เตือนเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อนสาย! เสี่ยงอัมพาต-เสียชีวิต
กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า มีงานวิจัยยืนยันว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เป็นการเพิ่มความเสี่ยงป่วยโรคหลอดเลือดสมอง อัมพาตเฉียบพลัน ภัยเงียบที่คนไทยมองข้าม
นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้ว่า “บุหรี่ไฟฟ้า” จะเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน แต่การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพียงไม่นานก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันยังมีความเข้าใจผิดในสังคมว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่สินค้าอันตราย แต่ในความเป็นจริงบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินซึ่งมีฤทธิ์เสพติดสูง และยังมีสารพิษหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตและความพิการของประชาชนไทย โดยมีผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ มีความเสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นถึง 1.62 เท่า ส่วนผู้ที่ใช้เป็นครั้งคราวก็ยังเสี่ยงเพิ่มขึ้น 1.28 เท่า ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัย แต่กลับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อสุขภาพ โดยในประเทศไทยโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย และยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งข้อมูลจากระบบรายงานฐานข้อมูลสุขภาพ (HDC) กระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 ระบุว่า มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจำนวน 358,062 ราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 39,086 ราย
กรมควบคุมโรค ขอเตือนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้า “ปลอดภัยกว่า” และขอรณรงค์ให้ผู้สูบเลิกบุหรี่ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าวันนี้ เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนและปลอดภัย ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการเลิกสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า สามารถเข้ารับบริการเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ได้ที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หรือโทรสายด่วนขอคำปรึกษาเพื่อการเลิกบุหรี่ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1600 และหากพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแสเพื่อดำเนินคดีผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews