ ปักหมุด ณ จุดเดิม สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ใจกลางกรุง

จัดมาแล้วเป็นครั้งที่ 17 จนกลายเป็นภาพจำจากคำคุ้นเคย ‘มติชนเฮลท์แคร์’ ก่อนพัฒนาสู่แฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยคุณภาพจัดเต็ม พร้อม ‘สร้างสุขทุกช่วงวัย’

เอ็มดีมติชน ย้ำชัดถึงการความสำคัญของสุขภาพ ทั้งกาย-ใจ ในทุกเจเนอเรชั่น พร้อมชี้เป้ายุทธศาสตร์การรับมือ กับโรคภัยไข้เจ็บอย่างรู้ทัน เชิญชวนรับบริการตรวจสุขภาพฟรีที่ดีที่สุด โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ภายในแบ่งเป็น 4 โซน เข้มข้นทุกตารางเมตร ได้แก่ Health Check, Health Talks, Health Market, เวิร์กช็อปงานคราฟต์ Health Workshop

“งาน Thailand Healthcare 2025 ยังคงคอนเซ็ปต์หลักเดิม คือ การตรวจสุขภาพฟรี ซึ่งยังทำอยู่และทำเยอะกว่าเดิม ครอบคลุมกว่าเดิม เพื่อให้บริการคนได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ต่อยอดจากรูปแบบหลักของการจัดงานเดิม แต่ขนาดใหญ่ขึ้นแน่ๆ

สำหรับโซน Health Check เราแบ่งเป็น 3 เมือง คือ เมืองสุขภาพ ให้เช็กสุขภาพฟรีโดยโรงพยาบาลชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน, เมืองสาธารณสุข ให้คำปรึกษาและตรวจสุขภาพฟรีโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข,

เมือง 30 บาทรักษาทุกที่ จาก สปสช. และยังมีรถทันตกรรมเคลื่อนที่ บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ 7 กลุ่มเสี่ยง นวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ โปรแกรมตรวจสุขภาพเบื้องต้น ของโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ด้วย” ปราปต์ กล่าว

ก่อนเปิดลิสต์อีกยาวๆ ถึง 2 จุดตรวจพิเศษ ตา-ฟัน ซึ่ง โรงพยาบาลบ้านแพ้ว จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่เต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในงานนี้ ให้ผู้เข้าร่วมเช็กสุขภาพตา ปอด หัวใจ ความแข็งตัวของหลอดเลือดแดง (ABI) นวัตกรรม AI ตรวจคัดกรองมะเร็งปอด

ไม่เพียงเท่านั้น คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ร่วมแจมออกหน่วยให้บริการทันตกรรม ไหนจะรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ มะเร็ง-ปอด-ฟัน ประกอบด้วย มูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้บริการรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์คัดกรองมะเร็งเต้านม

นอกจากนี้ยังมีพาร์ตเนอร์ อย่าง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือ ‘เอ็มเทค’ ซึ่งนำเสนอเกี่ยวกับเทคโนโลยีการดูแลผู้สูงวัยในบ้านอีกด้วย

แค่อ่านแล้วจินตนาการถึงความละลานตาของ 30 โรงพยาบาล 60 รายการตรวจรักษา ก็คุ้มค่าอย่างยิ่ง ครอบคลุมกลุ่มโรคต่างๆ เช่น กลุ่มโรคกล้ามเนื้อและระบบประสาท กลุ่มแพทย์ทางเลือก กลุ่มโรคหูและการได้ยิน กลุ่มสุขภาพเด็ก, กลุ่มโรคหัวใจ / ตับ / ไต, กลุ่มโรคกระดูกและข้อ, กลุ่มโรคหลอดเลือด, กลุ่มทันตกรรม, กลุ่มโรคสมอง, กลุ่มโรคมะเร็ง, โรคตา, การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

ขีดเส้นใต้ 2 เส้น พร้อมไฮไลต์ด้วยปากกาเมจิกสะท้อนแสงด้วยว่า เป็นงานแรกและงานเดียวที่มีโรงพยาบาลชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานมากที่สุด

อ้าแขนรับคนรักสุขภาพตั้งแต่ ‘เบบี้บูมเมอร์’ จนถึง ‘อัลฟ่า’ จูงมือกันมาได้เลย 4 วันเต็ม 4,000 คน

