กลุ่มอมตะรายได้ครึ่งปีแรกเฉียด 6,000 ล้าน ยอดโอนที่ดินในนิคมพุ่ง 41%
กลุ่มอมตะโชว์ผลงานครึ่งปีแรก 2568 รายได้ 5,765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ทำกำไรพุ่ง 969 ล้านบาท เติบโต 40% รับแรงหนุนจากยอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้นกว่า 41% และส่วนแบ่งกำไรธุรกิจโรงไฟฟ้า อวดยอด Backlog แน่น 25,034 ล้านบาทโตต่อเนื่อง สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจแม้เผชิญความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก
นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทสามารถทำรายได้รวม 5,765 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ที่มีรายได้รวม 5,457 ล้านบาท และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 969 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY)
โดยแบ่งเป็นธุรกิจขายที่ดินที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น 41% อยู่ที่ 2,867 ล้านบาท จากการโอนที่ดินรวม 450 ไร่ (ไทย 371 ไร่ และเวียดนาม 79 ไร่) ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นเป็น 52% จาก 49% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทมี Backlog รอการโอนสูงถึง 25,034 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต
ส่วนการให้บริการด้านสาธารณูปโภคยังเป็นฐานรายได้มั่นคงอยู่ที่ 2,283 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงจากปีก่อนก็ตาม แต่ยังคงมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับดีขึ้นเป็น 19% ส่วนธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ามีรายได้ 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% อัตราการเช่าสูงกว่า 77% สะท้อนดีมานด์ที่ต่อเนื่อง จากนักลงทุนต่างชาติ
ขณะที่ธุรกิจพลังงานเป็นแรงขับเคลื่อน กำไรของอมตะฯ สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้า 470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% โดยมาจากกลุ่มโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ ที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอและมีสัดส่วนสูงถึง 73% ของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนทั้งหมด
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) มีรายได้รวม 2,375 ล้านบาท ลดลง 13% จากปีก่อน ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า 241 ล้านบาท ลดลง 7% กําไรสุทธิ 270 ล้านบาท ลดลง 33% กําไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 140 ล้านบาท ลดลง 40%
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของบริษัทยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน โดยเฉพาะฐานะการเงินของกลุ่มอมตะยังมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 69,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากสิ้นปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเพื่อการพัฒนาในอนาคต ขณะที่ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ A- แนวโน้ม Stable สะท้อนความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพทางการเงินของอมตะฯ
นายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 2 ปี 2568 ว่ายังคงเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้า โดยเฉพาะการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ
ซึ่งขณะนี้อัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐต่อประเทศไทยอยู่ที่ระดับ 19% ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงทั้งภูมิภาค เชื่อมั่นว่ามาตรการภาษีที่ออกมา จะส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนมายังไทยมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาการชะลอตัวจากภาคการผลิตและการท่องเที่ยวที่ลดลง รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัว แม้การบริโภคเอกชนยังคงทรงตัว
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไทยยังเติบโตอย่างโดดเด่นในหลายกลุ่มสินค้า ทั้งอิเล็กทรอนิกส์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเกษตร ในส่วนของกลุ่มอมตะ ยังคงมุ่งหน้าพัฒนา ภายใต้หลัก “Perfect Smart City” ทั้งในไทยและต่างประเทศ บนแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยเฉพาะการจัดการทรัพยากรน้ำที่มีประสิทธิภาพ
ล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมอมตะประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมาย Zero Waste to Landfill และนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ใหม่ 100% ในปี 2567 ช่วยลดต้นทุนจัดหาน้ำได้กว่า 73 ล้านบาทต่อปี
“แม้เศรษฐกิจโลกและไทยยังมีความท้าทาย แต่อมตะฯ เชื่อมั่นว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยึดหลักยั่งยืน จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนในระยะยาว”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กลุ่มอมตะรายได้ครึ่งปีแรกเฉียด 6,000 ล้าน ยอดโอนที่ดินในนิคมพุ่ง 41%
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net