อโมริม ไม่ได้โม้! 6 เหตุผลบ่งชี้ แมนยู ชนะได้ทุกทีม
ขณะเดียวกัน อาจบอกได้เช่นกันว่ามันเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของ ปีศาจแดง ในยุคของ รูเบน อโมริม สำหรับเกมต่อกรกับทีมในระดับท็อปซึ่งสถิติตีแผ่ออกมาว่าทีมเจ้าบ้านครองบอลได้เหนือกว่า เดอะ กันเนอร์ส 61% และได้ส่องยิงมากถึง 22 ครั้ง แต่ไม่ผ่านมือ ดาบิด ราย่า แมน ออฟ เดอะ แมตช์
นอกจากนี้ สองตัวรุกใหม่ของทีมทั้ง มาเตอุส คุนญ่า และ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ต่างก็โชว์ลีลาได้อย่างดุดันจนเชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีซีซั่นที่สามารถคาดหวังถึงความสำเร็จในระดับหนึ่งได้
"เราพิสูจน์ให้เห็นในวันนี้ว่าเราสามารถชนะทุกเกมใน พรีเมียร์ลีก ได้" นายใหญ่โปรตุกีสเอ่ยกับสื่อหลังเกม
"เราเป็นทีมที่ดีกว่า เรารู้สึกว่าเล่นได้เหนือกว่าพวกเขา สุดท้ายแล้วเราแพ้ แต่ผมภูมิใจกับความพยายามของนักเตะ" อโมริม เสริมขณะที่ ราย่า และ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ยอมรับเช่นกันว่า ผีแดง เล่นได้ดีกว่า
แน่นอนว่ามันเป็นแค่เกมแรกของซีซั่นเท่านั้น แต่หาก แมนฯ ยูไนเต็ด รักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย มันก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะเอาชนะทุกทีมอย่างที่ อโมริม มั่นใจด้วยเหตุผลทั้ง 6 ข้อดังนี้
1. แผงรุกจัดจ้าน แข็งแกร่ง ดุดัน
จากซีซั่นก่อนที่แฟน ผีแดง ต้องหงุดหงิดไปกับความอืดอาดยืดยาดของทั้ง โจชัว เซิร์กซี่ และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ในซัมเมอร์นี้ อโมริม ใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการเซ็นสัญญากับ คุนญ่า และ เอ็มเบอโม่ ตามด้วย เบนจามิน เซสโก้
สำหรับรายหลัง สาวก เร้ด อาร์มี่ ยังไม่ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงมากนักเนื่องจากอดีตกองหน้าทีม แอร์เบ ไลป์ซิก ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมเปิดซีซั่นแทน เมสัน เมาท์ ในนาทีที่ 65
แต่สำหรับดาวเตะทีมชาติ บราซิล และ แคเมอรูน ชัดเจนว่าส่งผลกระทบในทางบวกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทันทีโดย คุนญ่า แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท ขยันขันแข็ง และใจสู้ทุกสถานการณ์โดยเขาเป็นตัวอันตรายในการทำเกมรุก ขณะที่ เอ็มเบอโม่ เกือบคลำเป้าให้ทีมได้เช่นกัน
ดังจะเห็นว่าตลอด 90 นาทีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสองสตาร์หน้าใหม่อยู่ในสนาม ทีมรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับโดยตลอด แต่พวกเขาอาศัยลูกเก่งในจังหวะเตะมุมทำสกอร์ได้อีกตามเคยแม้จะน่ากังขาเนื่องจากตามกฏใหม่ของ พีจีเอ็มโอแอล มีการเน้นย้ำก่อนเปิดซีซั่นว่าจะไม่ปล่อยให้นักเตะผลักดันกันมากเหมือนก่อนในจังหวะเล่นลูกเซ็ตพีซ แต่สุดท้ายผู้ตัดสินกลับไม่เป่าว่า อัลตาย บายินดีร์ โดนทำฟาวล์โดยไม่คิดปกป้องผู้รักษาประตู
ในเกมแพ้ อาร์เซน่อล คุนญ่า ถือเป็นนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นที่สุดในสนามจากการลากบอลหนีฝ่ายตรงข้ามได้สี่จากหกครั้งเหนือกว่านักเตะทุกรายโดยมีจังหวะหนึ่งเขาลงไปล้วงบอลแล้วควบหนีห้านักเตะ อาร์เซน่อล ไปสับไก แต่ไม่ผ่านมือ ราย่า
รวมแล้ว คุนญ่า ได้ยิงในเกมที่ว่าสี่หน และขนะการดวลภาคพื้นดิน 7 จาก 14 ครั้ง
2. แผงกลางลงตัวแล้ว
