กรุงศรีฯ คาดเงินบาทซื้อขาย 32.00-32.65 บาท ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.00-32.65 บาทต่อดอลลาร์ นักลงทุนให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจ-จ้างงานของสหรัฐ เพื่อประเมินการลดดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปี’68 ต่อเนื่องปี’69 พร้อมจับตาการเมืองในประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.65 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.27-32.56 บาทต่อดอลลาร์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่
ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์คุกคามความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง ด้วยการสั่งปลดสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมฉ้อโกงด้วยการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ทางด้านสมาชิกคณะกรรมการนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตอกย้ำแนวคิดที่ว่าหากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นไปตามที่คาดไว้ บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไป
ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสกับเยอรมนีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองในฝรั่งเศส อย่างไรก็ดี แรงขายเงินยูโรถูกจำกัดโดยอิทธิพลจากความเสี่ยงเชิงลบของเงินดอลลาร์
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 12,393 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 2,627 ล้านบาท ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมเงินหยวนจีนแข็งค่านำสกุลเงินภูมิภาค ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น 0.9%
สำหรับในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขภาคบริการและรายงานตำแหน่งจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคม เพื่อประเมินการลดดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปี’68 ต่อเนื่องปี’69
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการเปิดทางลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. โดยในภาพรวมเรามองว่าประเด็นการแทรกแซงเฟดของประธานาธิบดีทรัมป์ และการที่จีนปล่อยเงินหยวนแข็งค่าขึ้นจะทำให้ Sentiment ของเงินดอลลาร์ยังคงเปราะบาง
สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม และความชัดเจนทางการเมือง อนึ่ง มูลค่าส่งออกเดือนกรกฎาคมเติบโต 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดนำเข้าสูงขึ้น 5.1% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 0.32 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี การส่งออกขยายตัว 14.4% โดยได้แรงหนุนจากการเร่งส่งออกก่อนมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐมีผลบังคับใช้ ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินเศรษฐกิจเดือนกรกฎาคมชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า จากทั้งกิจกรรมภาคท่องเที่ยวและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงจากปัจจัยชั่วคราวตามการปิดซ่อมโรงกลั่นและการหยุดผลิตรถยนต์เพื่อปรับกระบวนการผลิต
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กรุงศรีฯ คาดเงินบาทซื้อขาย 32.00-32.65 บาท ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net