ปังๆ เจนเย่ ยิ้มปลื้มปริ่มปีทอง เข้าสู่วัย 26 ปี สายมูแบบจัดหนักจัดเต็ม ยังไม่ชินงานเข้ารัว ๆ
ต้องให้จริง นับเป็นปีทองของเธอเลย สำหรับนางเอกสาว“เจนเย่ เมธิกา จีรนรภัทร” ล่าสุดในวันเกิดอายุครบ 26 ปี ออกมาเผยถึงเรื่องราวชีวิตช่วงเบญจเพส ปีทองของโอกาสใหม่ๆ ไปจนถึงความเชื่อเรื่องสายมู และอาจมีงานโกอินเตอร์เร็วๆ นี้ด้วย
วันเกิดปีนี้เป็นไงบ้าง 26ปี แล้ว?
“เวลาผ่านไปเร็วมาก เหมือนครบสิบปีที่หนูเข้าวงการบันเทิงพอดีเลยด้วย น่าจะสิบเอ็ดหนูเข้าตอนแบบมิสทีนตอนอายุสิบห้าค่ะ”
เป็นไงบ้างสิบปีที่ผ่านมา?
“โห รู้สึกว่าหนูปีนี้เป็นปีที่โตที่สุดเลย หมายถึงทั้งวุฒิภาวะทั้งความคิด แล้วก็หลายๆ อย่าง เหมือนเป็นปีแรกที่รู้สึกว่าเราโตจริงๆ แล้ว ปีนี้อยู่กองถ่ายเรื่องนี้ถ่ายถึงเที่ยงคืน ก็อยู่กับทางทีมกองถ่าย แล้วก็มีพี่เก้ามีน้องๆมาแฮป อยู่ๆ พี่เก้าก็ถือเค้กมาให้หนูคิดไว้แล้วว่าน่าจะต้องมีชัวร์ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จริงๆ พี่เก้าแฮปหนูคนแรกเลย เหมือนเขาเตรียมลงรูปไว้ว่าจะลงแฮปหนูเลือกรูปไว้นานแล้ว คือเขาแฮปทุกช่องทางเลยอะน่ารักมาก เขาลงรูปตอนเที่ยงคืนเป๊ะทั้งไอจีทวิตเตอร์ลงทุกแพลตฟอร์มเลย แล้วเขาทำเค้กเอารูปที่เราเคยถ่ายไว้หลายๆ รูปมาแปะไว้ แล้วก็มีเขียนจดหมายเหมือนพี่เก้าบอกให้อ่านให้ครบนะ เหมือนเป็นจดหมายที่เขาเขียนถึงเราอยู่บนเค้กหมดเลย หนูก็ถ่ายคลิปแล้วก็นั่งอ่าน ไม่เคยมีใครให้เค้กแบบนี้กับหนูมาก่อนหมายถึงว่าเขาคิดได้ไงมันน่ารักมาก เขาอยากเขียนถึงหนูอะ เขาเขียนไว้บนเค้กแล้วก็เอามาให้หนูเป็นรูปหัวใจ ข้อความก็คืออ่านแล้วน้ำตาคลอ ฟีลดีใจที่ได้ร่วมงานกัน แล้วก็อยากให้หนูมีความสุขจับมือไปด้วยกันต่อนะอะไรอย่างงี้ ได้พาร์ตเนอร์ที่ดีก็รู้สึกว่าแฮปปี้มากๆ เลยค่ะ”
รีวิวตัวเองตอนยี่สิบหกปีหน่อย?