ภายใต้ระบบ 3-4-3 อโมริม น่าจะควานหาแผงกลางที่ลงตัวได้แล้วโดยเฉพาะวิงแบ็คทั้งสองข้าง
หลังจากลองผิดลองถูกอยู่นาน กุนซือวัย 40 ปีน่าจะเล็งเห็นแล้วว่า แพทริค ดอร์กู เหมาะกับบทบาทวิงแบ็คฝั่งซ้ายที่เขาถนัดที่สุด ขณะที่อีกฟากฝั่งสมควรตกเป็นของ อาหมัด ดิยัลโล่
แน่นอนว่าจากการประกาศรายชื่อนักเตะ 11 คนแรก อโมริม สร้างความหงุดหงิดให้กับแฟนบอล ผีแดง เนื่องจากเขาเลือกใช้งาน ดีโอโก้ ดาโลต์ เป็นวิงแบ็คด้านขวาจนทำให้เป็นที่มองกันว่ากุนซือเลือดฝอยทองยังเน้นเกมรับมากเป็นพิเศษเหมือนเคย
จนในที่สุด ผลงานในสนามฟ้องว่ากองหลังทีมชาติ โปรตุเกส ไม่สามารถเล่นเกมรุกได้ และส่งผลให้ อโมริม จำต้องส่ง อาหมัด ลงบู๊แทน
ฉะนั้นแล้วในเกมหน้าเชื่อว่าปีกทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ จะได้ออกสตาร์ตก่อนหน้า ดาโลต์ แม้เขาจะไม่ใช่วิงแบ็คโดยธรรมชาติเช่นกัน แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถซื้อเกมรุกจากสตาร์แอฟริกันได้
สำหรับนักเตะในแดนกลาง ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังไงซะ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่อาจดร็อป บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้เนื่องจากกัปตันคนเก่งยังมีอิทธิพลในสนามจากการสร้างโอกาสได้ 5 ครั้ง แถมยังลงต่ำไปช่วยเกมรับด้วยจากการวิ่งคลุมพื้นที่เป็นระยะ 10.9 กิโลเมตร
ด้าน กาเซมีโร่ แม้จะอยู่ในช่วงโรยรา แต่กองกลางแซมบ้าวัย 33 ปีผ่านบอลสำเร็จ 83% และชนะการดวล 75% โดยเขาเสียการครองบอลแค่ 3 ครั้งเท่านั้นทั้งๆที่ต้องดวลกับยอดมิดฟิลด์อย่าง เดแคลน ไรซ์ , มาร์ติน โอเดอการ์ด และ มาร์ติน ซูบีเมนดี้
3. เดอ ลิกต์ โชว์ร่างทอง
ผ่านเข้าสู่ซีซั่นที่สองกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตไตส์ เดอ ลิกต์ ทำท่าว่าน่าจะคุ้นชินกับเกมที่รวดเร็วของลีกอังกฤษแล้ว
หลังย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค กองหลังทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ในวัย 26 ปีมีผลงานในซีซั่นแรกของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สู้ดีเนื่องจากไม่ได้ช่วยทำให้เกมรับของทีมแข็งแกร่งมากขึ้นกระทั่งจบอันดับ 15 ของตาราง
นอกจากนี้ เดอ ลิกต์ ยังมีสภาพร่างกายที่เปราะบางอีกด้วยจนทำให้พลาดการลงเล่นบ่อยครั้ง หรือไม่ก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากบาดเจ็บ
สำหรับซีซั่นนี้ ต้องถือว่าเขาออกสตาร์ตได้ดีแม้จะต้องดวลกับกองหน้าระดับท็อปหลายรายทั้ง บูคาโย่ ซาก้า และ วิคตอร์ โยเคเรส แต่สตาร์ดัตช์เข้าปะทะและสกัดบอลอันตรายได้อย่างถูกที่ถูกทางโดยตลอด
และหากเขามีฟอร์มที่เสมอต้นเสมอปลาย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถอุ่นใจได้ไม่น้อยเมื่อพิจารณาถึงผลงานของ เลนี่ โยโร่ กองหลังเฟรนช์แมนซึ่งดีวันดีคืนเช่นกัน
นอกจากนี้ หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ ลิซานโดร มาร์ตีเนซ ฟิตกลับมาลงสนาม แบ็คทรีของ อโมริม ก็จะมีความลงตัวมากขึ้น
4. ฮีตัน พร้อมเฝ้าเสา
อีกปัญหาสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ย่อมหนีไม่พ้นผู้รักษาประตูซึ่งทั้ง อ็องเดร โอนาน่า และ อัลตาย บายินดีร์ ยังไม่อาจเอาชนะใจแฟนบอล ผีแดง ได้ด้วยกันทั้งคู่
