Nasdaq +0.97% ทำจุดสูงสุดใหม่ Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยมากขึ้น
#หุ้นสหรัฐ #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส
.
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (DJIA +0.94%, S&P500 +0.80%, Nasdaq +0.97%) เนื่องจากตลาดขานรับความน่าจะเป็นที่ Fed มีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น หลังรายงานตัวเลข GDP เศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอ อีกทั้งตลาดได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Netflix +2.46%, Meta Platforms +2.46% และ Amazon +2.42% ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
.
GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 1 ปี 2025 (ทบทวนรอบที่สาม) -0.5% Annualized QoQ ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ -0.2% และรายงานครั้งก่อนที่ -0.2%) ด้านตัวเลข Initial Jobless Claims สัปดาห์สิ้นสุด 21 มิ.ย. ออกมาอยู่ที่ 2.36 แสนราย (ตลาดคาดที่ 2.43 แสนราย vs. สัปดาห์ก่อนที่ 2.46 แสนราย) ทั้งนี้ หลังรายงานตัวเลข GDP ส่งผลให้ตลาดประเมินน้ำหนักเพิ่มขึ้น (21% จาก 13% สัปดาห์ก่อน) ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bps สู่ระดับ 4.25%-4.50% ในการประชุมเดือน ก.ค.
.
นอกจากนี้ การแสดงความเห็นล่าสุดของประธาน Fed ซานฟรานซิสโกที่กล่าวว่า ผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรที่ลดน้อยลงอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ขณะที่ประธาน Fed สาขาบอสตันกล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
.
Howard Lutnick รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg Television โดยระบุว่า ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ได้มีการหารือ ณ กรุงเจนีวา เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้มีการลงนามและรับรองเรียบร้อยแล้วเมื่อสองวันก่อน แต่ Lutnick ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดในข้อตกลงให้สื่อทราบ
.
Wall Street Journal รายงานว่า สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาปรับลดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเพื่อให้บรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกับประธานาธิบดี Donald Trump อย่างรวดเร็ว และหลีกเลี่ยงอัตราภาษีที่มีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 50% ซึ่งการเจรจาในครั้งนี้รวมถึงการซื้อสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มเติม เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และการขอสิทธิยกเว้นเฉพาะสินค้าบางประเภท อาทิ รถยนต์ เหล็ก และสารเคมี โดยมีหลายประเทศในสหภาพยุโรป นำโดยเยอรมนีและอิตาลี กำลังผลักดันให้มีข้อตกลงระยะสั้นก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.
.
Meta (META US) ดึง 3 นักวิจัย OpenAI เสริมทัพ AI หลังโมเดลล่าสุดเปิดตัวได้ไม่ดีนัก ซึ่งZuckerberg เดินหน้าทุ่มสูงสุด $100 ล้านต่อราย โดย Meta เร่งเครื่องโปรเจกต์ “Superintelligence” ด้วยการดึงตัว 3 นักวิจัย AI ระดับท็อปจาก OpenAI สำนักงาน Zurich ได้แก่ Lucas Beyer, Alexander Kolesnikov และ Xiaohua Zhai ซึ่งเคยร่วมงานกันมาก่อนที่ Google DeepMind โดยการย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Zuckerberg เข้าไปควบคุมการสรรหาด้วยตัวเองในเดือนเมษายน หลังโมเดล AI ล่าสุดของ Meta เปิดตัวได้ไม่ดีนัก(รายละเอียดเพิ่มเติมใน Stock Highlight)
.
Palantir (PLTR US) +0.94%หลังบริษัทประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ The Nuclear Company มูลค่าราว $100 ล้านเพื่อพัฒนาระบบ NOS (Nuclear Operating System) ซึ่งใช้ AI และ Real-time data ช่วยเร่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโครงการนี้จะได้รับทุนสนับสนุนเต็มจำนวนจากฝั่ง The Nuclear Company ตลอดหลายปีข้างหน้า (รายละเอียดเพิ่มเติมใน Stock Highlight)
.
- ASML (ASML NA) -2.10% และ ASM International (ASM NA) -0.63% หลังจาก Jefferiesปรับลดคำแนะนำจาก "ซื้อ" เหลือเพียง "ถือ" โดยให้เหตุผลว่าภาคการลงทุนของผู้ผลิตชิปโดยเฉพาะกลุ่มที่ผลิตหน่วยความจำความเร็วสูงอาจชะลอตัวในช่วงสองปีข้างหน้า Janardan Menon นักวิเคราะห์จาก Jefferies ประเมินว่าตลาดอุปกรณ์การผลิตชิปโดยรวมอาจหดตัวลงราว 1% ในปีหน้า สวนทางกับความคาดหวังของตลาดที่เดิมมองว่าจะเติบโตระดับเลขสองหลัก โดยชี้ว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Jefferies กลับมาระวังมากขึ้น คือแนวโน้มการลดงบลงทุนธุรกิจ DRAM ในปี 2026 ซึ่งส่งผลต่ออุปสงค์ของอุปกรณ์ผลิตชิปโดยตรง นอกจากนี้ ยังมองว่าการขยายการลงทุนของศูนย์ข้อมูล AI กำลังเริ่มชะลอลงเช่นกัน ขณะที่ความล่าช้าในการที่ Samsung ได้รับการรับรองให้เป็นซัพพลายเออร์ HBM3E ให้แก่ Nvidia ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้แก่ตลาด (รายละเอียดเพิ่มเติมใน Stock Highlight)
.
- Xiaomi (1810 HK) เปิดตัว YU7 SUV รุ่นใหม่ แข่งขันโดยตรงกับ Tesla Model Y พร้อมยอดจองทะลุ 200,000 คันใน 3 นาที ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้น 253,500 หยวน (ประมาณ $35,360) ในการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ Lei Jun ผู้ก่อตั้ง Xiaomi เปิดฉากเปรียบเทียบ YU7 กับ Tesla Model Y แบบชัดเจน เช่นเดียวกับที่เคยเปรียบ Mi Phone กับ iPhone มาก่อนหน้านี้ โดยราคาของ YU7ถือว่าอยู่ในระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และต่ำกว่ารุ่นใหม่ของ Model Y ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 263,500 หยวน สำหรับคู่แข่งจากจีนอย่าง BYD Tang L SUV ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า YU7 เล็กน้อย ตั้งราคาไว้ระหว่าง 239,800 ถึง 289,800 หยวน นอกจากรถยนต์ ในงานยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อื่น ๆ ของ Xiaomi เช่น แว่นตา AI ราคา 1,999 หยวน ที่สามารถถ่ายวิดีโอและตอบคำถามจากภาพได้, โทรศัพท์พับได้รุ่น MIX Flip 2 และแท็บเล็ตที่ใช้ชิป Xring O1 ซึ่งพัฒนาโดยทีมของ Xiaomi เอง
.
- ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงแนะนำเก็งกำไรอย่างระมัดระวังต่อหุ้น Xiaomi โดยประเมินว่าบริษัทอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่มีพัฒนาการเชิงบวก ทั้งในแง่ของการยกระดับเทคโนโลยี การขยายเข้าสู่ธุรกิจ EV และการเติบโตของกลุ่ม IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในโครงสร้างรายได้ โดยแม้ราคาหุ้นในระยะสั้นจะปรับขึ้นมามากและ Valuation อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอดีต แต่หากธุรกิจใหม่อย่าง EV สามารถทยอยสร้างผลตอบแทนได้ตามแผน จะช่วยหนุนมูลค่าหุ้นในระยะกลางถึงยาว(รายละเอียดเพิ่มเติมใน Stock Highlight)
.
- หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวลงแรงนำโดย Geely Auto (175 HK) -4.88%, BYD (1211 HK) -3.23%, Xpeng (9868 HK) -3.01%, และ NIO (9866 HK) -1.45% หลัง BYD ได้ลดกะกลางคืนในบางโรงงานทั่วประเทศจีน และชะลอแผนเพิ่มสายการผลิตใหม่ ซึ่งส่งผลให้กำลังการผลิตของโรงงานอย่างน้อย 4 แห่ง ลดลงราว 1 ใน 3เนื่องจากต้องการที่จะลดต้นทุนและบริษัทไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม BYD ยังสามารถทำสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์สูงสุดตลอดกาลในสัปดาห์ที่ 25 ของปีนี้ (16–22 มิ.ย.) โดยมียอดจดทะเบียน 83,400 คัน เพิ่มขึ้น 18.6% WoW และเพิ่มขึ้น 24.85% YoY ตามลำดับ
.
- ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ของ สหรัฐฯ ได้แก่ PCE Price Indexเดือน พ.ค. (ตลาดคาด +2.3% YoY vs. เดือนก่อน +2.1%) และ U. of Mich. Sentiment เดือนมิ.ย. (ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ระดับ 60.5 จุด) ด้านญี่ปุ่น มีรายงาน Tokyo CPI เดือน มิ.ย. (ตลาดคาด 3.3% vs. เดือนก่อน 3.4%)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้