“ตอนยี่สิบห้าหนูรู้สึกว่าเป็นช่วงชีวิตที่ไม่รู้ว่าเป็นเบญจเพศด้วยหรือเปล่า แต่เป็นช่วงที่เหมือนจะแย่ที่สุดในชีวิตเลย เพราะว่าด้วยการที่หนูต้องย้ายบ้านที่เคยอยู่มาแปดปี ต้องย้ายออกมาข้างนอก แล้วก็เป็นช่วงที่เครียดมาก ถ้าคนที่เคยเจอช่วงนั้นจะรู้เลยว่าหนูเครียดมาก ร้องไห้บ่อยมาก ไม่รู้จะเอาไงต่อกับชีวิต แต่พอเข้าอายุยี่สิบหกเหมือนทุกอย่างมันเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง อาจจะเพราะว่าได้เล่นสงครามส่งด่วนด้วย แล้วก็ช่วงนี้มีโอกาสเข้ามาเยอะมาก ยังไม่ค่อยชิน ยังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต หนูไม่เคยคิดมาก่อน ยังขนลุกอยู่เลยพอหนูนั่งดูซีรีส์เสร็จก็นั่งดูกับพี่ๆ แล้วก็คนในบ้าน เขาก็บอกว่ารอเลยเรื่องนี้ดังชัวร์ หนูก็แบบคือดังมันดีอยู่แล้ว หนูเป็นคนที่ไม่คาดหวัง เพราะว่าเราก็ทำเต็มที่อยู่แล้ว แต่แบบไม่ได้คาดหวังว่าคนจะชอบขนาดนี้ ก็รู้สึกดีใจแทนทีมงานทุกคนมากๆ เพราะทุกคนเหนื่อยมากเลยค่ะ คือตอนแรกเลยคือจีดีเอชติดต่อมาให้ไปแคสก์ในใจคือรับแล้วคือหนูไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่หนูรับแล้วเพราะว่าหนูอยากร่วมงานกับจีดีเอชอยู่แล้ว เขาเพิ่งมาบอกตอนหลังว่าเป็นเรื่องที่ทำกับเน็ตฟลิกซ์ด้วยก็ยิ่งอยากเล่นเลยค่ะ ท้าทายด้วยแล้วเขาก็ค่อนข้างโกลบอลเหมือนกันเน็ตฟลิกซ์อะ เราไม่เคยเล่นเราก็ได้ทำจริงๆ ค่ะ”
มีหาหมอดูไหม?
“หนูหาฉ่ำเลย เพราะว่าช่วงก่อนหนูเครียดมากว่าเอาไงดี หนูก็ไม่รู้จะพึ่งใครก็เลยพึ่งหมอดูให้สบายใจ หมอดูก็แนะนำค่ะว่าทำอย่างงี้ แล้วก็รอไปก่อนเดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีขึ้นของมันเอง ส่วนสิ่งที่ห้ามทำเขาบอกว่าห้ามเชื่อตัวเองเยอะเกินไปหมายถึงว่าห้ามดื้อ หนูไม่รู้ทำไมเหมือนกันอาจจะแบบหนูเป็นคนที่ค่อนข้างตัดสินใจอะไรเร็วเกินไปไม่ค่อยไตร่ตรอง เขาก็เลยแนะนำว่าถ้ามีอะไรที่ต้องตัดสินใจเยอะให้เชื่อคนที่บ้านดีกว่าฟังคนอื่นอย่าไปตัดสินใจเองเร็วเดี๋ยวมันจะพลาดเยอะ ซึ่งก็เหมือนจะจริง หนูดูหลายที่มาก คือที่หนูเปลี่ยนชื่อก็คือหมอดูอีกคนนึง เห็นดาราไปเปลี่ยนกันเยอะหนูก็ไปเปลี่ยนตามเขา ช่วงหลังก็ไปดูอีกคนนึงเป็นหลวงพ่อค่ะ พี่สาวแนะนำไปหลวงพ่อก็จะทักนู่นทักนี่ก็หลวงพ่อก็เป็นคนที่ทักว่าปีนี้เราจะมานะ เตรียมตัวไว้เลยหนูจำได้เลยว่าเขาบอกว่าเงินจะเข้ามาเหมือนก๊อกรั่ว”
แสดงว่าเราก็สายมูตัวจริงเลย?
“ค่อนข้างมูค่ะ หนูแค่รู้สึกว่าหนูเชื่อในจังหวะชีวิตของคน หนูเลยไม่ค่อยเครียด ถ้าคนเรามันจะมีอะไรเข้ามาดีๆ มันจะมาเอง เราแค่เต็มที่ในทุกอย่าง แล้วถ้าไทม์มิ่งมันใช่ มันจะใช่ ถ้ามันไม่ใช่ ก็แสดงว่าชาตินี้อาจจะไม่ใช่ของเรา รอชาติต่อไป”
แล้วงานโกอินเตอร์ล่ะ?
“อุ๊ยเมื่อวานหนูเพิ่งไปคุยมาเลย ก็อาจจะมีหนังต่างประเทศติดต่อมา แต่ว่าพอหนังต่างประเทศแล้วต้องไปนานค่ะหนูก็เลยยังคุยเรื่องคิวอยู่ว่าเราจะเมเนจได้ยังไง เพราะว่าพอเรื่องนี้ออนปุ๊บก็อาจจะต้องไปแฟนมีตไปต่างประเทศอะไร อาจมีทำเพลงด้วย ก็กำลังคุยอยู่เหมือนกันค่ะ”