ปรับมุมมอง ‘ต้องใส่ใจคนทุกกลุ่ม’
‘พัฒนาพลเมือง’ ผ่านสุขภาวะ

ฉายหนังจอกว้างถึงภาพรวมของงานไปแล้ว ได้จังหวะกลับมาโฟกัสถึงธีมงาน A Better life สร้างสุขทุกช่วงวัย ดังที่ ‘เอ็มดีมติชน’ เอ่ยไว้ในบรรทัดแรก

แน่นอนว่า สุขภาพไม่ใช่แค่เรื่องของผู้สูงวัย แต่ละเจเนอเรชั่น แต่ละเพศ แต่ละเจนเดอร์ (เพศสภาพ) มีปัญหาสุขภาพเป็นของตัวเอง สูงวัย ไขข้อ เอ็กซ์-วาย ออฟฟิศซินโดรม วัยว้าวุ่น ต้องฮีลใจ Thailand Healthcare 2025 จึงคัดสรร จัดกิจกรรมและเนื้อหาให้รองรับอย่างครบถ้วนไม่หลุดธีม

“เมื่อไม่กี่ปีก่อน เราโฟกัสที่ผู้สูงอายุ เพราะสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ปีนี้เราปรับมุมมองว่าจริงๆ แล้วถ้าอยากพัฒนาพลเมืองผ่านการทำให้เขามีสุขภาวะที่ดี มันต้องใส่ใจคนทุกกลุ่ม แม้กลุ่มหลักที่เข้าร่วมงานคือผู้สูงอายุ แต่เราไม่ละเลยวัยเรียนและวัยทำงาน จึงมีบริการซึ่งเหมาะกับคนกลุ่มนี้ ทั้งเรื่องของออฟฟิศซินโดรม โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่างความดัน หัวใจ

เมื่อมีชีวิตที่ดีแล้ว สำหรับวัยเรียนและวัยทำงาน เขาจะได้มีโอกาส มีเวลาทำในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มความสามารถ ส่วนคนสูงอายุ รัฐต้องใช้เงินภาษีในการดูแล งานนี้จะมาช่วยให้เขาดูแลตัวเองในช่วงปัจฉิมวัยได้อย่างมีคุณภาพ” ปราปต์ กล่าว

‘ถมช่องว่าง’ ขยายโอกาส
‘ใครใส่ใจสุขภาพ เดินมาได้เลย’

นอกจากนี้ เอ็มดีมติชน ยังเผยมุมมองที่ได้รับฟังจากรอบด้าน ว่าทุกฝ่ายเห็นตรงกันถึงการที่ Thailand Healthcare เข้าไปถมช่องว่างบางอย่าง

“ระบบสุขภาพในกรุงเทพฯ เรามีโรงพยาบาลเอกชน ใหญ่ๆ คุณภาพสูงเยอะ เรามีโรงพยาบาลของโรงเรียนแพทย์เต็มไปหมด แต่ถามว่าการเข้าถึงบริการง่ายไหม ไม่ง่าย ช่วงโควิดเห็นภาพชัดว่า ชุมชนต่างจังหวัดจัดการปัญหา หรือลดทอนความสูญเสียได้ดีกว่าชุมชนเมือง

เพราะฉะนั้นผมยังรู้สึกว่า คนในเมืองไม่ได้เข้าถึงบริการสาธารณสุข ทั้งๆ ที่บริการสาธารณสุขในกรุงเทพฯ มีคุณภาพสูง แต่เขาไม่ได้เข้าถึงทุกกลุ่ม บริการบางอย่างราคาแพง บางอย่างต้องรอคิวตั้งแต่เช้าจนบ่าย กรุงเทพมหานคร ก็พยายามสร้างโรงพยาบาลเอง

Thailand Healthcare มาช่วยขยับขยายโอกาสตรงนี้ฟรี ใครใส่ใจสุขภาพตัวเอง ให้เดินมาได้เลย นี่เป็นโอกาสให้ตรวจเช็กตัวเองว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง ถ้ามีปัญหาก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการรักษา หรือการป้องกันโรค เช่น บริการฉีดวัคซีน”

อยากเน้นย้ำว่า จริงๆ แล้ว Thailand Healthcare มีจุดนี้มาตลอด แต่หลายคนอาจนึกไม่ถึง เราไม่ได้แค่ช่วยให้คนได้ตรวจสุขภาพฟรี แต่ยังสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพในเชิงสุขภาพ” ปราปต์กล่าวหนักแน่น

