'อิสราเอล' อ้าง ปลิดชีพ 'อาบู โอไบดา' โฆษกของฮามาสได้แล้ว
อิสราเอล รายงาน "อาบู โอไบดา" โฆษกกลุ่มติดอาวุธฮามาสถูกสังหารแล้วจากการโจมตีในกาซาซิตี้
อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โพสต์แสดงความยินดีกับกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล (เอฟดีไอ) และชิน เบต (Shin Bet) หน่วยงานความมั่นคงอิสราเอล ในแพลตฟอร์ม X ว่า พวกเขา "ปฏิบัติการได้อย่างไร้ที่ติ"
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (31 ส.ค.) แคตซ์ได้เตือนว่า พันธมิตรอาชญากรของโอไบดาจำนวนมากจะตกเป็นเป้าของปฏิบัติการทางทหารที่เข้มข้นขึ้นของอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม ฮามาส ยังไม่ได้ยืนยันการเสียชีวิตของโอไบดา ขณะที่ก่อนหน้านี้กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์เผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคนจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในอาคารที่อยู่อาศัยในกาซาซิตี้
ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานว่า มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และบาดเจ็บ 20 รายจากการโจมตีในเขตอัลริมาลในกาซาที่มีประชากรหนาแน่น และผู้เสียชีวิตรวมเด็กด้วย
ด้านไอดีเอฟ และชิน เบต ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า ปฏิบัติการมีความเป็นไปได้ที่สามารถปลิดชีพโฆษกฮามาส เนื่องจากข้อมูลข่าวกรองที่รวบรวมไว้ล่วงหน้าของสองหน่วยงานสามารถระบุสถานที่ซ่อนตัวของเขาได้
แถลงการณ์ร่วมระบุด้วยว่า โอไบดาทำหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาของ องค์กรก่อการร้าย ฮามาส และเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของฮามาส
ทั้งนี้ โอไบดาเป็นหนึ่งในสมาชิกอาวุโสของกองทัพฮามาสไม่กี่คนที่ยังเหลืออยู่ ก่อนเปิดปฏับิติการโจมตีตอนใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2565
ในช่วงสองสามปีก่อนหน้านี้ โอไบดาซึ่งคาดว่าอายุราว 40 ปี ได้กล่าวโจมตีอิสราเอลอยู่หลายครั้งในนามของกองทหารฮามาส หรือกองพลน้อยอัลกัสซัม (Al-Qassam Brigades)
โอไบดามักสวมผ้าคลุมศีรษะแบบปาเลสไตน์มาโดยตลอด และกลายเป็นไอดอลของผู้สนับสนุนฮามาสทั่วตะวันออกกลาง
ในการกล่าวสุนทรพจน์สุดท้ายของเขาเมื่อวันศุกร์ (29 ส.ค.) ที่ผ่านมา โอเบดากล่าวว่าชะตากรรมของตัวประกันชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่จะเหมือนกับชะตากรรมของนักรบฮามาส พร้อมเตือนอิสราเอลไม่ให้วางแผนรุกกาซาซิตี้
ต้นเดือน ส.ค. คณะรัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอลได้อนุมัติแผนการยึดครองกาซาซิตี้ด้วยการรุกคืบครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 22 เดือน
ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้เตือนหลายครั้งว่า การเข้าควบคุมทางทหารอาจมีความเสี่ยง “ส่งผลกระทบร้ายแรง” ต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์ และตัวประกันอิสราเอลที่ถูกคุมขังในกาซา ขณะที่เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำอิสราเอลเตือนว่า การกระทำดังกล่าวอาจเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่”