โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

คำเตือนแพทย์ ไม่ดื่มเหล้าแม้แต่หยดเดียว ก็เสี่ยง “ไขมันพอกตับ” ถ้ายังชอบทำ 5 สิ่งนี้!

sanook.com

เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook
ทั้งชีวิตไม่ดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่หยดเดียว! ก็เสี่ยง “ไขมันพอกตับ” ได้ ถ้าคุณยังชอบทำ 5 สิ่งนี้

ตับพังทั้งที่ไม่แตะแอลกอฮอล์! หมอเตือน 5 พฤติกรรมเสี่ยง ไขมันพอกตับแบบไม่รู้ตัว

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจากไต้หวันเผยว่า พฤติกรรมในชีวิตประจำวันหลายอย่างที่ดูไม่น่าจะอันตราย กลับเป็นตัวเร่งให้ไขมันสะสมในตับอย่างเงียบๆ แม้ไม่ดื่มเหล้าเบียร์เลย แต่ก็อาจเสี่ยงเป็นโรค "ไขมันพอกตับ" ได้ เพราะไขมันพอกตับไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์เท่านั้น

ตามคำอธิบายของ หมอเฉิง ฮั่นหยู (Cheng Hanyu) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการในไทเป ไขมันพอกตับคือภาวะที่มีไขมันสะสมในตับเกิน 5% ของน้ำหนักตับ ซึ่งหากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจพัฒนาไปสู่ภาวะตับอักเสบ, ตับแข็ง หรือแม้แต่มะเร็งตับได้

ปัจจุบันโรคนี้พบมากขึ้นในคนรุ่นใหม่ แม้จะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยก็ตาม โดยมี 5 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เป็น "ตัวการเงียบ" ดังนี้

1. นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ

การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้ระบบฮอร์โมน (Hypothalamus–pituitary–adrenal axis) ผิดปกติ ส่งผลให้ระดับเอนไซม์ ALT ในตับเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงต่อไขมันพอกตับถึง 33–45% การนอนไม่พอยังทำให้ระบบเผาผลาญไขมันแปรปรวน ไขมันจึงสะสมในตับได้ง่ายขึ้น

2. ติดของหวาน น้ำตาลสูง

แม้ไม่ดื่มเหล้า แต่ถ้าชอบน้ำหวาน ชาไข่มุก ขนมหวาน ฯลฯ ก็เสี่ยงเช่นกัน เพราะ “ฟรุกโตส” ที่มากเกินไปจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันโดยตับ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า น้ำตาลมีผลเสียต่อตับใกล้เคียงกับแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเมื่อบริโภคเป็นประจำ แม้คนผอมก็มีโอกาสเป็นไขมันพอกตับได้

3. ลดน้ำหนักเร็วเกินไป หรืออดอาหารมากเกิน

หลายคนเลือกลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน เช่น งดแป้ง อดข้าว กินแต่น้ำผลไม้ ฯลฯ แต่พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ไขมันไม่สามารถถูกขนส่งออกจากตับได้ จึงสะสมอยู่ในตับมากขึ้น การลดน้ำหนักเร็วเกินไป ยังปล่อยกรดไขมันอิสระออกมามากเกิน ส่งผลให้ตับอักเสบได้

4. กินของทอด ของมัน อาหารแปรรูปบ่อย

อาหารประเภททอด น้ำมันเยิ้ม อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ฯลฯ ล้วนมีไขมันอิ่มตัวและสารเติมแต่งสูง ซึ่งหากกินเป็นประจำจะทำให้ไขมันสะสมในตับโดยไม่รู้ตัว แม้คุณจะน้ำหนักไม่เพิ่ม แต่การกินแบบนี้ก็ทำลายตับอย่างช้า ๆ

5. ขาดการออกกำลังกาย – นั่งนานไม่ลุกเดิน

แม้กินน้อย แต่ถ้าไม่เคลื่อนไหวร่างกาย ระบบเผาผลาญจะช้าลง ไขมันก็จะไปสะสมที่ตับ การนั่งทำงาน 8–10 ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่ออกกำลังกายเลย เป็นพฤติกรรมเสี่ยงสูง! ขณะที่การเดินเร็ว เล่นโยคะ หรือออกกำลังเบาๆ แค่วันละ 30 นาที สามารถช่วยฟื้นฟูตับได้

คำแนะนำจากแพทย์คือ ควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อจับสัญญาณไขมันพอกตับแต่เนิ่นๆ พร้อมทั้งปรับพฤติกรรม เช่น นอนให้พอ, ลดน้ำตาล-ของทอด, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักแบบฮาร์ดคอร์ เพราะไขมันพอกตับไม่ได้เกิดจากแค่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่มาจากพฤติกรรมที่เราทำทุกวันโดยไม่รู้ตัว!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก sanook.com

"พอลล่า" เปิดภาพหวาน "เต้ บรม" ควงเที่ยวสวนสนุกญี่ปุ่น ย้อนความรักวัยเด็ก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทำความรู้จัก "ฟ้า ยงวรี" นางเอกดีกรีนักบิน สวย เก่ง ครบเครื่อง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

ฮุน เซน เสียขุนศึกคู่ใจ พล.อ.สรัย รองผบ.ทบ. เสียชีวิตจากปะทะ ก่อนประกาศหยุดยิง

สยามนิวส์

"ทรัมป์" ไฟเขียวเจรจาการค้าต่อ หลังไทย-กัมพูชา หยุดยิง

Thai PBS

สหรัฐฯ – จีน เปิดเจรจาการค้ารอบใหม่ คาดหาทางขยายเส้นตายภาษี

PostToday

"ฮุน เซน" โพสต์รูปถ่ายคู่ "ทรัมป์" ขอบคุณ "อันวาร์" ช่วยบรรลุข้อตกลงหยุดยิง

สยามรัฐ

ด่วน! "ทรัมป์" ต่อสายตรงคุย "ภูมิธรรม" เตรียมเปิดโต๊ะเจรจาการค้า ขานรับ "ไทย" หยุดยิง

สยามรัฐ

"รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ" ขานรับ "ไทย-กัมพูชา" ประกาศหยุดยิง เรียกร้องทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลง

สยามรัฐ

"อันวาร์" จัดตั้งกรรมการสังเกตการณ์มาตรการหยุดยิง "ไทย-กัมพูชา"

สยามรัฐ

"ทรัมป์" จ่อคว่ำบาตร "รัสเซีย" เร็วขึ้น! หากไม่บรรลุดีลสันติภาพกับ "ยูเครน"

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

เจ้าสาวบ่นอุบ เพิ่งรู้ชุดแต่งงานที่เช่า "ดารา AV" เคยใส่ ชาวเน็ตถกเสียงแตกสองฝั่ง

sanook.com

แบบนี้ก็มี? ประเทศที่ขุดเจอ "ขุมทรัพย์ระดับโลก" แต่ประชาชนกำลัง "ทุกข์" เพราะรวยเกินไป!

sanook.com

ต่างชาติแชร์ทริค "โรยเกลือลงชักโครก" ทั้งบ้านได้ประโยชน์เกินคาด แต่ต้องทำบ่อยแค่ไหน?!

sanook.com
ดูเพิ่ม
Loading...