เปิดพื้นที่ใหม่ เซสชั่น ‘ฮีลใจ’
ทอล์กสุขภาพจิต ในวันที่ต้องการคนรับฟัง

ถามถึงความพิเศษของงานในปีนี้ ปราปต์เผยว่า มีการเพิ่มเซสชั่น ‘ฮีลใจ’ ขึ้นมาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เพื่อตอบสนองกลุ่มวัยรุ่นและวันทำงานที่ต้องการคนรับฟัง แลกเปลี่ยน

“การออกแบบกิจกรรมคราวนี้ เราคิดถึงคนทุกกลุ่ม พยายามออกแบบให้ยึดโยงคนมากกว่าหนึ่งกลุ่ม จึงมีโปรเจ็กต์ใหม่ คือ เซสชั่น ทอล์กเกี่ยวกับสุขภาพจิต ที่เราเรียกว่า เฮลธ์ ฮีลลิ่ง มาแลกเปลี่ยนความเห็น และประสบการณ์กับคนเข้าร่วมงาน ระยะหลัง เวลาคนพูดเรื่องสุขภาพ ไม่ได้สนใจแค่สุขภาพกายแล้ว โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ หันมาสนใจสุขภาพจิต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีสุขภาวะที่ดีด้วย อันนี้เป็นสิ่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้”

ว่าแล้ว ก็ชวนเกาะเวทีทอล์กดูแลใจ @ฮีลลิ่ง เธียเตอร์ รอเจอ เขื่อน ภัทรดนัย ศิลปินชื่อดังแห่งวง K-Otic ที่ผันตัวเป็นนักจิตบำบัด อีกทั้ง ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ บรรณาธิการและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘อะไรเอ่ย’ และสิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม เจ้าของบริษัท Creative Agency ชื่อดัง

ถามว่า ในบรรดาโซนต่างๆ อีกทั้งโปรแกรมแน่นเอี้ยด หากเอ็มดีมติชนมาในฐานะประชาชนท่านหนึ่ง สนใจวาร์ปไปพิกัดไหน

“ผมว่า ฮีลใจ ก็น่าสนใจ อยากรู้เหมือนกันว่าพอเพิ่มเซสชั่นนี้มา คนพูดหรือคนฟังเขาจะสื่อสารอะไรกัน ผมจะได้ประเมินถูกว่าปีต่อๆ ไป ถ้าเราอยากมีเซสชั่นนี้อีก จะต้องพัฒนามันไปสู่จุดไหน เพราะนี่คือการทดลองเปิดพื้นที่ใหม่ ในแง่ของคนจัดก็อยากเข้าไปสัมผัส เข้าไปฟัง เพื่อดูว่าเรามาถูกทางหรือยัง และจะไปอย่างไรต่อ

เรามักบอกว่า มาใส่ใจสุขภาพจิตกันเถอะ แต่อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีปัญหา หรือเรื่องอะไรที่เขาอยากใส่ใจในเชิงรายละเอียด ถามว่าจะแอบไปนั่งฟังไหม ผมว่าอาจจะต้องมี (ยิ้ม)”

ยืนหยัด ‘บทบาทสื่อ’ เปิดเสวนาเข้ม
เติมความรู้ ชู ‘ข้อเท็จจริง’ ทางการแพทย์

ย้อนไปเมื่อครั้งให้สัมภาษณ์ครั้งแรกบนเก้าอี้เอ็มดี ปราปต์เคยเอ่ยว่า อีเวนต์ต่างๆ นับจากนี้ ต้องทำในฐานะ ‘สื่อมวลชน’ นำมาสู่คำถามที่ว่า Thailand Healthcare 2025 มีจุดยึดโยงใด?

“สื่อมวลชน ความหมายเดิมคือการนำเสนอข่าวสาร แต่จริงๆ แล้วมันก็มีฟังก์ชั่นที่มาประกอบกัน คือการให้บริการประชาชน ซึ่ง Thailand Healthcare ก็ตรงกับคอนเซ็ปต์นี้อยู่ โดยเริ่มจากให้ข้อมูลข่าวสาร พอเริ่มพัฒนาเป็นการจัดอีเวนต์ สิ่งที่เราทำและนำเสนอกันมานาน คือนี่เป็นอีเวนต์บริการสาธารณสุขฟรีให้กับคนที่อยู่ในสังคมเมือง เพราะฉะนั้น จึงเป็นงานบริการสาธารณะอีกรูปแบบหนึ่ง” ปราปต์เคลียร์คัตชัดเจน

