ชาวบ้านระทม กลับจากศูนย์อพยพ เจอบ้านพังยับเยิน วอนรัฐเร่งเยียวยา
11 ส.ค. 2568 เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณฝั่งเขาพระวิหาร แม้บรรยากาศในพื้นที่จะไม่ตึงเครียดมากนัก หลังเหตุปะทะ ชาวบ้านเริ่มทยอยกลับจากศูนย์พักพิง และเข้าอยู่อาศัยในบ้านของตนตามปกติ
อย่างไรก็ตาม บ้านเรือนของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะจนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ เช่นเดียวกับ นางชิต พานภพ อายุ 57 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล ที่เพิ่งกลับเข้าบ้านได้เพียง 3 วัน หลังจากอพยพออกจากพื้นที่ โดยตั้งใจจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติร่วมกับสามีและลูก แต่กลับพบว่าบ้านของตนได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังคารั่ว กระจกแตก ประตูหน้าต่างพังยับเยิน จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้
นางชิต พร้อมสามีและลูกชาย ต้องหอบหิ้วเสื้อผ้า ผ้าห่ม และสิ่งของจำเป็นใส่รถยนต์ เดินทางไปพักอาศัยตามบ้านญาติ เพื่อน หรือคนรู้จักชั่วคราว โดยหวังว่าจะได้รับการเยียวยาจากภาครัฐเพื่อนำมาซ่อมแซมบ้านให้กลับมาใช้งานได้ในเร็ววัน
นี่เป็นวันที่ 3 หลังจากทางการอนุญาตให้ประชาชนทยอยกลับบ้าน ตนและครอบครัวจึงเดินทางกลับ เพราะศูนย์พักพิงที่เคยอาศัยอยู่ได้ปิดตัวลงแล้ว ขณะนี้กำลังรอให้ทางพื้นที่นำเต็นท์มาช่วยจัดสรรให้พักอาศัยชั่วคราว พอกลับมาก็เจอว่าบ้านพังหมด หลังคารั่ว ไม่มีที่นอน แถมฝนยังตกหนักอีกช่วงนี้
อยากให้รัฐบาลช่วยเร่งเยียวยาโดยเร็ว จะให้เราตระเวนไปนอนตามบ้านเพื่อนก็เกรงใจเขา อยากนอนบ้านตัวเองมากกว่า ไม่ใช่แค่บ้านเรา บ้านพี่สาวที่อยู่ติดกันก็พังเหมือนกัน โดนกระสุนจากฝั่งกัมพูชา ตอนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว ก็หวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือเร็ว ๆ นี้
นางชิต ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2554 ซึ่งในครั้งนั้นบ้านของตน (อีกหลังหนึ่ง) ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน แต่ในปีนี้ความเสียหายรุนแรงกว่า กระสุนจากฝั่งกัมพูชาสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนหลายหลังในพื้นที่
แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงแล้ว แต่ประชาชนในพื้นที่ยังคงอยู่ในความไม่ไว้วางใจ เวลาจอดรถต้องหันหัวรถให้พร้อมออกทันที เสื้อผ้าและของจำเป็นต้องจัดเตรียมไว้ในรถตลอดเวลา เพราะเกรงว่าอาจเกิดเหตุปะทะขึ้นอีก