ทรัมป์ชี้ รัสเซีย-ยูเครน ต้องยอมสละดินแดน ยุโรปหวั่น มะกันตั้งเงื่อนไขไม่เป็นธรรม
ทรัมป์ชี้ รัสเซีย-ยูเครน ต้องยอมสละดินแดน ยุโรปหวั่น มะกันตั้งเงื่อนไขไม่เป็นธรรม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมว่า ยูเครนและรัสเซียจะต้องยอมสละดินแดนบางส่วนเพื่อยุติสงครามในยูเครน และการเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ จะทำให้ทราบทันทีว่าผู้นำรัสเซียยินดีจะทำข้อตกลงหรือไม่
ขณะที่ผู้นำยุโรปและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน วางแผนจะพูดคุยกับทรัมป์ก่อนการประชุมสุดยอดกับปูติน ที่จะจัดขึ้นในอลาสกาในวันศุกร์นี้ ท่ามกลางความกังวลว่าวอชิงตันอาจกำหนดเงื่อนไขสันติภาพที่ไม่เป็นธรรมต่อยูเครน
แม้ทรัมป์จะแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อมอสโกมากขึ้น ด้วยการอนุญาตให้มีการส่งอาวุธของสหรัฐไปยังยูเครนเพิ่มเติม พร้อมกับขู่จะเก็บภาษีกับผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มขึ้น แต่ยุโรปยังคงกังวลว่าทรัมป์อาจทำข้อตกลงที่บังคับให้เคียฟต้องยอมเสียเปรียบครั้งใหญ่
เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้หารือกับนายมาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา เมื่อวันจันทร์ และทั้งคู่ต่างสนับสนุนความพยายามทางการทูตเพื่อสร้างสันติภาพ และเห็นพ้องกันว่าต้องสร้างสันติภาพร่วมกับยูเครน ไม่ใช่ยัดเยียดสันติภาพให้กับยูเครน
ทรัมป์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับการหารือกับปูตินว่า นี่เป็นการพบปะพูดคุยกันจริงๆ และบอกว่าเขาจะรู้น่าจะภายในสองนาทีแรกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีความคืบหน้าเกิดขึ้นหรือไม่
“ผมจะบอกเขาว่า คุณต้องยุติสงครามนี้ ผมจะไปดูก่อน อาจจะเดินออกมาแล้วบอกว่า ‘โชคดีนะ’ แล้วก็จบ หรืออาจจะบอกว่า ‘เรื่องนี้คงไม่มีทางยุติลงได้’” ทรัมป์กล่าว และว่า การประชุมครั้งต่อไปอาจมีการเชิญเซเลนสกีเข้าร่วม และเป้าหมายของสหรัฐคือการหยุดยิงโดยเร็วในสงครามนองเลือดที่ดำเนินมา 3 ปีครึ่ง โดยเขามีแผนจะพูดคุยกับผู้นำยุโรปหลังจากเสร็จสิ้นการพบปะกับปูติน
ทรัมป์เคยพูดถึงการแลกเปลี่ยนดินแดนมาก่อน แต่ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างไม่ยอมสละดินแดนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพ อย่างไรก็ดี ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “จะต้องมีการแลกเปลี่ยนดินแดนเกิดขึ้นบ้าง ผมรู้เรื่องนี้ผ่านรัสเซียและการพูดคุยกับทุกฝ่าย เพื่อผลประโยชน์ของยูเครน” พร้อมระบุว่ารัสเซียได้ยึดครอง “พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ” บางแห่งเอาไว้ แต่เราจะพยายามเอาพื้นที่เหล่านั้นบางส่วนกลับคืนมา
อันดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานของเซเลนสกี กล่าวว่าตนได้คุยกับนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ โดยโพสต์บนเอ็กซ์ว่าสันติภาพที่ยั่งยืนจำเป็นต้องมีการหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งมันจะเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นก่อนการเจรจาในเนื้อหาสาระสำคัญ
คายา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า ความสามัคคีและความเป็นเอกภาพข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก การสนับสนุนยูเครน และแรงกดดันต่อรัสเซีย เป็นสิ่งจำเป็นต่อการยุติสงคราม และป้องกันการรุกรานยุโรปโดยรัสเซียในอนาคต
คัลลาสกล่าวว่า อียูจะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 19 และเตือนว่าห้ามไม่ให้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขใดๆ ให้รัสเซีย ตราบใดที่รัสเซียยังไม่ตกลงหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข เราไม่ควรแม้แต่จะพูดถึงการยอมผ่อนปรนใดๆ ลำดับขั้นตอนต่างๆ เป็นเรื่องสำคัญ ประการแรกคือต้องหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมระบบติดตามตรวจสอบที่เข้มแข็งและหลักประกันความปลอดภัยที่เข้มงวด
คัลลาสในโพสต์บนเอ็กซ์ว่า อียูจะเพิ่มการสนับสนุนด้านการทหารแก่ยูเครน และให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณ รวมถึงสนับสนุนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียู
ขณะที่เซเลนสกีเตือนเมื่อวันจันทร์ว่า การยอมอ่อนข้อให้รัสเซียจะไม่ทำให้รัสเซียยุติการสู้รบ และจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย ที่กำลังเตรียมกำลังพลสำหรับการโจมตีครั้งใหม่ แทนที่จะเตรียมยุติสงคราม โดยเขายังเรียกร้องให้ชาติต่างๆ คงมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย จนกว่ายูเครนจะได้รับหลักประกันด้านความมั่นคง
“รัสเซียปฏิเสธที่จะหยุดการสังหาร ดังนั้นจึงไม่ควรได้รับรางวัลหรือผลประโยชน์ใดๆ การยอมอ่อนข้อไม่ได้ทำให้ฆาตกรเปลี่ยนใจ” เซเลนสกีโพสต์บนเอ็กซ์
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทรัมป์ชี้ รัสเซีย-ยูเครน ต้องยอมสละดินแดน ยุโรปหวั่น มะกันตั้งเงื่อนไขไม่เป็นธรรม
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th