สอดคล้องโปรแกรมเสวนาที่นำเสนอข้อมูลอย่างเข้มข้น นักข่าวในเครือมติชนจดประเด็นเน้นๆ รายงานข่าวแน่นๆ ทุกเวที ทุกวาทะ กระจายข่าวสารความรู้เพื่อประโยชน์ต่อสังคมเป็นประจำทุกปี

สำหรับปีนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับประเทศให้เกียรติร่วมเวทีโดยมี 8 ไฮไลต์เด่น อาทิ ทรงตัวให้ไหว หยุดภัยโรคบ้านหมุน โดย พญ.เกศริน กิตติวรรณวงศ์ แพทย์ชำนาญการ โรคหู โสต ประสาท การได้ยิน และการทรงตัว โรงพยาบาลกรุงเทพ ดุสิต เวชการ จำกัด (มหาชน) พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ ‘แมว-จิรศักดิ์ ปานพุ่ม’

โรคหลอดเลือดสมองกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โดย นพ.ชาญพงค์ ตังคณะกุล ผู้อำนวยการศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชันแนล, ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน Coronary Heart โดย นพ.คมปิยะ กนกพัชรกุล อายุรแพทย์ โรคหัวใจ รพ.หัวใจบ้านแพ้ว

สวยไม่เสี่ยง ย้อนวัยแบบไหนปลอดภัยที่สุด โดย นพ.ฉัตรพล คงเฟื่องฟุ้ง ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง แพทย์ผู้บริหาร คลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ไอดีแอล และโรคหลอดเลือดสมอง อันตรายเงียบที่คุณต้องรู้ โดย รศ.นท.ดร.นพ.สรยุทธ ชำนาญเวช สาขาวิชาประสาทศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น

‘ผมว่าเราต้องสร้างสมดุล’ เคล็ดไม่ลับฉบับเอ็มดี

ครั้นกระซิบถามดังๆ ว่า ในฐานะผู้บริหารระดับสูงของสื่อหลัก ดูแลสุขภาพกาย-ใจอย่างไรให้พร้อมลุยงาน ปราปต์ยอมรับว่า ปฏิทินชีวิตเดินมาถึงวัยที่ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น อาหารการกินก็ต้องให้ความสำคัญ แต่ไม่ถึงขนาดกินคลีน

“เราอยู่ในช่วงวัยที่รู้แล้วว่ากินของมัน ไม่ดี สุขภาพมันเริ่มบอกแล้วว่าดื่มแอลกอฮอล์เยอะไป มันก็ไม่ดี พอเข้าสู่เลข 4 ชัดเจนว่าถ้าอยากมีชีวิตที่ดี ต้องเริ่มใส่ใจตัวเอง พออายุเยอะขึ้น ค่าเลือดไม่ได้ปกติตลอด

ผมออกกำลังกายบ้าง อาจไม่ได้ออกหนัก ไม่ใช่สายฟิตเนสอะไรขนาดนั้น แต่ต้องเคลื่อนไหว มีกิจกรรมอะไรบางอย่างในแต่ละสัปดาห์ ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ถ้าอยากอยู่ดึก อย่างต่ำๆ ต้องมีเวลานอนให้มากพอ”

ถามต่อไปอีกถึงสุขภาพใจ ในฐานะที่แย้มว่าอาจแวะไปเกาะเวทีทอล์กดูแลใจ @ฮีลลิ่ง เธียเตอร์

ก่อนและหลังก้าวสู่ตำแหน่งเอ็มดี มีปัญหาตึงคอ บ่า ไหล่ สไตล์ชาวออฟฟิศ หรือปัญหาความเครียดบ้างหรือไม่?

“ดูจากผลตรวจ ยังไม่ชัด (หัวเราะ) พอมีภาระมากขึ้น ก็ต้องระวังเรื่องความเครียดของตัวเองมากขึ้นโดยอัตโนมัติ การใช้ชีวิตผมว่าเราต้องพยายามสร้างความสมดุลให้ดี” ปราปต์ทิ้งท้าย

ทั้งหมดนี้สะท้อนมุมมองชัดในบทบาทสื่อที่พร้อมร่วมสร้างพลเมืองคุณภาพ (ผ่านสุขภาวะ) เพื่อคุณภาพประเทศ สมดังสโลแกน ‘มติชน’ หนังสือพิมพ์คุณภาพ เพื่อคุณภาพประเทศ เฉกเช่นเดียวกัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : A Better Life สไตล์ ปราปต์ บุนปาน Thailand Healthcare 2025 สร้าง ‘พลเมืองคุณภาพ’ เชิงสุขภาพ เพื่อคุณภาพประเทศ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th