แม้จะถูกลือกับ เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ นายทวารทีม แอสตัน วิลล่า มาตั้งแต่จบซีซั่น แต่เอาเข้าจริง ผีแดง ไม่น่าจะลงทุนกับตำแหน่งดังกล่าวโดยสื่อเผยว่าบอร์ดของสโมสรหวังให้ อโมริม ยืมมือกาวทีมชาติ อาร์เจนติน่า เท่านั้น แต่ถูก สิงห์ผงาด เซย์โนเนื่องจากพวกเขาต้องการขายขาดสถานเดียว
สุดท้ายแล้ว หาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มีนายทวารคนใหม่ บางที อโมริม อาจสมควรยื่นโอกาสให้ ทอม ฮีตัน ดูบ้างก็ดีเนื่องจากในเกมปรีซีซั่น นายทวารมือสามวัย 39 ปีโชว์ฟอร์มเซฟประตูได้ไม่เลวเลย
และที่สำคัญ ฮีตัน ประกาศชัดเจนว่ากระหายลงเฝ้าเสาเช่นกันหากได้รับโอกาส อโมริม จึงอาจต้องลองเสี่ยงดูสักตั้งหากทั้ง โอนาน่า และ บายินดีร์ ยังมีผลงานที่ไม่น่าพอใจแม้โกลวัยดึกจะไม่ได้ลงเล่นในเกมที่มีความหมายให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยนับตั้งแต่เดือนก.พ.2023
5. ไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินกับ บาเลบา
หลังหมดเงินไปกับสามกองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวจ้องเสริมแดนกลางด้วยโดยเล็งไปที่ คาร์ลอส บาเลบา ดาวเตะทีม ไบรท์ตัน ซึ่งถูกต้นสังกัดตั้งราคาขายสูงถึง 100 ล้านปอนด์
ด้วยเม็ดเงินดังกล่าวส่งผลให้ดีลที่ว่าเป็นหมันในเวลาที่รวดเร็วเนื่องจาก ผีแดง ไม่คิดจ่ายหนักขนาดนั้น ขณะที่ นกนางนวล ก็ไม่หวังขายนักเตะวัย 21 ปี
ว่ากันตามจริง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่จำเป็นต้องควักจ่ายในการล่าตัวดาวเตะทีมชาติ แคเมอรูน ในเมื่อพวกเขาข่ม อาร์เซน่อล ได้ตลอดทั้งเกม และแม้ มานูเอล อูการ์เต้ จะยังจ่ายบอลพลาดง่ายๆอีกตามเคย อโมริม ก็ควรเปิดใจให้กับ ค็อบบี้ เมนู บ้างเนื่องจากในวัย 20 ปี กองกลางทีมชาติ อังกฤษ มีอนาคตที่สดใสรออยู่ และยังสามารถพัฒนาฝีเท้าได้อีก
และที่สำคัญ เมนู สมควรได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองก่อนหน้า อูการ์เต้ ด้วยซ้ำเนื่องจากดาวเตะทีมชาติ อุรุกวัย ออกอาการลุกลี้ลุกลนแทบทุกเกมที่ได้ลงสนามกระทั่งผ่านบอลพลาดง่ายๆเหมือนเด็กประถมหลายครั้งหลายครา
6. ผีแดงไม่ได้น่าเบื่อแล้ว
"สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราไม่ได้น่าเบื่อ เราเกรี้ยวกราดมากกว่าซีซั่นก่อน เราเล่นกันด้วยสปีดที่เร็วขึ้น เราเพรสสูง" อโมริม ยืนยันกับสื่อหลังเกมแพ้ อาร์เซน่อล
แม้จะพาทีมแพ้เกม พรีเมียร์ลีก เป็นนัดที่ 15 จากการคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด 28 นัดซึ่งเป็นสถิติที่เลวร้าย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า อโมริม ปรับแต่งเกมของ ผีแดง ได้อย่างน่าดูชมมากขึ้นเป็นกอง
ส่วนหนึ่งหนีไม่พ้นการได้สองกองหน้ามาร่วมทีมซึ่งทั้ง คุนญ่า และ เอ็มเบอโม่ มีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก ด้วยกันทั้งคู่จึงทำให้ทั้งสองไม่ต้องปรับตัวกับทีมใหม่มากมายอะไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างก็กระหายสร้างชื่อพา ผีแดง คว้าอ้นดับที่ดีในซีซั่นนี้
จากซีซั่นก่อนที่ ปีศาจแดง มีเกมรุกที่จืดชืดเชื่องช้า และไร้จินตนาการเนื่องจาก เซิร์กซี่ กับ ฮอยลุนด์ ไม่ใช่ตัวอันตรายสำหรับกองหลัง ถึงตอนนี้ เร้ด เดวิลส์ เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือจากการเล่นเกมรุกที่ฉับไว และมีโอกาสจบสกอร์โดยตลอดผิดไปจากเดิมที่แฟนบอลพากันหาวนอนเมื่อต้องดู แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนาม