“ภูมิธรรม” ซัดกัมพูชาพูดไปเรื่อย เลี่ยงตอบปม “ปราสาทตาควาย” หวั่นกระทบเจรจา
“ภูมิธรรม” ยันรัฐบาล-เพื่อไทยไม่เสียขวัญ ศาลฎีกาตัดสินคดีชั้น 14 โยนถาม “ทักษิณ” ฟังเองหรือไม่ เสียใจประชาชนเครียดดับชีวิต ลั่นไม่เชื่อถือผู้นำกัมพูชา เลี่ยงตอบปมปราสาทตาควายห่วงกระทบเจรจา
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวที่กระทรวงมหาดไทย ถึงกรณีที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำสั่งคดีบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 9 กันยายน 2568 จะส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลหรือไม่ ว่า “ไม่ครับ ก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราเคารพกระบวนการยุติธรรม และยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ดังนั้นเราต้องคิดว่าถ้าเสียหายจะสะเทือนหรือไม่ ถ้าชนะเราจะได้ไหม ซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะตอนนี้เรามุ่งมั่นเรื่องการปะทะกันอย่างรุนแรงบริเวณชายแดนเป็นเรื่องหลัก” ส่วนคำถามว่า นายทักษิณ จะอยู่ในประเทศและมารับฟังคำพิพากษาของศาลเองหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ให้ไปถามนายทักษิณ
เสียใจมีประชาชนเครียดจบชีวิตตัวเอง
นายภูมิธรรม ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงกรณีการประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วหรือยัง เนื่องจากตอนนี้พบว่ามีประชาชนฆ่าตัวตาย ว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต พร้อมยอมรับว่าเป็นความห่วงใยของรัฐบาล แม้ว่าจะอยากให้เดินทางกลับบ้านพักเลย แต่สถานการณ์ยังไม่มั่นใจ 100% เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่กัมพูชาพูดสามารถเชื่อได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ต้องรอการประเมินอีกครั้งหนึ่งก่อนว่าหากไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็สามารถเดินทางกลับบ้านพักได้
ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่าการที่กัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงพื้นที่ เป็นเพราะเขาเป็นผู้ก่อเหตุจึงมั่นใจว่าเราจะไม่ทำอะไร และเราเองก็เป็นฝ่ายถูกกระทำ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มั่นใจว่ากัมพูชาจะกระทำอย่างไร ส่วนคำถามว่าไทยจะใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด้านการทูตและด้านพื้นที่อย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้เราไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา การดำเนินการต่างๆ เราก็คุยกับนานาชาติอยู่เสมอ แต่ข้อสำคัญอยู่ที่หลักฐาน เพราะเขาพูดไปได้เรื่อยๆ แต่เราพูดมีหลักฐานรองรับ
ไม่ลงรายละเอียดปราสาทตาควาย หวั่นส่งผลการเจรจา
ทางด้านข้อเท็จจริงเรื่องการครอบงำปราสาทตาควาย ที่มีการพูดกันว่าทางกัมพูชาเข้าครอบครองตัวปราสาท แต่เราได้ครอบครองเพียงพื้นที่โดยรอบนั้น นายภูมิธรรม ตอบว่า “หากพูดถึงในแง่การยุทธ์ การยึดคืนในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเราประสบความสำเร็จ” ผู้สื่อข่าวถามย้ำ แล้วพื้นที่ตัวปราสาทเป็นเช่นไร นายภูมิธรรม ย้อนกลับว่า ตนพูดไปแล้วว่าเราประสบความสำเร็จ ขณะนี้ไม่อยากพูดในรายละเอียด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเจรจา แต่เอาเป็นว่าสบายใจและพอใจในสิ่งที่ทำไป ว่าเราได้ตอบโต้และรักษาอธิปไตยได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากที่มาเลเซียจะเป็นตัวกลางในการเจรจาเมื่อครั้งที่ผ่านมา มีประเทศอื่นเข้ามาเป็นตัวกลางเพิ่มหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ร่วมหารือกับคณะผู้แทนของทั้งไทยและกัมพูชาที่เซี่ยงไฮ้ นายภูมิธรรม เผยว่า ระหว่างการดำเนินการทั้งหมด ความห่วงใยของประเทศมหาอำนาจอย่างจีนมีการพูดคุยกับเรามาโดยตลอด ซึ่งเขาไม่อยากเห็นการสู้รบกัน อยากให้ทั้งสองประเทศเป็นมิตรกับเขาทั้งหมด และอยากเห็นความสงบสุข ไม่อยากเห็นผลกระทบจากการต่อสู้กัน เช่นเดียวกับทางประธานอาเซียน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา ที่ได้พูดคุยกัน ซึ่งก็มีความห่วงใยและเห็นใจเราในทางการทูต
แต่ในฐานะประเทศจะพูดอะไรที่เกินเลยไปไม่ได้ เขาก็พยายามจะพูดด้วยความเป็นกลาง เพื่อให้ทั้งสองประเทศสงบให้ได้ เพราะฉะนั้นขณะนี้ต้องฟังจากผู้ที่เป็นเจ้าของประเทศ ไม่ใช่ฟังจากฝั่งกัมพูชาที่ไม่สนใจข้อเท็จจริงสนใจเพียงไอโอ (IO) อย่างที่ตนบอก ตนไม่เชื่อถือ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แม้กระทั่งสมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มาคุย เมื่อพูดคุยกันแล้วกลับมาก็ยังเกิดเหตุการณ์อยู่ ก็ไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรที่ตนจะให้การยอมรับ
เร่งสอบสวน 18 ทหารกัมพูชา
ทางด้านกรณีนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรียกร้องให้ไทยส่งตัว 18 ทหารกัมพูชากลับประเทศโดยเร็ว ฝ่ายไทยมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันจับตัวทหารกัมพูชา 18 คนได้ตั้งแต่เมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งเป็นวันที่ประกาศหยุดยิง และยังมีการล้ำแดนเข้ามา เดิมทีไทยเตรียมที่จะปล่อยตัวแล้ว แต่ฝ่ายกัมพูชามีการโพสต์ข้อความออกมาดูเหมือนฝ่ายไทยไปลักพาตัว เพราะฉะนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด หากเรียบร้อยแล้วก็จะส่งตัวคืน แต่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทหารทั้ง 18 นายของกัมพูชาลักลอบเข้ามาหลังมีการประกาศหยุดยิงแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังใช้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบและสอบสวน
สำหรับกรณีมีรายงานว่าโรงพยาบาลบางแห่งออกประกาศงดรับผู้ป่วยจากกัมพูชา นายภูมิธรรม เผยว่า ตนยังไม่ทราบ และขณะนี้มีทั้งข่าวปลอมและข่าวจริง ที่สำคัญบางทีคนของเราไปขยายความของเขาจากข่าวเฟกนิวส์ จนทำให้กลายเป็นข่าวจริง ซึ่งวันนี้จะต้องกรองข่าวทั้งหมด โดยฝ่ายไทยอาจจะรู้สึกด้อยกว่ากัมพูชา เพราะฝ่ายกัมพูชาพูดอะไรก็ได้ พูดจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่ฝ่ายเรายึดถือเครดิตของประเทศ
“หากฝ่ายไทยพูดอะไรออกมาต้องเป็นเรื่องจริงและมีหลักฐานชัดเจน ซึ่งตรงนี้ไทยอาจสื่อสารช้ากว่ากัมพูชา แต่ก็พยายามปรับปรุงให้เร็วมากขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องทหารกัมพูชา 18 นายที่เราควบคุมตัว และฝ่ายกัมพูชาก็โพสต์ข้อความทันที ซึ่งเมื่อเขาโพสต์เราจึงต้องควบคุมตัวไว้เพื่อตรวจสอบ”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ภูมิธรรม” ซัดกัมพูชาพูดไปเรื่อย เลี่ยงตอบปม “ปราสาทตาควาย” หวั่นกระทบเจรจา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “บิ๊กเล็ก” สั่งกลาโหม-เหล่าทัพตัดความช่วยเหลือ-ความร่วมมือกับกัมพูชาทั้งหมด
- ไทยไม่ลดตัวทำเหมือนกัมพูชา “บิ๊กเล็ก” แจงผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ต้องมั่นใจหยุดยิง
- “จตุพร” นำกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ให้กำลังใจกองทัพเรือ นัดแถลงชุมนุมใหญ่ประณามกัมพูชา วันพรุ่งนี้
- ไทยปะทะกัมพูชา ยังไม่มีใครได้ "ปราสาทตาควาย" ตรึงกำลังคนละฝั่ง
- ทหารไทยยังยึด "เนิน 350" พื้นที่สู้รบสำคัญไม่ได้ เหตุหยุดยิงก่อน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath