สิงโตป่าอินเดียเพิ่ม 32% เดินว่อนเมือง เสี่ยงขัดแย้งกับมนุษย์
อินเดียกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ หลังจากประชากรสิงโตป่าในรัฐคุชราตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยการสำรวจล่าสุดพบว่ามีสิงโตป่าถึง 891 ตัว เพิ่มขึ้น 32% จากปี 2020 ซึ่งนับเป็นความสำเร็จด้านการอนุรักษ์ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1965 ผ่านการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากีร์
การขยายถิ่นที่อยู่เกินเขตป่า
แม้ถิ่นที่อยู่อาศัยของสิงโตขยายเพิ่มขึ้นจาก 20,000 ตร.กม. เป็น 35,000 ตร.กม. แต่มีเพียง 250 ตร.กม. เท่านั้นที่อยู่ในเขตคุ้มครอง ปัจจุบันสิงโตส่วนใหญ่ (กว่า 55%) อาศัยอยู่นอกเขตกีร์ โดยราว 45% อยู่ในพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่รกร้าง และใกล้ชุมชนมนุษย์ ทำให้บ่อยครั้งพบเห็นสิงโตเดินอยู่ตามระเบียงบ้าน ลานจอดรถ หรือแม้กระทั่งบนทางหลวง
ความขัดแย้งมนุษย์–สิงโตทวีความรุนแรง
การขยายตัวของประชากรสิงโตทำให้เกิดเหตุปะทะกับมนุษย์และปศุสัตว์เพิ่มขึ้น เช่น เหตุสลดเมื่อ 25 มิ.ย. 2568 สิงโตขย้ำเด็กชายวัย 5 ขวบเสียชีวิต ในเขตอัมเรลี อีกทั้งยังมีรายงานการโจมตีปศุสัตว์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10% ขณะที่สัตว์เลี้ยงในฟาร์มถูกฆ่าเพิ่มขึ้น 15% ต่อปี
ในทางกลับกัน สิงโตเองก็เผชิญความเสี่ยงจากการถูกรถชน ตกบ่อน้ำ ถูกไฟฟ้าดูด หรือเจ็บป่วยจากโรคติดต่อ
ทางออกและอุปสรรคในการจัดการ
นักอนุรักษ์เสนอให้ ย้ายสิงโตบางส่วนไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคูโน ในรัฐมัธยประเทศ ตามคำสั่งศาลฎีกาอินเดียปี 2013 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการย้าย เนื่องจากมีการนำเสือชีตาห์จากแอฟริกาเข้ามาอาศัยในพื้นที่คูโนแล้ว ทำให้การย้ายสิงโตอาจต้องล่าช้าออกไปนานถึง 20 ปี
รัฐบาลคุชราตเคยเสนอเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบาร์ดาเป็นพื้นที่ใหม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มีขนาดเล็กเกินไป (200 ตร.กม.) และใกล้กีร์เกินไป ทำให้ไม่สามารถรองรับประชากรสิงโตได้อย่างยั่งยืน
ความมุ่งมั่นของอินเดีย
แม้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่รัฐบาลอินเดียยังคงเพิ่มงบประมาณคุ้มครองสิงโตมากกว่า 70% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา คิดเป็นกว่า 18.2 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งตั้งเป้าผลักดันประเทศสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านการอนุรักษ์แมวใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้ก่อตั้ง พันธมิตรแมวใหญ่ระหว่างประเทศ (International Big Cat Alliance) ตั้งแต่ปี 2023
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