โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ทรัมป์” เล็งขึ้นภาษียานำเข้าสูงสุด 200% เสี่ยงดันราคายา–ขาดแคลนในสหรัฐ

การเงินธนาคาร

อัพเดต 1 กันยายน 2568 เวลา 23.50 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทรัมป์" เล็งขึ้นภาษียานำเข้าสูงสุด 200% จากประเทศนอกยุโรป เสี่ยงดันราคายา ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจดันราคายาพุ่ง ขาดแคลนยา และซ้ำเติมผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ

วันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 15.28 น. เว็บไซต์ Yahoo Finance รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังขยายสงครามการค้าด้วยการตั้งเป้าไปที่ เวชภัณฑ์และยานำเข้า ซึ่งก่อนหน้านี้แทบไม่เคยถูกเก็บภาษี โดยล่าสุดมีการประกาศข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและยุโรป ที่รวมถึง ภาษีนำเข้า 15% สำหรับสินค้าบางประเภท เช่น ยา ขณะที่ทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีสูงสุดถึง 200% สำหรับยาที่ผลิตนอกยุโรป

ผู้เชี่ยวชาญ PwC อธิบายว่า มาตรการนี้คือ Shock and Awe ต่ออุตสาหกรรมยาที่เคยเสียภาษีเป็นศูนย์ แต่กำลังเผชิญความเสี่ยงพุ่งไปถึง 200% ซึ่งอาจสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อผู้บริโภค

ทรัมป์ยืนยันว่าจะลดราคายาให้ชาวอเมริกัน แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการเก็บภาษีสูงอาจสร้างผลตรงข้าม โดย ทำให้เกิดการขาดแคลนยา ราคายาพุ่ง และค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ

แม้ทรัมป์ระบุว่าจะเลื่อนการเก็บภาษีออกไป 1–1.5 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทยาสต็อกสินค้าและย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐ แต่หากมาตรการมีผลจริง นักวิเคราะห์คาดว่าจะเริ่มกระทบผู้บริโภคชัดเจนราวปี 2570–2571

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าทรัมป์อาจเจรจาลดอัตราภาษีลงจาก 200% แต่แม้เพียง 25% ก็อาจทำให้ราคายาในสหรัฐเพิ่มขึ้น 10–14% ในที่สุด

ปัจจุบันสหรัฐขาดดุลการค้าในผลิตภัณฑ์ยาเกือบ 150,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี กว่า 97% ของยาปฏิชีวนะ, 92% ของยาต้านไวรัส และ 83% ของยาสามัญยอดนิยม มีส่วนผสมที่ผลิตในต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย โดยการสร้างโรงงานผลิตยาใหม่ในสหรัฐใช้เวลาและเงินลงทุนสูงมาก

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากบริษัทผู้ผลิตยาสามัญ (generic drugs) ซึ่งกำไรต่ำ ไม่สามารถรับต้นทุนภาษีได้ อาจถอนตัวออกจากตลาดสหรัฐ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการขาดแคลนยาอย่างรุนแรง เพราะปัจจุบัน ยาสามัญคิดเป็นกว่า 92% ของใบสั่งยาทั้งหมดในสหรัฐ

ด้านบริษัทยารายใหญ่บางแห่งเริ่มลงทุนในสหรัฐแล้ว เช่น Roche ของสวิตเซอร์แลนด์ ทุ่มลงทุน 50,000 ล้านดอลลาร์ ขยายกิจการในสหรัฐ Johnson & Johnson ประกาศลงทุน 55,000 ล้านดอลลาร์ ใน 4 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ชี้ว่าการย้ายฐานผลิตทั้งระบบกลับสหรัฐไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจต้องการ เงินสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อจูงใจผู้ผลิตยาสามัญให้ลงทุน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

กยศ. คำนวณหนี้ใหม่เพิ่มกว่า 4.3 แสนบัญชี แสดงผลผ่าน กยศ. Connect

38 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทย ปิดบวก 7.87 จุด รับความคาดหวังโหวตนายกฯ-ตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในสัปดาห์นี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

เศรษฐีที่ดิน ดึงที่ดินมรดก ร่วมทุนผู้ประกอบการ ผุดบ้านหรูกลางเมือง

Positioningmag

ททท. จัด Travel Tech Startup หนุนสตาร์ทอัพไทยไอเดียเจ๋ง รันวงการท่องเที่ยวยุคใหม่

TODAY Bizview

กยศ. คำนวณหนี้ใหม่เสร็จแล้ว เพิ่มอีกกว่า 4.3 แสนบัญชี แสดงผลผ่านแอป กยศ. Connect

เดลินิวส์

สมัครได้แล้ววันนี้ ! AIS เปิดเวิร์กช็อป “NEXTGEN CREATOR” ฟรี เปิดพื้นที่อัปสกิลนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ สู่ครีเอเตอร์มือโปร พร้อมมีโอกาสร่วมงานกับ AIS

Positioningmag

ททท. ดัน Travel Tech Startup สู่อนาคตการท่องเที่ยวอัจฉริยะ

เดลินิวส์

รับวันแรกกันยายน ทองคำโลกในเอเชีย นิวไฮทะลุ 3,478 ดอลล์ | คุยกับบัญชา | 1 ก.ย. 68

BTimes

“TouristDigiPay” แปลงสกุลเงินคริปโตเป็นเงินบาท ต่อยอดท่องเที่ยวยุคใหม่

PPTV HD 36

โอโมด้า แอนด์ เจคู่ ยอดจองท่วมท้น

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...